×
บทความที่ตอบความคลุมเครือบางประเด็น ซึ่งเป็นข้อสงสัยของบางกลุ่มที่โจมตีและทําลายภาพพจน์อันดีงามของอิสลาม เกี่ยวกับการเดินทางของสตรีโดยไม่มีมะห์ร็อม หรือญาติใกล้ชิดไปพร้อมกับนางด้วย คัดมาจากหนังสือ สถานะของสตรีภายใต้ร่มเงาอิสลาม โดย อับดุรเราะห์มาน อัชชีหะฮฺ

 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการเดินทางของผู้หญิงโดยไม่มีผู้ปกครอง

﴿شبهة حول سفر المرأة بدون محرم﴾

ดุรเราะห์มาน บิน อับดุลกะรีม อัช-ชีหะฮฺ

แปลโดย : อิบรอฮีม มุฮัมมัด

ผู้ตรวจทาน : ซุฟอัม อุษมาน

عبدالرحمن بن عبدالكريم الشيحة

ترجمة: إبراهيم  محمد

مراجعة: صافي عثمان


ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ

 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการเดินทางของผู้หญิงโดยไม่มีผู้ปกครอง

สตรีในอิสลามเปรียบเสมือนอัญมณีอันล้ำค่า  หรือเพชรพลอยที่ถูกรักษาไว้เป็นอย่างดี ซึ่งเจ้าของย่อมไม่ปรารถนาที่จะให้มันถูกขีดข่วนและถูกแตะต้อง นอกจากแก่ผู้ที่มีสิทธิโดยชอบธรรมเท่านั้นพร้อมๆ กับต้องระแวดระวังและป้องกันอย่างดี (การป้องกันนั้นย่อมดีกว่าการรักษา) เพราะฉะนั้น อิสลามจึงห้ามผู้หญิงเดินทางคนเดียวตามลำพังโดยไม่มีมะฮฺร็อม(ผู้ปกครองซึ่งเป็นชาย คือ สามี หรือพ่อ หรือพี่ หรือน้อง หรือญาติที่ใกล้ชิดที่ห้ามแต่งงาน)ไปด้วยกัน เพราะท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า “ห้ามผู้หญิงเดินทางโดยไม่มีมะฮฺร็อมไปด้วย และห้ามผู้ชายเข้าไปหาเธอนอกจากจะมีมะฮฺร็อมอยู่ด้วย” แล้วมีชายคนหนึ่งถามว่า โอ้ท่านศาสนทูต ฉันจะออกไปพร้อมกับทหารที่โน้น ในขณะที่ภรรยาของฉันจะไปทำหัจญ์ ฉันควรทำอย่างไร ? ท่านจึงตอบว่า “ท่านจงไปกับนางเถิด” (เศาะฮีหฺ อัลบุคอรีย์ เล่มที่ 2 หน้าที่ 658 หมายเลข 1763)

เมื่อมองอย่างผิวเผินอาจจะมีผู้ที่คิดว่า นี่เป็นการจำกัดเสรีภาพของผู้หญิงและเอาเปรียบเธอ แต่ถ้าหากเรารู้ถึงสาเหตุและเหตุผลของข้อห้ามนี้ก็อาจจะคลายความข้องใจไปได้ กล่าวคือ ในอิสลามการที่สตรีจะเดินทางต้องมีมะฮฺร็อมนั้นก็เพื่อจะรักษาและปกป้องเกียรติยศของผู้หญิง มิได้เป็นการสบประมาทและจำกัดเสรีภาพของเธอแต่อย่างใด เพราะโดยปกติการเดินทางต้องมีความยากลำบากและมีค่าใช้จ่ายพอสมควร และโดยธรรมชาติของผู้หญิงที่อ่อนแอในด้านร่างกาย – จะด้วยสาเหตุที่ไม่อาจคาดเดา เปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันหรือฉุกเฉินอย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว ไม่ว่าจะด้วยเรื่องประจำเดือน การตั้งครรภ์ และการให้นมลูก - และในด้านจิตใจก็เช่นกัน ซึ่งเธอจะมีความไวต่ออิทธิพลรอบๆ ตัวเธอมาก และง่ายต่อการถูกชักจูง ซึ่งมันไม่ได้เป็นสิ่งที่น่าอายแต่อย่างใด ท่านศาสนทูตได้เปรียบผู้หญิงว่าเหมือนแก้ว เนื่องด้วยความอ่อนไหว ความละเอียดอ่อน และความเปราะบางในความรู้สึกของพวกเธอ  ครั้งหนึ่งในระหว่างการเดินทางของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มีชายคนหนึ่งนามว่า อันญะชะฮฺ  ซึ่งทําหน้าที่บังคับขบวนอูฐได้ทำการกระตุ้นอูฐอย่างเร่งรีบ  ท่านนบีจึงกล่าวว่า  “โอ้  อันญะชะฮฺ  ช้า ๆ หน่อย เพราะท่านกําลังบังคับอูฐให้กับแก้วที่เปราะบาง(หมายถึงบรรดาสตรี)อยู่” (เศาะฮีหฺ อัลบุคอรีย์ เล่มที่ 5 หน้าที่ 2294 หมายเลข 5857)   

ฉะนั้น ในขณะเดินทาง ผู้หญิงต้องการผู้ที่ปกป้องและดูแลเธอให้ปลอดภัยจากผู้ไม่หวังดี ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินเงินทองหรือร่างกายของเธอ  ซึ่งปกติแล้วเธอจะไม่สามารถป้องกันตัวเองได้เพราะความอ่อนแอด้านโครงสร้างร่างกาย  และการมีมะฮฺร็อมจะช่วยให้เธอมีความสะดวกเมื่อต้องการพักผ่อนอย่างเต็มที่ และมะฮฺร็อมในอิสลามต้องรับผิดชอบต่อหน้าที่นี้อย่างดีไม่ให้บกพร่อง แล้วไหนเล่าการดูหมิ่นศักดิ์ศรีของสตรีในเรื่องนี้?  นี่เป็นการให้เกียรติและยกย่องศักดิ์ศรีของสตรีเสียด้วยซ้ำ หากมีผู้ประสงค์ร้ายต่อศักดิ์ศรีของเธอ มะฮฺร็อมจะเป็นผู้ดูแลและอารักขาเธอให้รอดพ้น  และทำหน้าที่คอยบริการ คอยจัดหาสิ่งต่างๆ ตามความจำเป็นของเธอ