×
ประการหนึ่งในเรื่องที่พ่อแม่หลายๆคนปล่อยปละละเลยคือ การสอนสั่ง ชี้แนะ และให้คำตักเตือนลูกๆของพวกเขา ไม่ใช่ใช้แต่วิธีรุนแรง หรือตวาดกับความผิดพลาดของพวกเขา แต่ให้เริ่มด้วยกับการแสดงความมุ่งหวังและความเป็นห่วงกังวลต่อพวกเขา เพราะเป็นทางที่จะได้รับการยอมรับที่ดีที่สุด และไม่ควรปล่อยปละละเลยพวกเขาโดยอ้างว่าพวกเขาเด็กอยู่ยังไม่เข้าใจ เป็นบทความจากหนังสืออัด-ดุรูส อัล-เยามียะฮฺ มิน อัส-สุนัน วะ อัล-อะห์กาม อัช-ชัรอียะฮฺ ของ ดร.รอชิด อัล-อับดุลกะรีม ต้นฉบับเดิมจาก http://IslamHouse.com/78415

    การอบรมลูกหลาน (3)

    ] ไทย – Thai – تايلاندي [

    ดร.รอชิด บิน หุเสน อัล-อับดุลกะรีม

    แปลโดย : สะอัด วารีย์

    ตรวจทานโดย : ทีมงานภาษาไทยเว็บอิสลามเฮ้าส์

    ที่มา : หนังสือ อัด-ดุรูส อัล-เยามียะฮฺ มิน อัส-สุนัน วะ อัล-อะห์กาม อัช-ชัรอียะฮฺ, เว็บ al-islam.com

    2014 - 1435

    تربية الأولاد (3)

    « باللغة التايلاندية »

    د. راشد بن حسين العبد الكريم

    ترجمة: سعد واري

    مراجعة: فريق اللغة التايلاندية بموقع دار الإسلام

    المصدر: كتاب الدروس اليومية من السنن والأحكام الشرعية

    موقع الإسلام www.al-islam.com

    2014 - 1435

    ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ

    การอบรมลูกหลาน (3)

    อัลลอฮฺ ตะอาลา ตรัสว่า

    ﴿ وَإِذۡ قَالَ لُقۡمَٰنُ لِٱبۡنِهِۦ وَهُوَ يَعِظُهُۥ يَٰبُنَيَّ لَا تُشۡرِكۡ بِٱللَّهِۖ إِنَّ ٱلشِّرۡكَ لَظُلۡمٌ عَظِيمٞ ١٣ ﴾ [لقمان: ١٣]

    “และจงรำลึกเมื่อลุกมานได้กล่าวแก่บุตรของเขา โดยสั่งสอนเขาว่า โอ้ลูกเอ๋ย เจ้าอย่าได้ตั้งภาคีใด ๆ ต่ออัลลอฮฺ เพราะแท้จริงการตั้งภาคีนั้นเป็นความอธรรมอย่างมหันต์โดยแน่นอน” (ลุกมาน: 13)

    ไปจนถึงอายะฮฺที่พระองค์ตรัสว่า

    ﴿ يَٰبُنَيَّ إِنَّهَآ إِن تَكُ مِثۡقَالَ حَبَّةٖ مِّنۡ خَرۡدَلٖ فَتَكُن فِي صَخۡرَةٍ أَوۡ فِي ٱلسَّمَٰوَٰتِ أَوۡ فِي ٱلۡأَرۡضِ يَأۡتِ بِهَا ٱللَّهُۚ إِنَّ ٱللَّهَ لَطِيفٌ خَبِيرٞ ١٦ يَٰبُنَيَّ أَقِمِ ٱلصَّلَوٰةَ وَأۡمُرۡ بِٱلۡمَعۡرُوفِ وَٱنۡهَ عَنِ ٱلۡمُنكَرِ وَٱصۡبِرۡ عَلَىٰ مَآ أَصَابَكَۖ إِنَّ ذَٰلِكَ مِنۡ عَزۡمِ ٱلۡأُمُورِ ١٧ ﴾ [لقمان: ١٦، ١٧]

    “โอ้ลูกเอ๋ย แท้จริง หากว่า(ความผิดนั้น) มันจะหนักเท่าเมล็ดผักสักเมล็ดหนึ่ง มันจะซ่อนอยู่ในหิน หรืออยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลาย หรืออยู่ในแผ่นดิน อัลลอฮฺก็จะทรงนำมันออกมา แท้จริง อัลลอฮฺเป็นผู้ทรงเมตตา ผู้ทรงรอบรู้ยิ่ง โอ้ลูกเอ๋ย เจ้าจงดำรงไว้ซึ่งการละหมาด และจงใช้กันให้กระทำความดี และจงห้ามปรามกันให้ละเว้นการทำความชั่ว และจงอดทนต่อสิ่งที่ประสบกับเจ้า แท้จริง นั่นคือส่วนหนึ่งจากกิจการที่หนักแน่น มั่นคง” (ลุกมาน: 16-17)

    ท่านอับดุลลอฮฺ บินอัมรฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา ได้เล่าว่า ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า

    «مُرُوا أَوْلَادَكُمْ بِالصَّلَاةِ وَهُمْ أَبْنَاءُ سَبْعِ سِنِينَ، وَاضْرِبُوهُمْ عَلَيْهَا، وَهُمْ أَبْنَاءُ عَشْرٍ وَفَرِّقُوا بَيْنَهُمْ فِي الْمَضَاجِعِ » [أخرجه أبو داود]

    “พวกท่านจงใช้ให้ลูก ๆ ของพวกท่านละหมาดเมื่อพวกเขาอายุเจ็ดปี และจงตีพวกเขาให้ละหมาดเมื่อพวกเขาอายุสิบปี และจงแยกพวกเขาในที่นอน(คือแยกสถานที่นอน) บันทึกโดย อบู ดาวูด

    ท่านอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้เล่าว่า

    أَخَذَ الحَسَنُ بْنُ عَلِيٍّ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُمَا، تَمْرَةً مِنْ تَمْرِ الصَّدَقَةِ، فَجَعَلَهَا فِي فِيهِ، فَقَالَ النَّبِيُّ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ: «كِخْ كِخْ، اِرْمِ بِهَا، أَمَا عَلِمْتَ أَنَّنَا لاَ نَأْكُلُ الصَّدَقَةَ» [متفق عليه]

    ท่านอัลหะสัน บินอลียฺได้หยิบอินทผลัมที่เป็นอินทผลัมเศาะดะเกาะฮฺ เม็ดหนึ่ง แล้วใส่เข้าปากเขา แล้วท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะสัลลัม ก็ได้กล่าวว่า แค่ก! แค่ก! จงคายออกมา เจ้าไม่รู้หรือว่า พวกเราไม่กินของเศาะดะเกาะฮฺ” บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺและมุสลิม

    ท่านอุมัร บิน อบี สะละมะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้เล่าว่า

    كُنْتُ غُلاَمًا فِي حَجْرِ رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ، وَكَانَتْ يَدِي تَطِيشُ فِي الصَّحْفَةِ، فَقَالَ لِي رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ: «يَا غُلاَمُ، سَمِّ اللَّهَ، وَكُلْ بِيَمِينِكَ، وَكُلْ مِمَّا يَلِيكَ » [متفق عليه]

    ฉันเคยเป็นเด็กเล็กอยู่บนตักของท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะสัลลัม และมือของฉันเคยไปหยิบนู้นหยิบนี้ในจานถาด แล้วท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะสัลลัม ก็ได้กล่าวว่า “หนูน้อยเอ๋ย จงกล่าวบิสมิลลาฮฺ และจงกินด้วยมือขวา และจงกินในสิ่งที่อยู่ใกล้ๆ เจ้าก่อน”” บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺและมุสลิม

    ท่านอิบนุ อับบาส เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา ได้กล่าวว่า ฉันได้เคยนั่งซ้อนหลังท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะสัลลัม ในวันหนึ่งแล้วท่านก็ได้กล่าวว่า

    « يَا غُلَامُ إِنِّي أُعَلِّمُكَ كَلِمَاتٍ، احْفَظِ اللَّهَ يَحْفَظْكَ، احْفَظِ اللَّهَ تَجِدْهُ تُجَاهَكَ، إِذَا سَأَلْتَ فَاسْأَلِ اللَّهَ، وَإِذَا اسْتَعَنْتَ فَاسْتَعِنْ بِاللَّهِ، وَاعْلَمْ أَنَّ الأُمَّةَ لَوْ اجْتَمَعَتْ عَلَى أَنْ يَنْفَعُوكَ بِشَيْءٍ لَمْ يَنْفَعُوكَ إِلَّا بِشَيْءٍ قَدْ كَتَبَهُ اللَّهُ لَكَ، وَلَوْ اجْتَمَعُوا عَلَى أَنْ يَضُرُّوكَ بِشَيْءٍ لَمْ يَضُرُّوكَ إِلَّا بِشَيْءٍ قَدْ كَتَبَهُ اللَّهُ عَلَيْكَ، رُفِعَتِ الأَقْلَامُ وَجَفَّتْ الصُّحُفُ» أخرجه الترمذي

    “เด็กน้อยเอ๋ย แท้จริงฉันจะสอนเจ้าบางถ้อยคำ เจ้าจงรักษา(ศาสนาของ)อัลลอฮฺ แล้วอัลลอฮฺจะทรงรักษาเจ้า จงรักษาอัลลอฮฺ เจ้าจะพบพระองค์อยู่บนทางของเจ้า เมื่อจะขอก็จงขอจากอัลลอฮฺ และเมื่อจะขอความช่วยเหลือก็จงขอความช่วยเหลือจากอัลลอฮฺ และพึงทราบเถิดว่า ชนใดหากพวกเขารวมกันเพื่อจะทำประโยชน์ให้เจ้าในประการใด พวกเขาจะไม่สามารถทำประโยชน์ให้เจ้าได้นอกจากเป็นสิ่งที่อัลลอฮฺทรงกำหนดมันแก่เจ้าไว้แล้วเท่านั้น และหากพวกเขารวมกันเพื่อจะทำร้ายเจ้าในประการใด พวกเขาจะไม่สามารถทำร้ายเจ้าได้นอกจากเป็นสิ่งที่อัลลอฮฺทรงกำหนดมันไว้แก่เจ้าแล้ว ปากกาได้ถูกยกออกไปแล้ว และ(หมึกใน)บันทึกก็แห้งไปแล้ว” บันทึกโดยอัต-ติรมิซียฺ

    คำอธิบาย

    ประการหนึ่งในเรื่องที่พ่อแม่หลายๆคนปล่อยปละละเลยคือ การสอนสั่ง ชี้แนะ และให้คำตักเตือนลูกๆของพวกเขา ไม่ใช่ใช้แต่วิธีรุนแรง หรือตวาดกับความผิดพลาดของพวกเขา แต่ให้เริ่มด้วยกับการแสดงความมุ่งหวังและความเป็นห่วงกังวลต่อพวกเขา เพราะเป็นทางที่จะได้รับการยอมรับที่ดีที่สุด และไม่ควรปล่อยปละละเลยพวกเขาโดยอ้างว่าพวกเขาเด็กอยู่ยังไม่เข้าใจ

    ประโยชน์ที่ได้รับ

    · มีบัญญัติให้ตักเตือน ชี้แนะลูกหลานถึงแม้พวกเขาจะยังเล็กก็ตาม

    · มีบัญญัติให้คำนึงถึงความแตกต่างระหว่างวัยเจริญเติบโตของลูกๆ ในการอบรมสั่งสอนพวกเขา