ทรรศนะที่ถูกต้องต่อบทบัญญัติการคลุมหน้า
หมวดหมู่
แหล่งอ้างอิง
Full Description
- ทรรศนะที่ถูกต้องต่อบทบัญญัติการคลุมหน้า
- ทรรศนะที่ถูกต้องต่อบทบัญญัติการคลุมหน้า
- หลักฐานเกี่ยวกับการบังคับใช้ให้คลุมหน้าและมือ
- 1. อัลลอฮฺตรัสว่า
- ﴿يَا أَيُّهَا النَّبِيُّ قُل لِّأَزْوَاجِكَ وَبَنَاتِكَ وَنِسَاء الْمُؤْمِنِينَ يُدْنِينَ عَلَيْهِنَّ مِن جَلَابِيبِهِنَّ ذَلِكَ أَدْنَى أَن يُعْرَفْنَ فَلَا يُؤْذَيْنَ وَكَانَ اللهُ غَفُوراً رَّحِيماً﴾ (الأحزاب : 59 )
- 2. อัลลอฮฺตรัสว่า
- 3. รายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺ ว่า “มีผู้ขี่พาหนะผ่านมายังพวกเรา เมื่อพวกเราอยู่กับท่านร่อซูลุลลอฮฺ ในสภาพครองอิหฺรอม เมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ เราจะปล่อยญิลบาบจากศีรษะลงมาคลุมใบหน้า และเมื่อพวกเขาผ่านไปแล้วเราจึงเปิดเผยใบหน้าของเรา" (บันทึกโดย อบูดาวูด, 1833; อะหฺมัด, 24067; ชัยคฺ อัลอัลบานี กล่าวใน ญิลบาบ อัลมัรอะฮฺ อัลมุสลิมะฮฺ (107) ว่าเป็นสายรายงานที่หะซัน เพราะมีหลายสายรายงานสนับสนุน)
- 4. รายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺ กล่าวว่า ขออัลลอฮฺทรงเมตตาสตรีชาวมุฮาญิรีน เมื่ออัลลอฮฺประทานอายะฮฺ “และให้นางปิดด้วยผ้าคลุมศีรษะของพวกนางลงมาจนถึงคอเสื้อคลุมของพวกนาง" [อันนูร 24:31] พวกนางฉีกผ้ากันเปื้อนของนางและใช้มันคลุมหน้าของนาง" (บันทึกโดย อัลบุคอรี, 4480)
- 5. รายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺ … ว่า ศ็อฟวาน อิบนุ อัลมุอัฏฏ็อล อัสสุละมี อัซซิกวานี ตามกองทัพไม่ทัน เขาจึงมายังที่ฉันหยุดอยู่และเห็นร่างที่นอนอยู่ภายใต้ผ้าสีดำ เขาจำได้ว่าเป็นฉันเพราะเคยเห็นฉันก่อนที่หิญาบจะถูกประทานลงมา ฉันตื่นขึ้นเมื่อได้ยินเขากล่าวว่า
- إِنَّا لِلهِ وَإِنَّا إِلَيْهِ رَاجِعُون
- (แท้จริงเราเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ และแท้จริงเราต้องกลับคืนสู่พระองค์) เมื่อเขาเห็นฉัน ฉันก็คลุมหน้าด้วยญิลบาบ (บันทึกโดย อัลบุคอรี, 3910; มุสลิม, 2770)
- 6. รายงานจากอับดุลลอฮฺ ว่า ท่านนบี กล่าวว่า
- «المرأة عورة فإذا خرجت استشرفها الشيطان»
- ความว่า “สตรีคือเอาเราะฮฺ และเมื่อนางออกไปข้างนอก ชัยฏอนก็จะติดตามนางเพื่อล่อลวง" (บันทึกโดยอัตติรมิซี, 1173; อัลอัลบานีกล่าวในเศาะฮีหฺ อัตติรมิซี (936) ว่า เป็นหะดีษเศาะฮีหฺ)
- ทรรศนะที่ถูกต้องต่อบทบัญญัติการคลุมหน้า
ทรรศนะที่ถูกต้องต่อบทบัญญัติการคลุมหน้า
الراجح في حكم تغطية الوجه
เว็บอิสลาม ถามตอบ
แปลโดย : ทีมงานบะนาตุลฮุดา
موقع الإسلام سؤال وجواب
ترجمة: فريق موقع بنات الهدى
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ
ทรรศนะที่ถูกต้องต่อบทบัญญัติการคลุมหน้า
คำถาม:
มีหะดีษและอัลกุรอานอายะฮฺใดที่กล่าวถึงนิกอบ(ผ้าคลุมหน้า)โดยเฉพาะบ้าง?
คำตอบ:
มวลการสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ
ทรรศนะที่ถูกต้องคือสตรีถูกสั่งใช้ให้ปกปิดร่างกายทุกส่วนรวมทั้งใบหน้าและมือ อิมามอะหฺมัดกล่าวว่า แม้แต่เล็บของสตรีก็เป็นเอาเราะฮฺ และตรงกับทรรศนะของอิมามมาลิก เราะหิมะฮุลลอฮฺ
ชัยคุลอิสลาม อิบนุตัยมียะฮฺ เราะหิมะฮุลลอฮฺ กล่าวว่า ดูเหมือนทรรศนะของอิมามอะหฺมัดคือ ทุกส่วนของสตรีเป็นเอาเราะฮฺ แม้แต่เล็บของนาง และดังกล่าวนี้เป็นทรรศนะของอิมามมาลิกเช่นกัน (มัจญมูอฺ อัลฟะตาวา, 22/110)
หากพิจารณาทรรศนะตรงข้ามของผู้ที่กล่าวว่าการคลุมหน้าไม่ใช่ข้อบังคับ เราจะพบตามที่ ชัยคฺ บักรฺ อบู ซัยดฺ เราะหิมะฮุลลอฮฺ กล่าวว่า ทรรศนะของผู้ที่กล่าวว่าการคลุมหน้าไม่ใช่ข้อบังคับนั้นต้องอยู่ใน 3 กรณีต่อไปนี้
1. สิ่งนี้มีหลักฐานที่เชื่อถือได้และชัดเจน แต่ถูกยกเลิกโดยอายะฮฺที่บังคับใช้ให้คลุมหิญาบ
2. สิ่งนี้มีหลักฐานที่เชื่อถือได้แต่ไม่ชัดเจน และไม่ใช่หลักฐานที่แข็งแรงเมื่อถูกนำมาเชื่อมโยงกับหลักฐานที่สมบูรณ์จากอัลกุรอานและซุนนะฮฺว่าใบหน้าและฝ่ามือต้องถูกปกปิด
3. สิ่งนี้มีหลักฐานที่ชัดเจน แต่ไม่ใช่หลักฐานที่เชื่อถือได้
(หิรอซะฮฺ อัลฟะฎีละฮฺ, น.68-69)
หลักฐานเกี่ยวกับการบังคับใช้ให้คลุมหน้าและมือ
1. อัลลอฮฺตรัสว่า
﴿يَا أَيُّهَا النَّبِيُّ قُل لِّأَزْوَاجِكَ وَبَنَاتِكَ وَنِسَاء الْمُؤْمِنِينَ يُدْنِينَ عَلَيْهِنَّ مِن جَلَابِيبِهِنَّ ذَلِكَ أَدْنَى أَن يُعْرَفْنَ فَلَا يُؤْذَيْنَ وَكَانَ اللهُ غَفُوراً رَّحِيماً﴾ (الأحزاب : 59 )
ความว่า “โอ้นบี (มุฮัมมัด) เอ๋ย จงกล่าวแก่บรรดาภรรยาของเจ้าและบุตรสาวของเจ้า และบรรดาหญิงของบรรดาผู้ศรัทธา ให้พวกนางดึงเสื้อคลุมของพวกนางลงมาปิดตัวของพวกนาง (ปกปิดเรือนร่างอย่างสมบูรณ์ ยกเว้นตาข้างหนึ่งหรือสองข้างเพื่อใช้มอง) นั่นเป็นการเหมาะสมกว่าที่นางจะเป็นที่รู้จัก (ในสภาพหญิงอิสรชน) เพื่อที่พวกนางจะไม่ถูกรบกวน และอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ" [อัลอะหฺซาบ 33:59]
อิบนุ ตัยมียะฮฺ เราะหิมะฮุลลอฮฺ กล่าวว่า อัลลอฮฺทรงใช้ให้สตรีปล่อยญิลบาบลงมาปกคลุมใบหน้า เพื่อที่ว่าพวกนางจะเป็นที่รู้จัก (ในฐานะสตรีที่มีเกียรติ) และไม่ถูกรบกวนหรือสร้างความวุ่นวาย หลักฐานนี้สนับสนุนความเห็นแรก อุบัยดะฮฺ อัซซัลมานี และคนอื่นๆ ชี้แจงว่า สตรีคลุมญิลบาบตั้งแต่ส่วนบนสุดของศีรษะลงมา โดยไม่สามารถมองเห็นสิ่งใดได้เว้นแต่ดวงตาทำให้นางสามารถเห็นเส้นทางที่กำลังเดินทางไปได้ สิ่งที่พิสูจน์ได้ในหลักฐานเศาะฮีหฺคือ สตรีที่อยู่ในสภาพครองอิหฺรอมถูกห้ามไม่ให้สวมนิกอบและถุงมือ นี่เป็นการบอกว่านิกอบและถุงมือเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่สตรีที่ไม่ได้ครองอิหฺรอม ซึ่งพวกนางปิดใบหน้าและมือของพวกนาง" (มัจญ์มูอฺ อัลฟะตาวา, 15/371-372)
2. อัลลอฮฺตรัสว่า
﴿وَقُل لِّلْمُؤْمِنَاتِ يَغْضُضْنَ مِنْ أَبْصَارِهِنَّ وَيَحْفَظْنَ فُرُوجَهُنَّ وَلَا يُبْدِينَ زِينَتَهُنَّ إِلَّا مَا ظَهَرَ مِنْهَا وَلْيَضْرِبْنَ بِخُمُرِهِنَّ عَلَى جُيُوبِهِنَّ﴾ (النور : 31)
ความว่า “จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) แก่บรรดามุอ์มินะฮฺ (ผู้ศรัทธาหญิง) ให้พวกนางลดสายตาของพวกนางลงต่ำ (จากการมองสิ่งต้องห้าม) และให้พวกนางรักษาทวาร (อวัยวะเพศ) ของพวกนาง (จากการประพฤติผิดทางเพศ) และอย่าเปิดเผยเครื่องประดับของพวกนาง เว้นแต่สิ่งที่พึงเปิดเผยได้ (เช่น ตาข้างหนึ่งหรือสองข้างเพื่อใช้มอง เสื้อคลุมข้างนอก ถุงมือ) และให้นางปิดด้วยผ้าคลุมศีรษะของพวกนางลงมาจนถึงญุยูบิฮินนะ (ร่างกาย ใบหน้า คอ และหน้าอกของพวกนาง)" [อันนูร 24:31]
ชัยคุลอิสลาม อิบนุตัยมียะฮฺ กล่าวว่า จากประโยค “และอย่าเปิดเผยเครื่องประดับของพวกนาง เว้นแต่สิ่งที่พึงเปิดเผยได้" อับดุลลอฮฺ อิบนุ มัสอูด กล่าวว่า เครื่องประดับที่เปิดเผยได้คือเสื้อผ้า เพราะคำว่า زينةโดยปกติแล้วเป็นชื่อเรียกเสื้อผ้าและเครื่องประดับ ซึ่งเราจะเห็นได้จากอายะฮฺที่อัลลอฮฺตรัสว่า
﴿خُذُواْ زِينَتَكُمْ﴾ (الأعراف : 31 )
ความว่า “จงเอาเครื่องประดับกายของพวกเจ้า (หมายถึงสวมเครื่องนุ่งห่มที่สะอาด)" [อัลอะอฺรอฟ 7:31]
﴿قُلْ مَنْ حَرَّمَ زِينَةَ اللهِ الَّتِيَ أَخْرَجَ لِعِبَادِهِ﴾ (الأعراف : 32 )
ความว่า “จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า ผู้ใดเล่าที่ให้เป็นที่ต้องห้าม ซึ่งการประดับร่างกายจากอัลลอฮฺที่พระองค์ได้ทรงให้มาสำหรับปวงบ่าวของพระองค์" [อัลอะอฺรอฟ 7:32]
﴿وَلَا يَضْرِبْنَ بِأَرْجُلِهِنَّ لِيُعْلَمَ مَا يُخْفِينَ مِن زِينَتِهِنَّ﴾ (النور : 31 )
ความว่า “และอย่าให้นางกระทืบเท้าของพวกนาง เพื่อให้ผู้อื่นรู้สิ่งที่พวกนางควรปกปิดในเครื่องประดับของพวกนาง" [อันนูร 24:31]
การกระทืบเท้าทำให้ทราบว่านางสวมกำไลข้อเท้าและเครื่องประดับอื่นๆ อัลลอฮฺทรงห้ามสตรีเปิดเผยเครื่องประดับทุกชนิดยกเว้นสิ่งที่เปิดเผยได้ แต่ทรงอนุญาตให้เปิดเผยเครื่องประดับที่ปกปิดอยู่แก่มะหฺร็อม ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่าเครื่องประดับที่เปิดเผยโดยทั่วไปสำหรับสตรีคือเสื้อผ้า เพราะสำหรับร่างกายนั้นเลือกได้ว่าจะเปิดเผยหรือปกปิด ทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นว่าเครื่องประดับที่เปิดเผยคือเสื้อผ้า
อิมามอะหมัด กล่าวว่า เครื่องประดับที่เปิดเผยคือเสื้อผ้า และทุกๆ ส่วนของสตรีเป็นเอาเราะฮฺ แม้แต่เล็บของนาง ซึ่งมีรายงานอยู่ในหะดีษ “สตรีคือเอาเราะฮฺ" หมายรวมทุกส่วนของสตรี เพราะการปกปิดมือขณะละหมาดไม่เป็นที่น่าตำหนิ (มักรูฮฺ) ดังนั้นมือจึงเป็นส่วนหนึ่งของเอาเราะฮฺเช่นเดียวกับเท้า การเปรียบเทียบดังกล่าวบ่งชี้ว่าใบหน้าเป็นก็เอาเราะฮฺ หากแต่ว่านางมีความจำเป็นต้องเปิดหน้าขณะละหมาด(เพื่อการสุญูด)ไม่เหมือนกับมือ (ชัรหฺ อัลอุมดะฮฺ, 4/267-268)
3. รายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺ ว่า “มีผู้ขี่พาหนะผ่านมายังพวกเรา เมื่อพวกเราอยู่กับท่านร่อซูลุลลอฮฺ ในสภาพครองอิหฺรอม เมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ เราจะปล่อยญิลบาบจากศีรษะลงมาคลุมใบหน้า และเมื่อพวกเขาผ่านไปแล้วเราจึงเปิดเผยใบหน้าของเรา" (บันทึกโดย อบูดาวูด, 1833; อะหฺมัด, 24067; ชัยคฺ อัลอัลบานี กล่าวใน ญิลบาบ อัลมัรอะฮฺ อัลมุสลิมะฮฺ (107) ว่าเป็นสายรายงานที่หะซัน เพราะมีหลายสายรายงานสนับสนุน)
เป็นที่ทราบกันว่า สตรีจะไม่นำสิ่งใดมาปกปิดใบหน้าเมื่อครองอิหฺรอม แต่ท่านหญิงอาอิชะฮฺ และบรรดาเศาะหาบียะฮฺที่อยู่กับนาง ได้ปล่อยผ้าลงมาคลุมหน้า เพราะคำสั่งบังคับใช้ให้ปกปิดใบหน้าต่อหน้าชายที่ไม่ใช่มะหฺร็อมนั้น มีน้ำหนักมากกว่าคำสั่งห้ามปกปิดใบหน้าเมื่อครองอิหฺรอม
4. รายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺ กล่าวว่า ขออัลลอฮฺทรงเมตตาสตรีชาวมุฮาญิรีน เมื่ออัลลอฮฺประทานอายะฮฺ “และให้นางปิดด้วยผ้าคลุมศีรษะของพวกนางลงมาจนถึงคอเสื้อคลุมของพวกนาง" [อันนูร 24:31] พวกนางฉีกผ้ากันเปื้อนของนางและใช้มันคลุมหน้าของนาง" (บันทึกโดย อัลบุคอรี, 4480)
5. รายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺ … ว่า ศ็อฟวาน อิบนุ อัลมุอัฏฏ็อล อัสสุละมี อัซซิกวานี ตามกองทัพไม่ทัน เขาจึงมายังที่ฉันหยุดอยู่และเห็นร่างที่นอนอยู่ภายใต้ผ้าสีดำ เขาจำได้ว่าเป็นฉันเพราะเคยเห็นฉันก่อนที่หิญาบจะถูกประทานลงมา ฉันตื่นขึ้นเมื่อได้ยินเขากล่าวว่า
إِنَّا لِلهِ وَإِنَّا إِلَيْهِ رَاجِعُون
(แท้จริงเราเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ และแท้จริงเราต้องกลับคืนสู่พระองค์) เมื่อเขาเห็นฉัน ฉันก็คลุมหน้าด้วยญิลบาบ (บันทึกโดย อัลบุคอรี, 3910; มุสลิม, 2770)
6. รายงานจากอับดุลลอฮฺ ว่า ท่านนบี กล่าวว่า
«المرأة عورة فإذا خرجت استشرفها الشيطان»
ความว่า “สตรีคือเอาเราะฮฺ และเมื่อนางออกไปข้างนอก ชัยฏอนก็จะติดตามนางเพื่อล่อลวง" (บันทึกโดยอัตติรมิซี, 1173; อัลอัลบานีกล่าวในเศาะฮีหฺ อัตติรมิซี (936) ว่า เป็นหะดีษเศาะฮีหฺ)
กรุณาอ่านคำถามหมายเลข 21134 มีข้อมูลจำนวนมากเกี่ยวกับหิญาบ
และอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงรอบรู้ที่สุด