คุณจะต้อนรับเราะมะฎอนอย่างไร?
หมวดหมู่
แหล่งอ้างอิง
Full Description
คุณจะต้อนรับเราะมะฎอนอย่างไร ?
] ไทย – Thai – تايلاندي [
อิสมาอีล กอเซ็ม
ตรวจทานโดย : ซุฟอัม อุษมาน
ที่มา : www.islammore.com
2012 - 1433
﴿كيف تستقبلون رمضان؟﴾
« باللغة التايلاندية »
إسماعيل قاسم
مراجعة: صافي عثمان
المصدر: www.islammore.com
2012 - 1433
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ
คุณจะต้อนรับเราะมะฎอนอย่างไร ?
มวลการสรรเสริญเป็นเอกสิทธิ์ของอัลลอฮฺ
เดือนเราะมะฎอนกำลังจะมาถึงอีกไม่กี่วัน หลายคนคงมีความรู้สึกที่แตกต่างกัน บางคนอาจจะไม่ชอบเพราะการใช้ชีวิตต้องเปลี่ยนไปจากที่ปกติเคยดื่มกินในตอนกลางวัน แต่พอเราะมะฎอนมาถึงต้องงดกินดื่ม และงดสิ่งไร้สาระต่างๆ แต่บางคนกลับเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ เพราะเขาทราบดีถึงความประเสริฐของเดือนเราะมะฎอน ความดีที่อัลลอฮฺจะประทานให้แก่ผู้ถือศีลอด
ดังนั้นการเห็นคุณค่าอะไรสักอย่างก็คือการรู้ถึงคุณค่าของสิ่งนั้น คนที่ดีใจกับการมาของเราะมะฎอนเนื่องจากเขารู้คุณค่าของมัน จะทำอย่างไรที่ให้เราได้รู้คุณค่าของเราะมะฎอนว่ามันคือของขวัญอันล้ำค่าที่มาจากพระเจ้า พระองค์ได้เมตตาแก่ปวงบาวของพระองค์ และความดีเหล่านี้ไม่ได้มีบ่อยครั้ง ปีหนึ่งมีแค่ครั้งเดียว เราจะต้องเตรียมหัวใจที่จะต้อนรับเหมือนดังแขกที่ทรงเกียรติ
การที่หัวใจต้องการที่จะพบเราะมะฎอนและผูกพันกันนั้น เราต้องรู้จักและเข้าใจอย่างดี เหมือนดังที่เรามีความรักความผูกพันกับใครก็เนื่องจากเรารู้จักและเข้าใจเขาดี ดังนั้นสาเหตุที่ปัจจุบันคนส่วนมากไม่ผูกพันและไม่ต้องการพบเราะมะฎอนก็เนื่องจากการรู้จักเราะมะฎอนแบบผิวเผิน ไม่ทำความเข้าใจและคิดว่าเราะมะฎอนเป็นแค่การอดอาหารอดน้ำเท่านั้น หรือบางคนถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอนเสมือนประเพณีที่ต้องปฏิบัติในเทศกาลต่างๆ แต่ความจริงเราะมะฎอนคืออิบาดะฮฺที่มาชำระจิตใจมุสลิมให้มีความสะอาด และมาสร้างภูมิต้านทานที่ดีให้แก่มุสลิมนั่นเอง
เราะมะฎอนคือสิ่งที่มาชำระความผิดต่างๆ ที่ได้กระทำมาทั้งปี เราต้องขอบคุณต่ออัลลอฮฺให้มากกับการที่พระองค์ได้กำหนดอิบาดะฮฺให้มาลบล้างความผิดที่เรากระทำผ่านมาแล้ว และความประเสริฐที่มีอยู่ในเดือนเราะมะฎอนนอกเหนือจากความดีของการถือศีลอด เราะมะฎอนยังเป็นเดือนที่อัลลอฮฺได้ประทานอัลกุรอานลงมาดังคำดำรัสของอัลลอฮฺ
﴿ شَهۡرُ رَمَضَانَ ٱلَّذِيٓ أُنزِلَ فِيهِ ٱلۡقُرۡءَانُ هُدٗى لِّلنَّاسِ وَبَيِّنَٰتٖ مِّنَ ٱلۡهُدَىٰ وَٱلۡفُرۡقَانِۚ فَمَن شَهِدَ مِنكُمُ ٱلشَّهۡرَ فَلۡيَصُمۡهُۖ وَمَن كَانَ مَرِيضًا أَوۡ عَلَىٰ سَفَرٖ فَعِدَّةٞ مِّنۡ أَيَّامٍ أُخَرَۗ يُرِيدُ ٱللَّهُ بِكُمُ ٱلۡيُسۡرَ وَلَا يُرِيدُ بِكُمُ ٱلۡعُسۡرَ وَلِتُكۡمِلُواْ ٱلۡعِدَّةَ وَلِتُكَبِّرُواْ ٱللَّهَ عَلَىٰ مَا هَدَىٰكُمۡ وَلَعَلَّكُمۡ تَشۡكُرُونَ ١٨٥ ﴾ [البقرة: ١٨٥]
ความว่า “เดือนรอมฏอนนั้น เป็นเดือนที่อัลกรุอานได้ถูกประทานลงมาในฐานะเป็นข้อแนะนำสำหรับมนุษย์ และเป็นหลักฐานอันชัดเจนเกี่ยวกับข้อแนะนำนั้น และเป็นสิ่งที่จำแนกระหว่างความจริงกับความเท็จดังนั้น ผู้ใดในหมูพวกเจ้าเข้าอยู่ในเดือนนั้นแล้ว ก็จงถือศีลอดในเดือนนั้น และผู้ใดป่วย หรืออยู่ในการเดินทาง ก็จงถือใช้ในวันอื่นแทน อัลลอฮฺทรงประสงค์ให้มีความสะดวกแก่พวกเจ้า และไม่ทรงให้มีความลำบากแก่พวกเจ้าและเพื่อที่พวกเจ้าจะได้ให้ครบถ้วนซึ่งจำนวนวัน(ของเดือนเราะมะฎอน) และเพื่อพวกเจ้าจะได้ให้ความเกรียงไกรแด่อัลลอฮฺในสิ่งที่พระองค์ทรงแนะนำแก่พวกเจ้า และเพื่อพวกเจ้าจะขอบคุณ”
อัลลอฮฺได้กำหนดให้เราถือศีลอด และพระองค์ยังเลือกเดือนเราะมะฎอนในการประทานอัลกุรอาน ดังนั้นนอกจากการถือศีลอดแล้วสิ่งที่เราต้องทำก็คือ การให้ความสำคัญกับอัลกุรอาน เพราะอัลกุรอานคือทางนำของบรรดามุสลิม
มันเป็นเรื่องที่น่าอายที่เราบอกว่า อัลกุรอานคือทางนำแต่ขณะเดียวกันเราไม่สามารถที่จะอ่านมันได้ ดังนั้นในช่วงเวลาของเดือนเราะมะฎอน เป็นโอกาสของการเปลี่ยนแปลงที่ต้องปลีกตัวจากความวุ่นวายของโลกดุนยาใบนี้ที่มีแต่การแข่งขันทำแต่งาน จนทำให้เราลืมอัลลอฮฺ ลืมนึกถึงพระองค์ ลืมนึกถึงหน้าที่ ที่แท้จริงว่าเรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร
ความยิ่งใหญ่ในเดือนเราะมะฎอนคือศูนย์รวมของความดีทุกอย่างที่อัลลอฮฺ ได้นำเอาอิบาดะฮฺและความดีมากมายมาไว้ในเดือนนี้ ไม่ว่าความดีของการบริจาค การเลี้ยงอาหารแก่ผู้ที่ละศีลอด และในเดือนเราะมะฎอนยังมีสิ่งที่สำคัญอีกมากมาย เช่นการละหมาดตารอเวียะ และช่วงสิบคืนหลังยังมีค่ำคืนลัยลาตุลกอดรฺ ซึ่งการทำความดีในคืนนั้นจะได้รับทำกับหนึ่งพันเดือน ก็หมายถึงการได้รับความดีทั้งชีวิต ดังนั้นเราะมะฎอนมีอะไรมากมายที่เราต้องค้นหาและแสวงหาเหมือนที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวไว้
มีรายงานในเศาะฮีหฺอัล-บุคอรียฺและมุสลิม จากหะดีษของท่านอบีฮุร็อยเราะฮฺ แท้จริงท่านรอซูลุลอฮ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า
«مَنْ صَامَ رَمَضَانَ إِيْمَانًا وَاحْتِسَاباً غُفِرَ لَهُ مَا تَقَدَّمَ مِنْ ذَنْبِهِ» [متفق عليه]
ความว่า “ใครที่ได้ถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอนเนื่องจากความศรัทธา และมีความหวัง(ในผลบุญ) เขาจะได้รับการอภัยโทษจากบาปของเขาที่ผ่านมา”
จากหะดีษนี้ทำให้เราเข้าใจว่า การงานที่ทำทุกอย่างต้องมีเจตนาเพื่ออัลลอฮฺ และกระทำเนื่องจากมีความศรัทธาต่ออัลลอฮฺ และมีความบริสุทธิ์ใจต่อพระองค์ และเราต้องมีความหวังและมั่นใจผลบุญที่อัลลอฮฺได้สัญญาไว้กับเรา
และจากหะดีษยังบอกด้วยว่า การถือศีลอดที่อัลลอฮฺจะรับต้องเกิดจากความศรัทธา ไม่ใช่ถือศีลอดเนื่องจากถูกกดดันหรือถูกบังคับ หรือต้องการคำชมเชย หรือถือศีลอดเป็นประเพณีเห็นคนอื่นถือเราก็ถือด้วย แต่การอภัยจากความหมายในหะดีษนี้เป็นความผิดที่เป็นบาปเล็กส่วนบาปใหญ่ต้องอาศัยการเตาบะห์สำนึกผิดเสียใจ และปลีกตัวจากบาปนั้นโดยทันที
สรุปคือเราต้องเตรียมใจที่บริสุทธิ์ที่จะต้อนรับเราะมะฎอนและตั้งใจจะทำอิบาดะฮฺต่างๆที่อัลลอฮฺกำหนดไว้ในเดือนเราะมะฎอน ไม่ว่าการถือศีลอด การเตรียมเงินไว้บริจาคในการละศีลอดและบริจาคทานแก่คนยากจน เตรียมตัวที่จะเรียนอัลกุรอาน เตรียมตัวที่จะอิอฺติกาฟเพื่อแสวงหาคืนลัยละตุลก็อดรฺ
หากชีวิตของเรายังผูกพันอยู่กับงานและการละเล่นต่างๆ ในโลกดุนยาจนไม่สามารถที่จะสละมันเพื่อเขาหาอัลลอฮฺ เราจึงได้กลายเป็นบ่าวของดุนยา หากเราสละเวลาเพื่อเขาหาอัลลอฮฺ เราก็เป็นบ่าวที่แท้จริงของอัลลอฮฺ อิสลามที่มาถึงเราได้ในทุกวันนี้เป็นเพราะความเสียสละของคนในยุคอดีตที่เสียสละทุกอย่างเพื่อศาสนานี้ ไม่ว่าจะเป็นชีวิต ทรัพย์สิน และคนที่เขารักที่สุด ลองหันกลับมาถามตัวเองดูว่าเราเสียสละอะไรบ้างให้กับศาสนาของเรา? ดังนั้น เราะมะฎอนที่จะมาถึงให้ตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะต้อนรับด้วยเบิกบานใจ
และสุดท้ายนี้ขออัลลอฮฺได้โปรดให้เราได้เข้าสู่เราะมะฎอนด้วยกับความศรัทธาและหวังความดีในเราะมะฎอน และขอพระองค์โปรดช่วยเหลือพี่น้องของเราที่ถูกข่มเหงให้รอดพ้นจากทุกการอธรรม......อามีน
http://www.islammore.com/main/content.php?page=sub&category=60&id=2754