เอาเราะฮฺของผู้หญิงต่อหน้าผู้หญิงด้วยกัน
บทความนี้ถูกแปลเป็นภาษา
หมวดหมู่
Full Description
เอาเราะฮฺของผู้หญิงต่อหน้าผู้หญิงด้วยกัน
﴿عورة المرأة بين النساء﴾
] ไทย – Thai – تايلاندي [
เชค อับดุลลอฮฺ อิบนุ อับดุรเราะหฺมาน อัลญิบรีน
แปลโดย : บะนาตุลฮุดา
ผู้ตรวจทาน : ทีมงานอิสลามเฮ้าส์
2009 - 1430
﴿عورة المرأة بين النساء﴾
« باللغة التايلاندية »
فضيلة الشيخ عبدالله عبدالرحمن الجبرين
ترجمة: فريق موقع بنات الهدى
مراجعة: الفريق التايلاندي بموقع دار الإسلام
2009 - 1430
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ
เอาเราะฮฺของผู้หญิงต่อหน้าผู้หญิงด้วยกัน
คำถาม:
เราได้ยินมาว่า เอาเราะฮฺของมุสลิมะฮฺต่อหน้ามุสลิมะฮฺอื่นคือตั้งแต่สะดือถึงหัวเข่า ถูกต้องหรือไม่ โดยเฉพาะในงานเลี้ยงเราจะเห็นมุสลิมะฮฺ (ขออัลลอฮฺทรงคุ้มครองเรา) สวมเสื้อผ้าตัวเล็กหรือบาง หรือเสื้อผ้าที่ออกแบบเพื่อเปิดเผยน่อง หรือเสื้อผ้าที่บางและแนบเนื้อ หรือเปิดเผยบางส่วนของหน้าอกหรือแผ่นหลัง ... เช่นนี้มุสลิมะฮฺจึงมีสภาพที่ไม่แตกต่างจากบรรดานางระบำหรือหญิงเต้นรำในประเทศกาฟิร หรือนักแสดงหญิงที่แต่งกายไม่เรียบร้อยในจอโทรทัศน์ ถ้าเราบอกพวกนางไม่ให้ทำเช่นนั้น พวกนางก็จะบอกว่า ไม่มีอะไรผิด เอาเราะฮฺของผู้หญิงคือตั้งแต่สะดือถึงหัวเข่า ความละอายได้หายไปและมุสลิมะฮฺกลายเป็นคนที่ชอบโต้เถียงและเลียนแบบกุฟฟาร เมื่อปัญหาได้ลุกลามมาถึงจุดนี้ โปรดให้คำแนะนำแก่เราด้วย ขออัลลอฮฺทรงตอบแทนท่าน
คำตอบ:
มวลการสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ
ทั้งเรือนร่างของมุสลิมะฮฺเป็นเอาเราะฮฺต่อหน้าชายที่ไม่ใช่มะหฺร็อม และไม่อนุญาตให้นางปรากฏต่อหน้าผู้ชายในสภาพที่ไม่ได้ปกปิด เพื่อป้องกันฟิตนะฮฺจากการจ้องมองนาง เห็นความสูงของนาง และเห็นท่าทางการเดินของนาง สำหรับที่เราบอกว่าเอาเราะฮฺของมุสลิมะฮฺต่อหน้ามุสลิมะฮฺคือตั้งแต่สะดือถึงหัวเข่านั้น เฉพาะสำหรับกรณีที่นางอยู่ในบ้าน ในหมู่พี่สาวน้องสาวหรือมุสลิมะฮฺที่เป็นเครือญาติ ตามหลักการแล้ว นางควรปกปิดทั้งเรือนร่างด้วยเกรงว่าจะเป็นตัวอย่างไม่ดี หรือทำให้การกระทำชั่วร้ายแพร่ขยายในหมู่มุสลิมะฮฺ ในทำนองเดียวกัน นางต้องปกปิดความมีเสน่ห์ต่อหน้ามะหฺร็อมของนางและผู้หญิงแปลกหน้า ด้วยเกรงว่ามะหฺร็อมบางคนอาจเกิดความอารมณ์กับนาง หรือด้วยเกรงว่าผู้หญิงบางคนจะพูดถึงนางต่อหน้าคนอื่น นี่เป็นสิ่งที่ถูกรายงานในหะดีษของท่านนบี กล่าวว่า “ห้ามผู้หญิงคนใดพูดถึงผู้หญิงคนอื่นต่อสามีของนาง เพราะมันเสมือนว่าเขาได้เห็นเธอ" ความหมายของหะดีษนี้คือ หากเสน่ห์ของสตรี เช่น หน้าอก หัวไหล่ หน้าท้อง แผ่นหลัง แขน คอ หรือน่อง เป็นที่ปรากฏแล้ว ใครก็ตามที่ได้เห็นอาจประทับใจอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ และห้ามเช่นเดียวกัน ในการที่ผู้หญิงจะพูดถึงสิ่งที่ได้เห็นต่อครอบครัวของนาง และผู้ชายก็ถูกห้ามเช่นกัน ไม่อนุญาตให้ผู้หญิงพูดถึงผู้หญิงอื่นต่อหน้าชายที่ไม่ใช่มะหฺร็อม (ชายที่ไม่ใช่มะหฺร็อมของหญิงที่ถูกกล่าวถึง) ในทางที่จะกระตุ้นหรือทำให้หลงใหลในหญิงนั้น หรือแม้แต่ทางที่จะเปิดโอกาสให้คนชั่วสร้างความคุ้นเคยกับหญิงนั้น
ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้ มุสลิมะฮฺจึงต้องปกปิดสิ่งที่เป็นเสน่ห์ของนาง เช่น หน้าอก แผ่นหลัง ต้นแขน น่อง ฯลฯ แม้แต่ต่อหน้ามะหฺร็อมหรือมุสลิมะฮฺด้วยกัน การปกปิดนี้ยิ่งทวีความจำเป็นในกรณีของในงานเลี้ยง ยามพักผ่อนส่วนตัว ตามโรงพยาบาล และโรงเรียน ถึงแม้จะมีแต่มุสลิมะฮฺด้วยกันก็ตาม เพราะชายที่ไม่ใช่มะหฺร็อมและชายอื่น ๆ อาจมองเห็นหรือถ่ายภาพพวกนาง ซึ่งจะเป็นสาเหตุกระตุ้นอารมณ์ของผู้ที่ได้เห็น
คำเตือนสุดท้ายสำหรับผู้ที่ชอบการเปิดเผยเรือนร่าง สวมใส่เสื้อผ้าบางหรือรัดรูป ท่านนบี กล่าวว่า “มีชาวนรกสองกลุ่ม ...(ท่านได้ระบุในจำนวนนั้นว่า) ผู้หญิงที่สวมเสื้อผ้าแต่เปลือยกาย เดินทำท่ากระบิดกระเบียดเพื่อเรียกร้องความสนใจ บนหัวของพวกนางเหมือนโหนกอูฐที่เอียงไปข้างหนึ่ง พวกเขาจะไม่ได้เข้าสวรรค์และไม่ได้สูดดมแม้แต่กลิ่นหอมของสวรรค์"
ความหมายของหะดีษนี้คือพวกนางสวมเสื้อผ้าบางหรือรัดรูปซึ่งแสดงให้เห็นขนาดของเรือนร่าง และมีการตัดเว้าเพื่อเปิดเผยหน้าอก เนินอก และส่วนที่ดึงดูดอื่นๆ และนี่ก็คืออันเดียวกันกับการกระทำที่แพร่หลายในงานเลี้ยงหรืองานพบปะทั่วไป
และอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงรอบรู้ที่สุด
ที่มา www.islamqa.com คำถามหมายเลข 11014
จากฟัตวา อัชชัยคฺ อับดุลลอฮฺ อิบนุ อับดุรเราะหฺมาน อัลญิบรีน