×
ความประเสริฐของวงศ์ตระกูลท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม นามต่างๆ ของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ความประเสริฐของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เหนือบรรดานบีท่านอื่นๆ ความประเสริฐของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เหนือสรรพสิ่งต่างๆ การอิสรออ์และมิอฺรอจญ์ของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ความประเสริฐของการกล่าวเศาะละวาต (ประสาทพร) และกล่าวสลาม(ขอความสันติ) ให้แด่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม สำนวนการกล่าวเศาะละวาตแด่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ที่สมบูรณ์

    ความประเสิฐของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม

    ﴿فضائل النبي صلى الله عليه وسلم﴾

    ]  ไทย – Thai – تايلاندي [

    มุหัมมัด บิน อิบรอฮีม อัตตุวัยญิรีย์

    แปลโดย :อันวา สะอุ

    ผู้ตรวจทาน : ซุฟอัม อุษมาน

    ที่มา : หนังสือมุคตะศ็อร อัลฟิกฮิล อิสลามีย์

    ﴿فضائل النبي صلى الله عليه وسلم﴾

    « باللغة التايلاندية »

    الشيخ محمد بن إبراهيم التويجري

    ترجمة: أنور  إسماعيل

    مراجعة: صافي عثمان

    مصدر: كتاب مختصر الفقه الإسلامي


    ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ

    ความประเสิฐของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม

    ความประเสริฐของวงศ์ตระกูลท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม

                จากวาษิละฮฺ บิน อัลอัสเกาะอฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า

    «إنَّ الله اصْطَفَى كِنَانَةَ مِنْ وَلَدِ إسْمَاعِيلَ، وَاصْطَفَى قُرَيْشاً مِنْ كِنَانَةَ، وَاصْطَفَى مِنْ قُرَيْشٍ بَنِي هَاشِمٍ، وَاصْطَفَانِي مِنْ بَنِي هَاشِمٍ». أخرجه مسلم

    ความว่า “แท้จริงอัลลอฮฺทรงเลือกเผ่ากินานะฮฺมาจากลูกหลานของอิสมาอีล และทรงเลือกเผ่ากุร็อยชฺมาจากลูกหลานของกินานะฮฺ และทรงเลือกตระกูลบนีฮาชิมมาจากเผ่ากุร็อยชฺและทรงเลือกฉันจากตระกูลบนีฮาชิม(มาเป็นนบี) (บันทึกโดย มุสลิม : 2276)

    นามต่างๆ ของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม

    จาก ญุบัยรฺ บิน มุฏอิม เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ แท้จริงท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า    

    «إنَّ لِيْ أَسْمَاءً، أَنَا مُـحَـمَّدٌ، وَأَنَا أَحْـمَدُ، وَأَنَا المَاحِي الَّذِي يَـمْـحُو الله بِيَ الكُفْرَ، وَأَنَا الحَاشِرُ الَّذِي يُـحْشَرُ النَّاسُ عَلَى قَدَمَيَّ، وَأَنَا العَاقِبُ الَّذِي لَيْسَ بَـعْدَهُ أَحَدٌ». وفي لفظ: «وَنَبِيُّ التَّوبَةِ، وَنَبِيُّ الرَّحْـمَةِ». متفق عليه

    ความว่า “แท้จริง สำหรับฉันนั้นมีหลายนาม ฉันคือมุฮัมหมัด ฉันคืออะหฺมัด ฉันคือ อัล-มาหีย์(ผู้ลบล้าง) ผู้ซึ่งอัลลอฮฺทรงลบล้างกุฟฺร (การปฏิเสธ) ด้วยกับตัวฉัน และฉันคืออัล-หาชิร (ผู้รวบรวม) ผู้ซึ่งอัลลอฮฺทรงรวบรวมมวลมนุษย์ ณ เบื้องเท้าของฉัน และฉันคืออัล-อากิบ ผู้ที่ไม่มีนบีหลังจากฉัน” ในบางสำนวนกล่าวว่า “ฉันคือ นบี อัต-เตาบะฮฺ (นบีแห่งการกลับตัว) และ นบี อัร-เราะหฺมะฮฺ (นบีแห่งความเมตตา) (บันทึกโดย อัลบุคอรีย์ : 4896 และมุสลิม : 2354 , 2355)

    ความประเสริฐของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เหนือบรรดานบีท่านอื่นๆ

                1.จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ แท้จริงท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า

    «فُضِّلْتُ عَلَى الأَنْبِيَاءِ بِسِتٍّ: أُعْطِيتُ جَوَامِعَ الكَلِـمِ، وَنُصِرْتُ بِالرُّعْبِ، وَأُحِلَّتْ لِيَ الغَنَائِمُ، وَجُعِلَتْ لِيَ الأَرْضُ طَهُوْراً وَمَسْجِداً، وَأُرْسِلْتُ إلَى الخَلْقِ كَافَّةً، وَخُتِـمَ بِيَ النَّبِيُّونَ». أخرجه مسلم

    ความว่า “ฉันได้รับความประเสริฐเหนือบรรดานบีท่านอื่นๆ ด้วยสิ่งต่างๆ หกประการ คือ ฉันได้รับคำพูดที่ครอบคลุม ได้รับชัยชนะด้วยความหวาดผวา(ของศัตรู) ได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินที่ยึดได้จากการสงคราม แผ่นดินทุกแหล่งหล้าเป็นสถานที่ที่สะอาดและสามารถใช้เป็นสถานที่ละหมาดได้สำหรับฉัน ฉันถูกส่งมายังมนุษยชาติทั้งมวล และบรรดานบีถูกปิดท้ายด้วยการเป็นนบีของฉัน” (บันทึกโดย มุสลิม : 523)

    2. และจากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ แท้จริงท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า

    «مَثَلِي وَمَثَلُ الأَنْبِيَاءِ مِنْ قَبْلِي كَمَثَلِ رَجُلٍ بَنَى بُنْيَاناً فَأَحْسَنَـهُ وَأَجْـمَلَـهُ إلَّا مَوْضِعَ لَبِنَةٍ مِنْ زَاوِيَةٍ مِنْ زَوَايَاهُ، فَجَعَلَ النَّاسُ يَطُوفُونَ بِـهِ، وَيَـعْجَبُونَ لَـهُ، وَيَـقُولُونَ: هَلَّا وُضِعَتْ هَذِهِ اللَّبِنَةُ، قَالَ: فَأَنَا اللَّبِنَةُ وَأَنَا خَاتِـمُ النَّبِيِّينَ». متفق عليه

    ความว่า “อุปมาตัวฉันและนบีทั้งหลายอุปมัยดังบุคคลที่สร้างอาคารหลังหนึ่ง โดยได้สร้างอาคารหลังนั้นอย่างสวยงามและสมบูรณ์เว้นแต่ ณ มุมหนึ่งของอาคารหลังนั้นไม่ได้ก่ออิฐเพียงก้อนเดียว ผู้คนได้เข้าไปในอาคารหลังนั้นต่างพากันประหลาดใจและกล่าวว่า ตรงนี้น่าจะมีการก่ออิฐ (อาคารนี้จึงจะได้สมบูรณ์) ท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า ฉันนี้แหละเป็นเสมือนอิฐก้อนนั้น และฉันคือนบีคนสุดท้าย” (บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ : 3535 และมุสลิม : 2286)


    ความประเสริฐของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เหนือสรรพสิ่งต่างๆ

                จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ กล่าวว่า ท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า

    «أَنَا سَيِّدُ وَلَدِ آدَمَ يَومَ القِيَامَةِ، وَأَوَّلُ مَنْ يَنْشَقُّ عَنْـهُ القَبْرُ، وَأَوَّلُ شَافِعٍ، وَأَوَّلُ مُشَفَّعٍ». أخرجه مسلم.

    ความว่า “ฉันคือผู้นำของลูกหลานอาดัมในวันกิยามะฮฺ และฉันคือผู้ที่ฟื้นออกมาจากสุสานคนแรก และฉันเป็นคนแรกที่ให้การชะฟาอะฮฺ (ไถ่โทษ) และคนแรกที่ได้รับอนุญาตเพื่อให้การชะฟาอะฮฺ” (บันทึกโดย มุสลิม :2278)

    การอิสรออ์และมิอฺรอจญ์ของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม

    1.อัลลอฮฺ ตะอาลา ตรัสว่า

    ﴿ ﭑ  ﭒ  ﭓ  ﭔ  ﭕ  ﭖ  ﭗ  ﭘ     ﭙ     ﭚ  ﭛ  ﭜ   ﭝ  ﭞ  ﭟ     ﭠ  ﭡﭢ  ﭣ      ﭤ  ﭥ  ﭦ﴾ [الإسراء/1].

    ความว่า " มหาบริสุทธิ์ผู้ทรงนำบ่าวของพระองค์เดินทางในเวลากลางคืนจากมัสยิดอัลหะรอมไปยังมัสยิดอัลอักศอ ซึ่งบริเวณรอบมันนั้นเราได้ให้ความจำเริญเพื่อเราจะให้เขาเห็นบางอย่างจากสัญญาณต่างๆ ของเรา แท้จริง พระองค์ผู้ทรงได้ยินผู้ทรงเห็น" (อัลอิสรออ์ :1)

    2. จากอะนัส บิน มาลิก เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ แท้จริงท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า

    « أُتِيتُ بِالْبُرَاقِ وَهُوَ دَابَّةٌ أَبْيَضُ طَوِيلٌ فَوْقَ الْحِمَارِ وَدُونَ الْبَغْلِ يَضَعُ حَافِرَهُ عِنْدَ مُنْتَهَى طَرْفِهِ قَالَ فَرَكِبْتُهُ حَتَّى أَتَيْتُ بَيْتَ الْمَقْدِسِ قَالَ فَرَبَطْتُهُ بِالْحَلْقَةِ الَّتِي يَرْبِطُ بِهِ الْأَنْبِيَاءُ قَالَ ثُمَّ دَخَلْتُ الْمَسْجِدَ فَصَلَّيْتُ فِيهِ رَكْعَتَيْنِ ثُمَّ خَرَجْتُ فَجَاءَنِي جِبْرِيلُ عَلَيْهِ السَّلَام بِإِنَاءٍ مِنْ خَمْرٍ وَإِنَاءٍ مِنْ لَبَنٍ فَاخْتَرْتُ اللَّبَنَ فَقَالَ جِبْرِيلُ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ اخْتَرْتَ الْفِطْرَةَ ثُمَّ عَرَجَ بِنَا إِلَى السَّمَاءِ فَاسْتَفْتَحَ جِبْرِيلُ فَقِيلَ مَنْ أَنْتَ قَالَ جِبْرِيلُ قِيلَ وَمَنْ مَعَكَ قَالَ مُحَمَّدٌ قِيلَ وَقَدْ بُعِثَ إِلَيْهِ قَالَ قَدْ بُعِثَ إِلَيْهِ فَفُتِحَ لَنَا فَإِذَا أَنَا بِآدَمَ فَرَحَّبَ بِي وَدَعَا لِي بِخَيْرٍ ثُمَّ عَرَجَ بِنَا إِلَى السَّمَاءِ الثَّانِيَةِ فَاسْتَفْتَحَ جِبْرِيلُ عَلَيْهِ السَّلَام فَقِيلَ مَنْ أَنْتَ قَالَ جِبْرِيلُ قِيلَ وَمَنْ مَعَكَ قَالَ مُحَمَّدٌ قِيلَ وَقَدْ بُعِثَ إِلَيْهِ قَالَ قَدْ بُعِثَ إِلَيْهِ فَفُتِحَ لَنَا فَإِذَا أَنَا بِابْنَيْ الْخَالَةِ عِيسَى ابْنِ مَرْيَمَ وَيَحْيَى بْنِ زَكَرِيَّاءَ صَلَوَاتُ اللَهِ عَلَيْهِمَا فَرَحَّبَا وَدَعَوَا لِي بِخَيْرٍ ثُمَّ عَرَجَ بِي إِلَى السَّمَاءِ الثَّالِثَةِ فَاسْتَفْتَحَ جِبْرِيلُ فَقِيلَ مَنْ أَنْتَ قَالَ جِبْرِيلُ قِيلَ وَمَنْ مَعَكَ قَالَ مُحَمَّدٌ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قِيلَ وَقَدْ بُعِثَ إِلَيْهِ قَالَ قَدْ بُعِثَ إِلَيْهِ فَفُتِحَ لَنَا فَإِذَا أَنَا بِيُوسُفَ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ إِذَا هُوَ قَدْ أُعْطِيَ شَطْرَ الْحُسْنِ فَرَحَّبَ وَدَعَا لِي بِخَيْرٍ ثُمَّ عَرَجَ بِنَا إِلَى السَّمَاءِ الرَّابِعَةِ فَاسْتَفْتَحَ جِبْرِيلُ عَلَيْهِ السَّلَام قِيلَ مَنْ هَذَا قَالَ جِبْرِيلُ قِيلَ وَمَنْ مَعَكَ قَالَ مُحَمَّدٌ قَالَ وَقَدْ بُعِثَ إِلَيْهِ قَالَ قَدْ بُعِثَ إِلَيْهِ فَفُتِحَ لَنَا فَإِذَا أَنَا بِإِدْرِيسَ فَرَحَّبَ وَدَعَا لِي بِخَيْرٍ قَالَ اللَّهُ عَزَّ وَجَلَّ ﴿ﮂ ﮃ ﮄﮅ﴾ [مريم/ 57]. ثُمَّ عَرَجَ بِنَا إِلَى السَّمَاءِ الْخَامِسَةِ فَاسْتَفْتَحَ جِبْرِيلُ قِيلَ مَنْ هَذَا قَالَ جِبْرِيلُ قِيلَ وَمَنْ مَعَكَ قَالَ مُحَمَّدٌ قِيلَ وَقَدْ بُعِثَ إِلَيْهِ قَالَ قَدْ بُعِثَ إِلَيْهِ فَفُتِحَ لَنَا فَإِذَا أَنَا بِهَارُونَ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَرَحَّبَ وَدَعَا لِي بِخَيْرٍ ثُمَّ عَرَجَ بِنَا إِلَى السَّمَاءِ السَّادِسَةِ فَاسْتَفْتَحَ جِبْرِيلُ عَلَيْهِ السَّلَام قِيلَ مَنْ هَذَا قَالَ جِبْرِيلُ قِيلَ وَمَنْ مَعَكَ قَالَ مُحَمَّدٌ قِيلَ وَقَدْ بُعِثَ إِلَيْهِ قَالَ قَدْ بُعِثَ إِلَيْهِ فَفُتِحَ لَنَا فَإِذَا أَنَا بِمُوسَى صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَرَحَّبَ وَدَعَا لِي بِخَيْرٍ ثُمَّ عَرَجَ إِلَى السَّمَاءِ السَّابِعَةِ فَاسْتَفْتَحَ جِبْرِيلُ فَقِيلَ مَنْ هَذَا قَالَ جِبْرِيلُ قِيلَ وَمَنْ مَعَكَ قَالَ مُحَمَّدٌ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قِيلَ وَقَدْ بُعِثَ إِلَيْهِ قَالَ قَدْ بُعِثَ إِلَيْهِ فَفُتِحَ لَنَا فَإِذَا أَنَا بِإِبْرَاهِيمَ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ مُسْنِدًا ظَهْرَهُ إِلَى الْبَيْتِ الْمَعْمُورِ وَإِذَا هُوَ يَدْخُلُهُ كُلَّ يَوْمٍ سَبْعُونَ أَلْفَ مَلَكٍ لَا يَعُودُونَ إِلَيْهِ ثُمَّ ذَهَبَ بِي إِلَى السِّدْرَةِ الْمُنْتَهَى وَإِذَا وَرَقُهَا كَآذَانِ الْفِيَلَةِ وَإِذَا ثَمَرُهَا كَالْقِلَالِ قَالَ فَلَمَّا غَشِيَهَا مِنْ أَمْرِ اللهِ مَا غَشِيَ تَغَيَّرَتْ فَمَا أَحَدٌ مِنْ خَلْقِ اللهِ يَسْتَطِيعُ أَنْ يَنْعَتَهَا مِنْ حُسْنِهَا فَأَوْحَى اللهُ إِلَيَّ مَا أَوْحَى فَفَرَضَ عَلَيَّ خَمْسِينَ صَلَاةً فِي كُلِّ يَوْمٍ وَلَيْلَةٍ فَنَزَلْتُ إِلَى مُوسَى صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَقَالَ مَا فَرَضَ رَبُّكَ عَلَى أُمَّتِكَ قُلْتُ خَمْسِينَ صَلَاةً قَالَ ارْجِعْ إِلَى رَبِّكَ فَاسْأَلْهُ التَّخْفِيفَ فَإِنَّ أُمَّتَكَ لَا يُطِيقُونَ ذَلِكَ فَإِنِّي قَدْ بَلَوْتُ بَنِي إِسْرَائِيلَ وَخَبَرْتُهُمْ قَالَ فَرَجَعْتُ إِلَى رَبِّي فَقُلْتُ يَا رَبِّ خَفِّفْ عَلَى أُمَّتِي فَحَطَّ عَنِّي خَمْسًا فَرَجَعْتُ إِلَى مُوسَى فَقُلْتُ حَطَّ عَنِّي خَمْسًا قَالَ إِنَّ أُمَّتَكَ لَا يُطِيقُونَ ذَلِكَ فَارْجِعْ إِلَى رَبِّكَ فَاسْأَلْهُ التَّخْفِيفَ قَالَ فَلَمْ أَزَلْ أَرْجِعُ بَيْنَ رَبِّي تَبَارَكَ وَتَعَالَى وَبَيْنَ مُوسَى عَلَيْهِ السَّلَام حَتَّى قَالَ يَا مُحَمَّدُ إِنَّهُنَّ خَمْسُ صَلَوَاتٍ كُلَّ يَوْمٍ وَلَيْلَةٍ لِكُلِّ صَلَاةٍ عَشْرٌ فَذَلِكَ خَمْسُونَ صَلَاةً وَمَنْ هَمَّ بِحَسَنَةٍ فَلَمْ يَعْمَلْهَا كُتِبَتْ لَهُ حَسَنَةً فَإِنْ عَمِلَهَا كُتِبَتْ لَهُ عَشْرًا وَمَنْ هَمَّ بِسَيِّئَةٍ فَلَمْ يَعْمَلْهَا لَمْ تُكْتَبْ شَيْئًا فَإِنْ عَمِلَهَا كُتِبَتْ سَيِّئَةً وَاحِدَةً قَالَ فَنَزَلْتُ حَتَّى انْتَهَيْتُ إِلَى مُوسَى صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَأَخْبَرْتُهُ فَقَالَ ارْجِعْ إِلَى رَبِّكَ فَاسْأَلْهُ التَّخْفِيفَ فَقَالَ رَسُولُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَقُلْتُ قَدْ رَجَعْتُ إِلَى رَبِّي حَتَّى اسْتَحْيَيْتُ مِنْهُ ». متفق عليه.

    ความว่า “ญิบรีลได้นำบุรอกมาให้ฉัน บุรอกเป็นสัตว์ชนิดหนึ่ง สีขาว มีลำตัวยาวกว่าลาแต่สั้นกว่าล่อ มันสามารถกระโดดได้ไกล ฉันได้ขี่สัตว์ดังกล่าวไปถึงบัยตุลมักดิส และได้ผูกไว้กับหลักซึ่งบรรดานบีเคยใช้เป็นหลักผูกพาหนะของตน ฉันได้เข้าไปในมัสยิดและละหมาดสองร็อกอะฮฺเสร็จแล้วฉันได้ออกจากมัสยิด ญิบรีลได้นำภาชนะสองใบมาให้ฉันเลือก ใบหนึ่งบรรจุสุราและอีกใบหนึ่งบรรจุน้ำนมฉันได้เลือกใบที่บรรจุน้ำนม ญิบรีลกล่าวว่า ท่านเลือกสิ่งที่บริสุทธิ์ หลังจากนั้นฉันถูกนำไปสู่ฟ้า ญิบรีลได้เรียกให้เปิดประตู ได้มีผู้ถามว่า ท่านเป็นใคร ญิบรีลตอบว่า ฉันคือญิบรีล มีคำถามอีกว่า ที่มากับท่านนั้นเป็นใคร ญิบรีลตอบว่า มุฮัมหมัด มีคำถามอีกว่า แล้วเขาได้รับการแต่งตั้งเป็นเราะซูลหรือยัง ญิบรีลตอบว่า เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นเราะซูลแล้ว จากนั้นประตูจึงเปิดให้กับเรา เมื่อเขาไปฉันได้พบกับนบีอาดัม ท่านได้กล่าวต้อนรับฉันและขอดุอาอ์เพื่อให้ฉันประสบแต่สิ่งที่ดีงาม แล้วฉันขึ้นไปยังฟ้าชั้นสอง ญิบรีลได้เรียกให้เปิดประตูได้มีผู้ถามว่าท่านเป็นใคร ญิบรีลตอบว่า ฉันคือญิบรีล มีคำถามอีกว่า ที่มากับท่านนั้นเป็นใคร ญิบรีลตอบว่า มุฮัมหมัด มีคำถามอีกว่า แล้วเขาได้รับการแต่งตั้งเป็นเราะซูลหรือยัง ญิบรีลตอบว่า เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นเราะซูลแล้ว จากนั้นประตูจึงเปิด ฉันได้พบกับหลานและลุงคู่หนึ่งนั้นคือ อีซา บุตรของมัรยัม และยะหฺยา บุตรของซะกะริยา อะลัยฮิมัสสะลาม ทั้งสองได้กล่าวต้อนรับฉันและได้ดุอาอ์เพื่อให้ฉันประสบแต่สิ่งที่ดีงาม จากนั้นฉันถูกนำไปยังฟ้าชั้นสาม ญิบรีลได้เรียกให้เปิดประตูได้มีผู้ถามว่าท่านเป็นใคร ญิบรีลตอบว่า ฉันคือญิบรีล มีคำถามอีกว่า ที่มากับท่านนั้นเป็นใคร ญิบรีลตอบว่า มุฮัมหมัด มีคำถามอีกว่า แล้วเขาได้รับการแต่งตั้งเป็นเราะซูลหรือยัง ญิบรีลตอบว่า เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นเราะซูลแล้ว จากนั้นประตูจึงเปิดให้เราเข้าไป ทันใดนั้นฉันได้พบกับนบียูซุฟซึ่งมีความสง่างามหนึ่งในสองของมวลความสง่างามที่มีอยู่ ท่านได้กล่าวต้อนรับฉันและได้ดุอาอ์เพื่อให้ฉันประสบแต่สิ่งที่ดีงาม จากนั้นฉันถูกนำไปยังฟ้าชั้นสี่ ญิบรีลได้เรียกให้เปิดประตูได้มีผู้ถามว่าท่านเป็นใคร ญิบรีลตอบว่า ฉันคือญิบรีล มีคำถามอีกว่า ที่มากับท่านนั้นเป็นใคร ญิบรีลตอบว่า มุฮัมหมัด มีคำถามอีกว่า แล้วเขาได้รับการแต่งตั้งเป็นเราะซูลหรือยัง ญิบรีลตอบว่า เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นเราะซูลแล้ว จากนั้นประตูจึงเปิดให้เราเข้าไป ฉันได้พบกับท่านนบีอิดรีส ท่านได้ทักทายและต้อนรับฉันและได้ดุอาอ์ให้ฉันประสบแต่สิ่งที่ดีงาม อัลลอฮฺตรัสว่า

    ﴿ ﮄﮅ

    ความว่า “เราได้ยกย่องเขาไว้ในสถานอันสูงส่ง” (มัรยัม :57)

    จากนั้นจึงถูกนำไปยังฟ้าชั้นห้า ญิบรีลได้เรียกให้เปิดประตูได้มีผู้ถามว่าท่านเป็นใคร ญิบรีลตอบว่า ฉันคือญิบรีล มีคำถามอีกว่า ที่มากับท่านนั้นเป็นใคร ญิบรีลตอบว่า มุฮัมหมัด มีคำถามอีกว่า แล้วเขาได้รับการแต่งตั้งเป็นเราะซูลหรือยัง ญิบรีลตอบว่า เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นเราะซูลแล้ว จากนั้นประตูจึงเปิดให้เราเข้าไป ฉันได้พบกับท่านนบีฮารูน ท่านได้กล่าวต้อนรับฉันและได้ดุอาอ์เพื่อให้ฉันประสบแต่สิ่งที่ดีงาม จากนั้นฉันถูกนำไปยังฟ้าชั้นหก ญิบรีลได้เรียกให้เปิดประตูได้มีผู้ถามว่าท่านเป็นใคร ญิบรีลตอบว่า ฉันคือญิบรีล มีคำถามอีกว่า ที่มากับท่านนั้นเป็นใคร ญิบรีลตอบว่า มุฮัมหมัด มีคำถามอีกว่า แล้วเขาได้รับการแต่งตั้งเป็นเราะซูลหรือยัง ญิบรีลตอบว่า เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นเราะซูลแล้ว จากนั้นประตูจึงเปิดให้เราเข้าไป ฉันได้พบกับท่านนบีมูซา ท่านได้กล่าวต้อนรับฉันและได้ดุอาอ์เพื่อให้ฉันประสบแต่สิ่งที่ดีงาม จากนั้นฉันถูกนำไปยังฟ้าชั้นที่เจ็ด ญิบรีลได้เรียกให้เปิดประตูได้มีผู้ถามว่าท่านเป็นใคร ญิบรีลตอบว่า ฉันคือญิบรีล มีคำถามอีกว่า ที่มากับท่านนั้นเป็นใคร ญิบรีลตอบว่า มุฮัมหมัด มีคำถามอีกว่า แล้วเขาได้รับการแต่งตั้งเป็นเราะซูลหรือยัง ญิบรีลตอบว่า เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นเราะซูลแล้ว จากนั้นประตูจึงเปิดให้เราเข้าไป ฉันได้พบกับท่านนบีอิบรอฮีม ท่านนั่งพิงอยู่  ณ  ที่บัยตุ้ลมะอฺมูร  ซึ่งจะมีมลาอิกะฮฺเข้าไปทุกวันถึงเจ็ดหมื่นท่าน หลังจากนั้น  ญิบรีล นำฉันไปสู่ต้นพุทรา(สิดเราะตุ้ลมุนตะฮา) ซึ่งเป็นต้นไม้ในสวนสวรรค์  ซึ่งใบของมันเหมือนใบหูของช้าง  ผลขอมันเหมือนโอ่งดินเผา  ซึ่งบางครั้งมันจะถูกปิดด้วยพระประสงค์ของอัลลอฮฺ มันก็จะเปลี่ยนแปลง  ซึ่งไม่มีผู้ใดที่จะสามารถพรรณนาถึงความงามวิจิตรของมันได้ จากนั้นอัลลอฮฺได้ประทานวะหฺยู(วิวรณ์)ให้แก่ฉัน บัญญัติให้ละหมาดห้าสิบเวลาในวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง  ฉันจึงลงไปหาท่านนบีมูซา  เขากล่าวว่า อะไรหรือที่พระผู้อภิบาลของท่านได้บัญญัติเหนือประชาชาติของท่าน  ฉันตอบว่า ละหมาดห้าสิบเวลา นบีมูซากล่าวว่าท่านจงกลับไปขอลดหย่อนต่อพระผู้อภิบาลของท่าน  เพราะประชาชาติของท่านไม่มีความสามารถปฏิบัติเช่นนั้นได้เพราะฉันได้เคยทดลองกับชาวอิสรออีลมาแล้ว ท่านนบีมุฮัมมัดกล่าวต่อไปว่า "ฉันได้กลับไปยังพระผู้อภิบาลของฉันและวิงวอนต่อพระองค์ว่า โอ้องค์อภิบาลของฉัน ได้โปรดทรงลดหย่อนให้แก่ประชาชาติของฉันด้วยเถิด  ดังนั้น พระองค์ทรงลดให้ฉันจนกระทั่งเหลือห้าเวลา  ฉันได้กลับไปหานบีมูซาและกล่าวแก่นบีมูซาว่า อัลลอฮฺทรงลดหย่อนให้ฉันเหลือห้าเวลา  ท่านนบีมูซากล่าวว่า ประชาชาติของท่านมิอาจปฏิบัติได้ท่านจงกลับไปขอลดหย่อนต่ออัลลอฮฺอีกเถิด ท่านนบีกล่าวว่า ฉันได้กลับไปมาระหว่างพระองค์กับนบีมูซาจนกระทั่งอัลลอฮฺ ตะอาลา ทรงตรัสกับนบีมุฮัมมัดว่า โอ้ มุฮัมมัดเอ๋ย ละหมาดนั้นมีห้าเวลาในทุกหนึ่งวันและหนึ่งคืน  และทุกหนึ่งเวลาเท่ากับสิบเวลาละหมาด  ดังกล่าวนั้นจึงเท่ากับห้าสิบเวลา  และผู้ใดที่ตั้งใจกระทำหนึ่งความดี  แต่เขาไม่ได้ปฏิบัติมัน  ก็ย่อมถูกบันทึกให้แก่เขาหนึ่งความดี  และผู้ใดตั้งใจกระทำหนึ่งความชั่ว แต่เขาไม่ได้ปฏิบัติมัน  ก็ไม่ถูกบันทึกบาปใดๆ แก่เขา  และผู้ใดตั้งใจกระทำหนึ่งความชั่ว  และได้กระทำมันลงไป  ก็จะถูกบันทึกให้แก่เขาหนึ่งความชั่วเท่านั้น ดังนั้น ฉันจึงลงจากฟากฟ้าและได้พบกับนบีมูซาและทำการเล่าให้นบีมูซาฟัง  ท่านนบีมูซากล่าวว่า "ท่านจงกลับไปขอผ่อนปรนต่ออัลลอฮฺอีกเถิด"  ท่านนบีมุฮัมมัดกล่าวว่า "ฉันได้กลับไปยังพระผู้อภิบาลของฉันจนกระทั่งละอายต่อพระองค์เสียแล้ว" (บันทึกโดย อัลบุคอรีย์ : 7517 และมุสลิม : 162)

    ความประเสริฐของการกล่าวเศาะละวาต (ประสาทพร) และกล่าวสลาม(ขอความสันติ) ให้แด่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม

    1. อัลลอฮฺตะอาลา ได้ตรัสว่า

    ﴿ﭲ  ﭳ  ﭴ  ﭵ   ﭶ  ﭷﭸ  ﭹ  ﭺ   ﭻ  ﭼ  ﭽ  ﭾ  ﭿ  ﴾  [الأحزاب/56].

    ความว่า “แท้จริงอัลลอฮฺและมลาอิกะฮฺของพระองค์ประสาทพรแก่นบี โอ้ บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย !พวกเจ้าจงประสาทพรให้เขาและกล่าวทักทายเขาโดยคารวะ” (อัลอะหฺซาบ : 56)

    2. และจากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ แท้จริงท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า

    «مَنْ صَلَّى عَلَيَّ وَاحِدَةً صَلَّى الله عَلَيهِ عَشْراً». أخرجه مسلم.

    ความว่า “ผู้ใดที่กล่าวเศาะละวาต (ประสาทพร) แก่ฉันหนึ่งครั้ง อัลลอฮฺจะทรงประทานเมตตาและผลบุญแก่เขาสิบครั้ง" (บันทึกโดยมุสลิม : 408)

    3. และจากท่านอับดุลลอฮฺ เบ็น มัสอูด เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ กล่าวว่า ท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า   

    « إِنَّ لِلهِ مَلَائِكَةً سَيَّاحِينَ فِي الأَرْضِ يُبَلِّغُونِي مِنْ أُمَّتِي السَّلَامَ ». أخرجه أحمد والنسائي.

    ความว่า “แท้จริงสำหรับอัลลอฮฺนั้นมีบรรดามลาอิกะฮฺที่ทำหน้าที่ตระเวนบนพื้นแผ่นดินคอยรายงานแก่ฉันถึงการกล่าวสลามจากประชาชาติของฉัน” (หะดีษเศาะหีหฺ บันทึกโดยอะหฺมัด :3666 และอันนะสาอีย์ :1282 อัลสิลสิละฮฺ อัศเศาหีหะฮฺ : 2853)

    สำนวนการกล่าวเศาะละวาตแด่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ที่สมบูรณ์

    «اللهم صَلِّ عَلَى مُـحَـمَّدٍ وَعَلَى آلِ مُـحَـمَّدٍ، كَمَا صَلَّيْتَ عَلَى إبْرَاهِيمَ، وَعَلَى آلِ إبْرَاهِيمَ إنَّكَ حَـمِيدٌ مَـجِيْدٌ، اللهم بَارِكْ عَلَى مُـحَـمَّدٍ، وَعَلَى آلِ مُـحَـمَّدٍ كَمَا بَارَكْتَ عَلَى إبْرَاهِيمَ، وَعَلَى آلِ إبْرَاهِيمَ إنَّكَ حَـمِيدٌ مَـجِيدٌ». متفق عليه.

    ความว่า “โอ้อัลลอฮฺ ! ขอได้โปรดประทานพรแก่มุฮัมหมัด และวงศ์วานของมุฮัมหมัด เช่นเดียวกับที่ได้ทรงประทานพรแก่อิบรอฮีมและวงศ์วานของอิบรอฮีมมาแล้ว  แน่แท้พระองค์เป็นผู้ทรงได้รับการสรรเสริญยิ่งและทรงไว้ซึ่งเกียรติอันสูงศักดิ์ โอ้อัลลอฮฺ !  ขอได้โปรดประทานความสิริมงคลแด่มุฮัมหมัดและวงศ์วานของมุฮัมหมัด เช่นเดียวกับที่พระองค์ได้ประทานความศิริมงคลแก่อิบรอฮีมและวงศ์วานของอิบรอฮีมมาแล้ว  แน่แท้พระองค์เป็นผู้ทรงได้รับการสรรเสริญยิ่งและทรงไว้ซึ่งเกียรติอันสูงศักดิ์” (บันทึกโดย อัลบุคอรีย์ : 3370 และมุสลิม : 406)