150 ประตูแห่งความดี แด่...ผู้มีชีวีถึงเราะมะฎอน
หมวดหมู่
แหล่งอ้างอิง
Full Description
150 ประตูแห่งความดี แด่...ผู้มีชีวีถึงเราะมะฎอน
إلى من أدرك رمضان ... 150 بابا من أبواب الخير
แปลโดย: ยูซุฟ อบูบักร (ทิวากร แย้มจังหวัด)
ترجمة: يوسف أبوبكر
ตรวจทาน: ฟัยซอล อับดุลฮาดี
مراجعة: فيصل عبدالهادي
150 ประตูแห่งความดี แด่...ผู้มีชีวีถึงเราะมะฎอน
อัลฮัมดุลิลลาฮฺ วัศเศาะลาตุวัสลาม อะลาคอตะมิลอัมบิยาอฺวัลมุรซาลีน นบิยฺยินามุฮัมมัด วะอะลาอาลิฮี วะเศาะฮฺบิฮีอัจญมาอีน
พวกเราจำเป็นต้องมีหุ้นส่วนในการร่วมฟื้นฟูเดือนอันยิ่งใหญ่เดือนเราะมะฎอน เดือนแห่งการอภัยโทษและความพอพระทัย ซึ่งอัลลอฮฺได้ตรัสไว้ว่า:
«شَهْرُ رَمَضَانَ الَّذِي أُنْزِلَ فِيهِ الْقُرْآَنُ هُدًى لِلنَّاسِ وَبَيِّنَاتٍ مِنَ الْهُدَى وَالْفُرْقَانِ فَمَنْ شَهِدَ مِنْكُمُ الشَّهْرَ فَلْيَصُمْهُ»
“เดือนเราะมะฎอนเป็นเดือนที่อัลกุรอานถูกประทานลงมาเป็นข้อแนะนำสำหรับมวลมนุษยชาติ และเป็นหลักฐานอันชัดเจนเกี่ยวกับข้อแนะนำนั้น และเป็นสิ่งที่มาจำแนกระหว่างความจริงกับความเท็จ ดังนั้นผู้ใดจากกลุ่มพวกท่านเข้าอยู่ในเดือนนั้นแล้วก็จงถือศิลอด...” (อัลบากอเราะฮฺ :185)
ในโอกาสนี้เราเห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการรวบรวมบรรดาหะดีษและอาษารฺซึ่งเป็นประตูหลายบานที่จะนำไปสู่ความดีงามพร้อมทั้งเป็นการมาช่วยขัดเกลาในภารกิจอันสำคัญของเดือนอันประเสริฐนี้ พร้อมกันนี้ได้เตือนระวังถึงความจำเป็นต่อการรักษาการทำอิบาดะฮฺทั้งที่เป็นฟัรฏูและซุนนะฮฺ และอัลลอฮฺเป็นผู้นำทางสู่เส้นทางอันเที่ยงตรง
1. การมีความบริสุทธิ์ใจ (อิคลาศ) อัลลอฮฺกล่าวว่า:
«وَمَا أُمِرُوا إِلَّا لِيَعْبُدُوا اللَّهَ مُخْلِصِينَ لَهُ الدِّينَ حُنَفَاءَ وَيُقِيمُوا الصَّلَاةَ وَيُؤْتُوا الزَّكَاةَ وَذَلِكَ دِينُ الْقَيِّمَةِ»
“และพวกเขามิได้ถูกบัญชาให้กระทำอื่นใดนอกจากเพื่อเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ เป็นผู้มีเจตนาบริสุทธิ์ในการภักดีต่อพระองค์เป็นผู้อยู่ในแนวทางอันเที่ยงตรงและดำรงการละหมาดและจ่ายซะกาตและนั่นคือศาสนาอันเที่ยงธรรม” (อัลบัยยินะฮฺ : 5)
2. มุ่งมั่นในการกลับเนื้อกลับตัว (เตาบะฮฺ) ต่ออัลลอฮฺ ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “ผู้ใดที่ได้เตาบะฮฺก่อนดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก อัลลอฮฺจะตอบรับการเตาบะฮฺของเขา” (มุสลิม) “แท้จริงอัลลอฮฺจะตอบรับการเตาบะฮฺของบ่าวตราบใดที่ลมหายใจยังไม่ถึงคอหอย” (อัตติรมิซียฺ)
3. ขอดุอาอฺขณะที่เห็นเดือนจันทร์เสี้ยวว่า “โอ้อัลลอฮฺขอให้เราได้รับเดือนเสี้ยวด้วยความปลอดภัยและความอีมาน ความปลอดภัยและอิสลาม อัลลอฮฺเป็นผู้อภิบาลของฉันและของท่าน” (อะหฺมัดและอัตติรมิซียฺ)
4. ถือศิลอดเดือนเราะมะฎอนด้วยอีมานและหวังในการตอบแทน “ผู้ใดที่ถือศีลอดด้วยความอีมานและหวังในการตอบแทน จะถูกอภัยโทษให้แก่เขาในความผิดที่ผ่านมา” (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)
5. ถือศีลอดในเดือนเชาวาล 6 วัน “ผู้ใดที่ถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอนและถือศีลอดตามอีกหกวันในเดือนเชาวาลแล้ว เสมือนว่าเขาผู้นั้นได้ถือศีลอดหนึ่งปี” (มุสลิม)
6. ละหมาดกลางคืนในเดือนเราะมะฎอนด้วยความอีมานและหวังในการตอบแทน “ผู้ที่ละหมาดตอนกลางคืนในเดือนเราะมะฎอนด้วยความอีมานและหวังในการตอบแทน จะถูกอภัยโทษให้แก่เขาในความผิดที่ผ่านมา” (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)
7. ละหมาดในคืนลัยละตุลก็อดรฺด้วยความอีมานและหวังในการตอบแทน “ผู้ใดที่ละหมาดในคืนลัยละตุลก็อดรฺด้วยความอีมานและหวังในการตอบแทน จะถูกอภัยโทษให้แก่เขาในความผิดที่ผ่านมา” (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)
8. มีความมุ่งมั่นในการทำอิบาดะฮฺช่วง 10 คืนสุดท้ายของเดือนเราะมะฎอน “ปรากฏว่าท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เมื่อเข้าช่วงสิบคืนสุดท้าย ท่านจะไม่นอนในตอนกลางคืน ปลุกให้สมาชิกในครอบครัวตื่น และจะถลกผ้าโสร่งขึ้น (เปรียบเทียบถึงความมุ่งมั่นในการแสวงหาความดีของท่าน) (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)
9. ทำอุมเราะฮฺ “การทำอุมเราะฮฺในเดือนเราะมะฎอนผลบุญเทียบเท่าการทำฮัจญ์ หรือการทำฮัจญ์พร้อมกับฉัน” (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)
10. การเอี๊ยะติกาฟ “ปรากฏว่าท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จะเอี๊ยะติกาฟในช่วงสิบคืนสุดท้ายของเดือนเราะมะฎอน” (อัลบุคอรียฺ)
11. เลี้ยงอาหารแก่ผู้ที่ถือศีลอด “ผู้ใดที่เลี้ยงอาหารแก่ผู้ที่ถือศีลอดเขาจะได้รับผลบุญเหมือนผู้ที่ถือ โดยที่ผลบุญของผู้ที่ถือศีลอดไม่ได้ลดน้อยลงแต่ประการใด” (อัตติรมิซียฺ ท่านกล่าวว่าเป็นหะดีษฮะซันศอเฮี๊ยะ)
12. อ่านและใคร่ครวญอัลกุรอาน “จงอ่านอัลกุรอาน แท้จริงในวันกิยามะฮฺมันจะช่วยเหลือให้แก่สหายของมัน” (มุสลิม)
13. เรียนและสอนอัลกุรอาน “ผู้ที่ประเสริฐสุดในกลุ่มพวกท่านคือ ผู้ที่เรียนและสอนอัลกุรอาน" (อัลบุคอรียฺ)
14. ซิกรุลลอฮฺตะอาลา “เอาหรือไม่ฉันจะบอกพวกท่านถึงการงานที่ดีที่สุดสำหรับพวกท่าน เพิ่มพูน(ผลบุญ)มากที่สุด ณ ที่พระเจ้า มีตำแหน่งสูงส่งที่สุด ประเสริฐกว่าการบริจาคเงินทอง ประเสริฐกว่าที่ท่านออกไปเผชิญหน้ากับศัตรูโดยที่พวกท่านได้ฆ่าพวกเขาและพวกท่านถูกพวกเขาฆ่า ? พวกเขากล่าวว่า : เอาซิ ! ท่านรอซูลกล่าวว่า : การรำลึกถึงอัลลอฮฺ” (อัตติรมิซียฺ)
15. อิสติฆฟาร (ขออภัยโทษ) “ผู้ที่ขออิสติฆฟารอยู่เป็นประจำ อัลลอฮฺจะเปลี่ยนจากความเศร้าหมองเป็นความเบิกบาน จากความคับแคบให้มีทางออก และจะประทานริซกีย์ให้แก่เขาอย่างที่ไม่คาดคิด” (อะบูดาวุดและอัลนะสาอียฺ)
16. อาบน้ำละหมาดอย่างดี “ผู้ใดที่ได้อาบน้ำละหมาดอย่างดีความผิดจะหลุดออกจากร่างกายของเขาแม้กระทั่งความผิดที่อยู่ในซอกเล็บ” (มุสลิม)
17. กล่าวดุอาอฺหลังจากอาบน้ำละหมาด “ผู้ใดที่ได้อาบน้ำละหมาดอย่างดีต่อจากนั้นเขาได้กล่าวว่า : อัชฮาดุอัลลาอิลาฮาอิลลัลลอฮฺ วะฮฺดะฮูลาชะรีกาละฮฺ วะอัชฮาดุอันนามุฮัมมะดันอับดุฮูวะรอซูลุฮฺ อัลลอฮุมมัจญอันนีมินัตเตาวาบีน วัจญอันนีมินัลมุตะเตาะฮิรีน - บรรดาประตูสวรรค์จะถูกเปิดให้แก่เขา เขาสามารถเข้าทางประตูบานไหนก็ได้ตามที่เขาประสงค์” (มุสลิม)
18. พยายามรักษาน้ำละหมาดเอาไว้ “จงปฏิบัติให้เป็นประจำ ตามที่ท่านมีความสามารถโดยไม่นับจำนวน พวกท่านพึงทราบเถิดว่าการงานที่ประเสริฐสุดสำหรับพวกท่านคือการละหมาด และไม่มีผู้ใดที่รักษาน้ำละหมาดเอาไว้นอกจากมุอ์มิน” (อิบนุมาญะฮฺ)
19. ทำความสะอาดฟัน “หากไม่เป็นความลำบากแก่ประชาชาติของฉัน ฉันจะใช้พวกเขาแปรงฟันในทุกครั้งที่เขาละหมาด” (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)
20. ละหมาดสองร็อกอัตหลังจากอาบน้ำละหมาด “ไม่มีคนหนึ่งคนใดที่เขาได้อาบน้ำละหมาดอย่างดี ต่อจากนั้นได้ละหมาดสองร็อกอัตด้วยกับหัวใจและกายที่มีความมุ่งมั่น นอกจากจำเป็นแก่เขาได้รับสวนสวรรค์” (มุสลิม)
21. กล่าวดุอาอฺหลังจากอะซาน “ผู้ใดที่กล่าวขณะที่ได้ยินเสียงอะซานว่า – อัลลอฮุมมาร็อบบาฮาซิฮิดดะวะติตตามะ วัศศอลาติลกออิมะฮฺ อาติมุฮัมมะดานิลวะซีละฮฺวัลฟาฏีละฮฺ วับอัซฮูมะกอมัน มะฮฺมูดะนิลลาซีวะอัดตะฮฺ – ในวันกิยามะฮฺการช่วยเหลือของฉันจะเป็นที่อนุญาตแก่เขา” (อัลบุคอรียฺ)
22. การขอดุอาอฺระหว่างอะซานกับอิกอมะฮฺ “การขอดุอาอฺระหว่างอะซานกับอิกอมะฮฺจะไม่ถูกปฏิเสธ” (อะบูดาวุดและอัตติรมิซียฺ)
23. ดำรงการละหมาด 5 เวลา “ไม่มีมุสลิมคนใดได้ทำการละหมาดฟัรฏู เขาอาบน้ำละหมาดอย่างดี มีสมาธิอย่างดีและรูกั๊วะอย่างดี นอกจากเขาจะถูกลบล้างความผิดเล็กๆ ในปีที่ผ่านมาทั้งหมด” (มุสลิม)
24. รักษาการละหมาดให้อยู่ในเวลา “ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ถูกถามว่า : การงานใดประเสริฐที่สุด ? ท่านรอซูลตอบว่า : การละหมาดในเวลา” (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)
25. รักษาละหมาดฟัจญรีและอัศรี “ผู้ใดที่ได้ละหมาดบัรดัยนฺ (ศุบฮิและอัศรี) เขาจะได้เข้าสวนสวรรค์” (อัลบุคอรียฺ)
26. รักษาละหมาดญุมอะฮฺ “ระหว่างการละหมาดห้าเวลา จากญุมอะฮฺถึงญุมอะฮฺ จากเราะมะฎอนถึงเราะมะฎอน พวกเขาจะถูกลบล้างความผิดให้ เมื่อเขาได้ออกห่างจากบาปใหญ่” (มุสลิม)
27. พยายามแสวงหาช่วงเวลาที่ดุอาอฺถูกตอบรับในวันศุกร์ “ในวันศุกร์จะมีเวลาช่วงหนึ่งไม่มีบ่าวมุสลิมคนใดตรงกับช่วงเวลานั้นในสภาพที่เขายืนละหมาดและร้องขอสิ่งใดต่ออัลลอฮฺนอกจากอัลลอฮฺจะให้สิ่งนั้นแก่เขา” (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)
28. อ่านซูเราะฮฺอัลกะฮฺฟีในวันศุกร์ “ผู้ใดที่อ่านซูเราะฮฺอัลกะฮฺฟีในวันศุกร์ รัศมีจะส่องประกายแก่เขาในระหว่างวันศุกร์ถึงอีกวันศุกร์” (อัลนะสาอียฺและอัลฮากิม)
29. การเดินไปมัสยิด “ผู้ใดที่เดินไปมัสยิดในตอนเช้าและตอนบ่าย อัลลอฮฺจะเตรียมที่พักให้แก่เขาในสวนสวรรค์ ทุกครั้งที่เขาเดินไปในตอนเช้าและตอนบ่าย” (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)
30. การละหมาดในมัสยิดฮะรอม “การละหมาดในในมัสยิดหลังนี้ประเสริฐกว่ามัสยิดอื่นๆ 1,000 ละหมาด นอกจากมัสยิดฮะรอม (มักกะฮฺ) เพราะการละหมาดในมัสยิดฮารอมประเสริฐกว่าละหมาดในมัสยิดหลังนี้ 100,000 ละหมาด” (อะหฺมัดและอิบนิคุซัยมะฮฺ)
31. การละหมาดในมัสยิดนะบะวียฺ (มะดีนะฮฺ) “การละหมาดในในมัสยิดหลังนี้ประเสริฐกว่ามัสยิดอื่นๆ 1,000 ละหมาด นอกจากมัสยิดฮะรอม” (มุสลิม)
32. การละหมาดที่มัสยิดอัลอักศอ “อย่าได้มุ่งมั่นตั้งใจใช้ความพยายามที่จะไปเยี่ยมสถานที่ต่างๆ นอกจากสามมัสยิด คือ มัสยิดฮะรอม มัสยิดรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และมัสยิดอัลอักศอ” (อัลบุคอรียฺ)
33. การละหมาดที่มัสยิดกุบาอฺ “ผู้ใดที่ได้ละหมาดในมัสยิดกุบาอฺ ภาคผลบุญเท่ากับการทำอุมเราะฮฺ” (อิบนุหิบบาน)
34. รักษาการละหมาดญะมาอะฮฺ “การละหมาดญะมาอะฮฺประเสริฐกว่าการละหมาดคนเดียวถึง 27 เท่า” (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)
35. เอาใจใส่ต่อการละหมาดแถวแรก “หากมนุษย์รู้คุณค่าของการอะซานและการละหมาดแถวแรก ต่อจากนั้นพวกเขาจะไม่พบสถานที่นั้นนอกจากพวกเขาต้องจับสลาก แน่นอนพวกเขาย่อมจะจับฉลาก” (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)
36. ละหมาดฏุฮาเป็นประจำ “ทุกตอนเช้ากระดูกทุกข้อของพวกท่านได้ทำศอดาเกาะฮฺ ทุกครั้งที่กล่าว ซุบฮานัลลอฮฺ เป็นศอดาเกาะฮฺ กล่าว อัลฮัมดุลิลลาฮฺ เป็นศอดาเกาะฮฺกล่าว ลาฮิลาฮะอิลลัลลอฮฺ เป็นศอดาเกาะฮฺ กล่าว อัลลอฮูอักบัร เป็นศอดาเกาะฮฺการใช้ให้ทำความดีเป็นศอดาเกาะฮฺ การห้ามปรามจากความชั่วเป็นศอดาเกาะฮฺ และเป็นการเพียงพอจากสิ่งต่างๆ ที่กล่าวมาด้วยการละหมาดฏุฮาสองร็อกอัต” (มุสลิม)
37. รักษาซุนนะฮฺเราะวาติบ “ไม่มีบ่าวมุสลิมคนใดที่ละหมาดเพื่ออัลลอฮฺในวันหนึ่ง 12 ร็อกอัตด้วยความสมัครใจนอกเหนือจากละหมาดฟัรฏู ยกเว้นอัลลอฮฺจะสร้างบ้านหลังหนึ่งในสวนสวรรค์ให้แก่เขา” (มุสลิม)
38. สร้างบรรยากาศในบ้านด้วยกับสิ่งที่เป็นซุนนะฮฺ “จงละหมาด (ซุนนะฮฺ) ในบ้านของพวกท่าน และอย่าทำบ้านให้เสหมือนกุโบรฺ” (อัลบุคอรียฺ)
39. สุญูดให้มากๆ “สภาพที่บ่าวใกล้ชิดต่อพระผู้อภิบาลของเขามากที่สุดคือ ในสภาพที่เขาสุญูด ดังนั้นจงขอดุอาอฺให้มาก” (มุสลิม)
40. การนั่งในที่ละหมาดหลังจากละหมาดศุบฮฺเพื่อรำลึกถึงอัลลอฮฺ “ผู้ใดที่ได้ละหมาดญามาอะฮฺศุบฮฺหลังจากนั้นเขาได้นั่งรำลึกถึงอัลลอฮฺจนกระทั่งดวงอาทิตย์ขึ้น ต่อจากนั้นเขาได้ละหมาดสองร็อกอัต เขาได้รับภาคผลบุญเท่ากับการทำฮัจญ์และอุมเราะฮฺ” (อัตติรมิซียฺ)
41. การละหมาดและติดตามญะนาซะฮฺ “ผู้ที่ได้เยี่ยมญะนาซะฮฺพร้อมทั้งละหมาดให้เขาได้รับผลบุญเท่าหนึ่งกีรอต และผู้ที่เข้าร่วมจนกระทั่งฝังเขาจะได้รับผลบุญเท่าสองกีรอต มีคนกล่าวว่า : สองกีรอตนี้เท่าไหร่ ? ท่านรอซูลตอบว่า : เท่ากับภูเขาใหญ่สองภูเขา” (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)
42. การละหมาดที่บ้านสำหรับผู้หญิง “พวกท่านอย่าได้ห้ามบรรดาผู้หญิงของพวกท่านไปละหมาดที่มัสยิด และการละหมาดที่บ้านของพวกนางย่อมประเสริฐกว่า” (อะบูดาวุด)
43. เอาใจใส่ต่อการละหมาดอีดในสนาม (มุศ็อลลา) “ปรากฏว่าท่านรอซูลออกไปละหมาดวันอีดิลฟิตรีและอีดิลอัฏฮาที่มุศ็อลลา” (อัลบุคอรียฺ)
44. ฝึกฝนลูกหลานให้ละหมาด “จงใช้ลูกหลานของพวกท่านให้ละหมาดขณะอายุของพวกเขาได้ 7 ปี และให้ตีพวกเขา (หากขาด) เมื่ออายุได้ 10 ปี และจงแยกที่นอนของพวกเขา” (อะบูดาวุด)
45. ฝึกฝนลูกหลานให้ถือศิลอด จากอัรรอบีอฺ บินติ มุเอาวัซ กล่าวว่า: "พวกเราได้ถือศีลอดและฝึกฝนให้ลูกหลานของเราถือศีลอด และเราได้ให้ของเล่นแก่พวกเขาเพื่อให้ลืมความหิวโหย” (อัลบุคอรียฺ)
46. ซิกรุลลอฮฺหลังจากละหมาดฟัรฏู “ผู้ใดที่กล่าว ”ซุบฮานัลลอฮฺ” ทุกครั้งหลังละหมาด 33 ครั้ง “อัลฮัมดุลิลลาฮฺ” 33 ครั้ง “อัลลอฮุอักบัร” 33 ครั้ง รวมเป็น 99 ครั้ง ต่อจากนั้นเขากล่าวว่า “ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ วะฮฺดาฮูลาชะรีกาละฮฺ ละฮุลมุลกุ วะลาอุลฮัมดุ วะฮูวาอะลากุลลีชัยอินกอดีร” ความผิดของเขาจะถูกลบล้างถึงแม้จะมีมากเท่าฟองน้ำในทะเล” (มุสลิม)
47. รักษาละหมาดตะรอเวี๊ยะ “ละหมาดที่ประเสริฐสุดหลังจากละหมาดฟัรฏู คือ ละหมาดในยามกลางคืน” (มุสลิม)
48. ให้รีบในการละศีลอด “มนุษย์จะยังคงอยู่ความดีงาม ตราบใดที่พวกเขารีบเร่งในการละศีลอด” (อัลบุคอรียฺ)
49. ให้ละศีลอดก่อนละหมาด “ปรากฏว่าท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ท่านจะละศีลอดก่อนที่ท่านจะละหมาด” (อะหฺมัด)
50. ละศีลอดด้วยอินทผลัม “ผู้ที่มีอินทผลัมก็จงละศีลอดกับมัน หากไม่มีอินทผลัมก็จงละด้วยกับน้ำ แท้จริงน้ำนั้นสะอาด” (อะหฺมัด , อะบูดาวุดและอัตติรมิซียฺ)
51. พยายามรักษาดุอาอฺขณะละศีลอด “ซะฮะบัซซอมาอุ วับตัลละติลอุรูกู วะซะบะตัลอัจญรุ อินชาอัลลอฮุตะอาลา” (อะบูดาวุด , อัดดารุกุฏนียฺและอัลฮากิม)
52. ให้ขอดุอาอฺขณะที่จะละศิลอด “แท้จริงสำหรับผู้ถือศิลอด ขณะที่เขาจะละศิลอดการขอพรของเขาจะไม่ถูกปฏิเสธ” (อิบนิมาญะฮฺ)
53. ขอดุอาอฺโดยทั่วไป “แท้จริงอัลลอฮฺตรัสว่า : ฉันอยู่ ณ ที่บ่าวของฉันเมื่อเขานึกถึงฉัน และฉันจะอยู่พร้อมกับเขา (ใกล้ชิด) เมื่อเขาร้องขอต่อฉัน” (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)
54. รับประทานอาหารสะหูร “พวกท่านจงรับประทานอาหารสะหูรเถิด เพราะแท้จริงในสะหูรมีบารอกะฮฺ” (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)
55. กล่าวสรรเสริญต่ออัลลอฮฺหลังจากรับประทานหรือดื่มเสร็จ “แท้จริงอัลลอฮฺจะพอพระทัยต่อบ่าว เมื่อเขารับประทานอาหารเขาได้กล่าวสรรเสริญหรือเมื่อเขาได้ดื่มเขาก็ได้กล่าวสรรเสริญ” (มุสลิม)
56. จ่ายซะกาต “และพวกเขามิได้ถูกบัญชาให้กระทำอื่นใดนอกจากเพื่อเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ เป็นผู้มีเจตนาบริสุทธิ์ในการภักดีต่อพระองค์เป็นผู้อยู่ในแนวทางอันเที่ยงตรงและดำรงการละหมาดและจ่ายซะกาตและนั่นคือศาสนาอันเที่ยงธรรม” (อัลบัยยินะฮฺ : 5)
57. จ่ายซะกาตฟิตรี “ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กำหนดซะกาตฟิตรีให้แก่ผู้ถือศีลอดเพื่อเป็นการชำระล้างจากเรื่องไร้สาระและการเกี้ยวพาราศรีและเป็นอาหารให้แก่คนยากจน ผู้ที่จ่ายมันก่อนละหมาดอีดถือว่าเป็นซะกาตที่ถูกรับ ส่วนผู้ที่จ่ายมันหลังจากละหมาดอีดถือว่าเป็นศอดาเกาะฮฺเหมือนกับศอดาเกาะฮฺทั่วไป” (อะบูดาวุด)
58. การใช้จ่ายไปในหนทางของอัลลอฮฺ
«وَمَا تُقَدِّمُوا لِأَنْفُسِكُمْ مِنْ خَيْرٍ تَجِدُوهُ عِنْدَ اللَّهِ إِنَّ اللَّهَ بِمَا تَعْمَلُونَ بَصِيرٌ»
“และความดีงามอันใดที่พวกเจ้าได้กระทำไว้ล่วงหน้าสำหรับตัวของพวกสูเจ้าเอง พวกสูเจ้าก็จะได้พบมัน ณ ที่อัลลอฮฺ แท้จริงอัลลอฮฺเป็นผู้เห็นในสิ่งที่พวกสูเจ้ากระทำกันอยู่” (อัลบากอเราะฮฺ : 110)
59. เศาะดะเกาะฮฺ “การทำเศาะดะเกาะฮฺจะลบล้างความผิด เสมือนการเอาน้ำดับไฟ” (อัตติรมิซียฺ)
60. เศาะดะเกาะฮฺของผู้ที่มีเพียงเล็กน้อย “โอ้ท่านรอซูลุลลอฮฺ! เศาะดะเกาะฮฺประเภทใดที่ประเสริฐที่สุด ? ท่านตอบว่า : การพยายามทำศอดาเกาะฮฺของผู้ที่มีเพียงเล็กน้อยและเริ่มจากผู้ที่อยู่ภายใต้การรับผิดชอบดูแล” (อะบูดาวุด , อิบนิคุซัยมะฮฺและอัลฮากิม)
61. เศาะดะเกาะฮฺในที่ลับ “การกระทำดีจะปกป้องการเกิดความชั่วและการเศาะดะเกาะฮฺในที่ลับจะมาลบล้างความกริ้วโกรธแห่งพระผู้อภิบาล และการสร้างปฏิสัมพันธ์กับเครือญาติจะทำให้อายุยืน” (อัฏฏอบรอนียฺ)
62. ความประเสริฐของผู้ทำหน้าที่จัดเก็บเศาะดะเกาะฮฺ “แท้จริงผู้เฝ้ากองคลังมุสลิมที่มีความซื่อสัตย์ ซึ่งเขาได้ปฏิบัติตามหน้าที่อย่างครบถ้วนสมบูรณ์และเขาได้แจกจ่ายมันไปให้แก่ผู้ที่มีสิทธิที่ได้รับด้วยความบริสุทธ์ใจ เขาก็เป็นผู้หนึ่งจากจากบรรดาผู้บริจาคทาน” (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)
63. สร้างมัสยิด “ผู้ที่ได้สร้างมัสยิดโดยแสวงหาความพอพระทัยจากอัลลอฮฺ จะถูกสร้างเหมือนกับมัสยิดให้แก่เขาในสวนสวรรค์” (อัลบุคอรียฺ)
64. ให้สลามและแจกจ่ายอาหาร “โอ้บรรดามนุษยชาติ ! จงให้สลาม แจกจ่ายอาหาร ติดต่อเครือญาติ และจงละหมาดในยามค่ำคืนขณะที่มนุษย์นอนหลับ แล้วท่านจะได้เขาสวนสวรรค์อย่างสันติภาพ” (อัตติรมิซียฺ)
65. ขจัดสิ่งที่เป็นอันตรายออกจากถนน “ฉันเห็นชายคนหนึ่งกำลังเพลิดเพลินในสวนสวรรค์เพราะต้นไม้ต้นหนึ่งที่เขาได้ตัดออกจากท้องถนน ซึ่งมันได้สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้คนที่สัญจรไปมา” (มุสลิม)
66. ทำดีและเชื่อฟังต่อบิดามารดา “น่าเวทนา น่าเวทนา น่าเวทนา มีคนกล่าวว่า : ใครกันท่านรอซูลุลลอฮฺ ? ท่านรอซูลตอบว่า : ผู้ที่มีชีวิตช่วงที่พ่อแม่ของเขาคนหนึ่งคนใดแก่ชราหรือทั้งสองคน แต่เขากลับไม่ได้รับสวนสวรรค์” (มุสลิม)
67. ภรรยาปฏิบัติตามและเชื่อฟังต่อสามี “เมื่อภรรยาได้ละหมาดห้าเวลา ถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอน รักษาอวัยวะเพศและเชื่อฟังสามีของเธอ สามารถเลือกเข้าประตูสวรรค์บานไหนก็ได้ตามความประสงค์” (อิบนุมาญะฮฺ)
68. แสวงหาปัจจัยยังชีพที่หะลาลและทำงานด้วยตัวเอง “ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ถูกถามว่า : การแสวงหาปัจจัยยังชีพอย่างไรที่ดีที่สุด ? รอซูลตอบว่า : การที่คนๆ หนึ่งทำงานด้วยตัวเองและทุก ๆ แสวงหาในสิ่งที่ดี” (อัลฮากิม)
69. เลี้ยงดูภรรยาและผู้ที่อยู่ภายใต้การปกครอง “เมื่อมุสลิมได้จ่ายค่าเลี้ยงดูให้แก่ผู้ที่อยู่ภายใต้การปกครองของเขา ในสภาพที่เขาคาดหวังผลบุญเท่ากับเขาได้เศาะดะเกาะฮฺ” (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)
70. เลี้ยงดูหญิงหม้ายและคนยากจน “ผู้ที่เลี้ยงดูหญิงหม้ายและคนยากจน เปรียบเสมือนผู้ที่ออกต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮฺ” และฉันคิดว่าท่านพูดว่า “เปรียบเสมือนคนยืนละหมาดไม่หยุดพักหรือผู้ที่ถือศิลอดโดยไม่ละ” (อัลบุคอรียฺ)
71. อุปถัมภ์และเลี้ยงดูเด็กกำพร้า “ฉันและผู้ที่เลี้ยงดูเด็กกำพร้าในสวนสวรรค์จะอยู่กันอย่างนี้” ท่านพูดโดยที่ชูนิ้วกับนิ้วกลาง (หมายถึงอยู่กันอย่างใกล้ชิด) (อัลบุคอรียฺ)
72. ลูบศรีษะและแสดงความเอ็นดูต่อเด็กกำพร้า มีชายคนหนึ่งร้องทุกข์กับท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ว่าเขามีหัวใจที่แข็งกระด้าง ท่านรอซูลตอบว่า : “จงลูบศรีษะเด็กกำพร้าและจงให้อาหารกับคนยากจน” (อะหฺมัด)
73. เป็นธุระให้กับพี่น้องที่มีความจำเป็น “การที่คนหนึ่งคนใดในกลุ่มพวกท่านเดินไปกับพี่น้องเพื่อช่วยปลดเปลื้องความจำเป็นให้กับเขา – และท่านได้ชี้นิ้วไปยังมัสยิด – ประเสริฐกว่าการที่เขาเอิ๊ยะติกาฟในมัสยิดของฉันถึงสองเดือน” (อัลฮากิม)
74. เยี่ยมเยียนพี่น้องเพื่ออัลลอฮฺ “นบีได้เข้าสวรรค์ ผู้ที่อีมานอย่างแท้จริงได้เข้าสวรรค์และผู้ที่ไปเยี่ยมเยียนพี่น้องของเขาอีกเมืองหนึ่งโดยที่เขาไม่ได้เยี่ยมเพื่อสิ่งใดนอกจากเพื่ออัลลอฮฺจะได้เข้าสวนสวรรค์” (อัฏฏอบรอนียฺ)
75. เยี่ยมเยียนผู้ป่วย “ผู้ที่ไปเยี่ยมเยียนผู้ป่วยเขายังคงอยู่ใน ค็อรฟะตุลญันนะฮฺ มีคนกล่าวว่า : โอ้ท่านรอซูล ค็อรฟะตุลญันนะฮฺคืออะไร ? ท่านรอซูลตอบว่า : ส่วนปีกของสวรรค์” (มุสลิม)
76. ติดต่อเครือญาติถึงแม้ว่าเขาตัดสายสัมพันธ์ “เครือญาติถูกผูกติดอยู่กับบัลลังก์ เครือญาติกล่าวว่า : ใครติดต่อกับฉันอัลลอฮฺจะติดต่อกับเขา และใครที่ตัดสัมพันธ์กับฉันอัลลอฮฺจตัดสัมพันธ์กับเขา” (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)
77. มอบความเปี่ยมสุขให้แก่พี่น้องมุสลิม “ผู้ใดที่พบพี่น้องมุสลิมของเขาด้วยกับสิ่งที่เขารักเขามีความสุขกับสิ่งดังกล่าว ในวันกิยามะฮฺอัลลอฮฺจะประทานความสุขให้แก่เขา” (อัฏฏอบรอนียฺ)
78. ให้ความสะดวกแก่ผู้ที่มีความลำบากยากแค้น “ผู้ใดที่ให้ความสะดวกแก่ผู้ที่มีความลำบากยากแค้น อัลลอฮฺจะให้ความสะดวกกับเขาทั้งดุนยาและอาคิเราะฮฺ” (มุสลิม)
79. ลดหย่อนภารกิจต่อคนรับใช้หรือคนงานในช่วงเดือนเราะมะฎอน “ผู้ใดที่ลดภาระให้แก่ทาสของเขา อัลลอฮฺจะอภัยโทษให้แก่เขาและจะปลดปล่อยเขาให้รอดพ้นจากไฟนรก” (ส่วนหนึ่งของหะดีษอิบนุคุซัยมะฮฺ)
80. อ่อนโยนเมตตาต่อผู้ที่มีความอ่อนแอ “บรรดาผู้ที่มีความเมตตาอาทร ผู้กรุณาปราณีจะเมตตาต่อพวกเขา พวกท่านจงเมตตาอาทรต่อผู้ที่อยู่บนผืนดินแล้วผู้ที่อยู่บนชั้นฟ้าจะเมตตาต่อพวกท่าน” (อะบูดาวุดและอัตติรมิซียฺ)
81. ปรับความเข้าใจในระหว่างเพื่อนมนุษย์ “ฉันเคยบอกพวกท่านถึงสิ่งที่มีความประเสริฐกว่าการละหมาด การถือศีลอด และการบริจาคทานหรือไม่ ? พวกเขาตอบว่า : ยังเลยท่านรอซูลุลลอฮฺ ท่านรอซูลกล่าวว่า : การปรับความเข้าใจระหว่างคนทั้งสอง” (อะบูดาวุดและอัตติรมิซียฺ)
82. มีจรรยามารยาทอันดีงาม “ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ถูกถามถึงสิ่งที่ทำให้มนุษย์ส่วนมากได้เข้าสวรรค์ ? ท่านตอบว่า : การยำเกรงต่ออัลลอฮฺและการมีจรรยามารยาทอันดีงาม” (อัตติรมิซียฺ)
83. การมีความละอาย “ความละอายเป็นส่วนหนึ่งของการศรัทธา และการศรัทธานั้นอยู่ในสวนสวรรค์ ความหยาบกระด้างเป็นส่วนหนึ่งของความเลวและความเลวนั้นอยู่ในนรก” (อะหฺมัด , อิบนิฮิบบานและอัตติรมิซียฺ)
84. การพูดจริง “จำเป็นแก่พวกท่านต้องพูดจริง เพราะการพูดจริงจะนำพาไปสู่ความดีและความดีจะนำไปสู่สวนสวรรค์” (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)
85. มีความสุขุมให้อภัยและมีความอดทนอดกลั้น
وَالْكَاظِمِينَ الْغَيْظَ وَالْعَافِينَ عَنِ النَّاسِ وَاللَّهُ يُحِبُّ الْمُحْسِنِينَ
“และบรรดาผู้ที่อดกลั้นและบรรดาผู้ที่ให้อภัยแก่เพื่อนมนุษย์ และอัลลอฮฺนั้นทรงรักบรรดาผู้ที่กระทำความดี” (อาละอิมรอน : 134)
ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวกับอัลอะชัชญฺว่า “แท้จริงในตัวของท่านมีสองลักษณะที่พระองค์ทรงรัก ความเมตตาสงสารและความสุขุมรอบคอบ (มุสลิม)
86. การจับมือทักทาย “ไม่มีมุสลิมสองคนเมื่อเขาทั้งสองคนได้พบกันแล้วจับมือ นอกจากจะถูกอภัยโทษให้ทั้งสองก่อนที่เขาทั้งสองจะแยกย้าย” (อะบูดาวุดและอัตติรมิซียฺ)
87. มีใบหน้าที่ยิ้มแย้มเบิกบาน “พวกท่านอย่าได้ดูถูกความดีอันใด ถึงแม้ว่าการที่ท่านพบพี่น้องของท่านด้วยกับใบหน้าที่ยิ้มแย้ม” (มุสลิม)
88. มีความใจกว้างในการซื้อขาย “อัลลอฮฺจะเมตตาต่อบุคคลที่มีความใจกว้างเมื่อเขาขายหรือเมื่อเขาซื้อและเมื่อเขาผ่อนผัน ” (อัลบุคอรียฺ)
89. ลดสายตาจากการมองสิ่งฮารอม “การมองเป็นลูกศรอาบยาพิษของอิบลีส ผู้ที่ละทิ้งเนื่องจากเกรงกลัวต่อฉัน ฉันจะทดแทนการอีมานให้แก่เขา เขาจะได้พบความหอมหวานของอีมานเกิดขึ้นในหัวใจของเขา” (อัฏฏอบรอนียฺ)
90. ใช้กันในเรื่องของความดีงามและห้ามปรามในเรื่องความไม่ดี “เมื่อคนหนึ่งคนใดในกลุ่มพวกท่านเห็นสิ่งที่ไม่ดี เขาจงเปลี่ยนมันด้วยมือหากเขาไม่มีความสามารถจงเปลี่ยนด้วยกับลิ้น หากเขาไม่มีความสามารถจงเปลี่ยนด้วยกับหัวใจซึ่งถือว่าเป็นการอีมานขั้นอ่อนที่สุด” (มุสลิม)
91. อยู่ร่วมกับบรรดาคนดี “ไม่มีกลุ่มชนใดที่นั่งรวมตัวกันเพื่อรำลึกถึงอัลลอฮฺนอกจากมะลาอิกะฮฺมาห้อมล้อมพวกเขา ความเมตตาจะมาแผ่คลุมและความสงบนิ่งจะถูกประทานลงมายังพวกเขา และอัลลอฮฺจะกล่าวถึงพวกเขากับผู้ที่อยู่ ณ พระองค์” (มุสลิม)
92. ปกป้องลิ้นและอวัยวะเพศ “ผู้ใดที่รับประกันสิ่งที่อยู่ระหว่างเคราทั้งสอง (ปาก) และสิ่งที่อยู่ระหว่างขาทั้งสอง (อวัยวะเพศ) กับฉันได้ ฉันจะรับประกันสวนสวรรค์ให้แก่เขา” (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)
93. กล่าวศอละวาตแก่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะซัลลัม “ผู้ใดที่กล่าวศอละวาตให้แก่ฉันหนึ่งครั้ง อัลลอฮฺจะให้กล่าวให้กับเขาสิบครั้ง” (มุสลิม)
94. ทำความดีและชี้นำไปสู่ความดีงาม “ทุกความดีงามเป็นศอดาเกาะฮฺ และผู้ที่ชี้นำไปสู่ความดีเขาได้รับผลบุญเหมือนผู้ที่กระทำ” (อัลบุคอรียฺและมุสลิม) “ผู้ที่ชี้นำไปสู่ความดีงาม เขาจะได้รับผลบุญเหมือนกับผู้กระทำ” (มุสลิม)
95. การเรียกร้องเชิญชวนไปสู่อัลลอฮฺ “ผู้ที่เชิญชวนไปสู่ทางนำเขาจะได้รับผลบุญเหมือนผู้ที่ปฏิบัติ โดยที่ผลบุญของผู้กระทำไม่ได้ลดหย่อนแต่ประการใด” (มุสลิม)
96. ปกปิดความลับของผู้อื่น “บ่าวคนหนึ่งจะไม่ปกปิดความลับของบ่าวอีกคนในดุนยา นอกจากอัลลอฮฺจะปกปิดความลับให้แก่เขาในอาคิเราะฮฺ” (มุสลิม)
97. ให้มีความอดทน “ไม่มีมุสลิมคนใดที่ประสบกับความเคราะห์ร้าย การเจ็บไข้ กลัดกลุ้มใจ เสียใจ อันตราย ทุกข์ระทมหรือแม้กระทั่งถูกหนามตำนอกจากอัลลอฮฺจะลบล้างจากความผิดให้แก่เขา” (อัลบุคอรียฺ)
98. กล่าวดุอาอฺลบล้างความผิดหลังจากการชุมนุมรวมตัว “ผู้ที่นั่งรวมตัวกันที่หนึ่งที่ใด แล้วมีเรื่องไร้สาระมากมาย ดังนั้นเขากล่าวก่อนที่จะลุกขึ้นจากที่รวมตัวของเขาว่า – สุบฮานะกัลลอฮุมมาวะบิฮัมดิกะ อัชฮะดุอัลลาฮิลาฮาอิลลาอันตา อัสตัฆฟิรุกาวะอะตูบุอิลัยกา – นอกจากเขาจะได้รับการอภัยโทษจากสิ่งที่เกิดขึ้นในการรวมตัวของเขา” (อะบูดาวุดและอัตติรมิซียฺ)
99. ละหมาดสองร็อกอัตเมื่อกระทำความผิด “ไม่มีบ่าวคนใดได้ทำความผิดจากนั้นเขาได้ทำความสะอาด แล้วเขาลุกขึ้นยืนและละหมาดสองร็อกอัตและขออภัยโทษต่ออัลลอฮฺ นอกจากเขาจะถูกให้อภัยโทษ” (อะบูดาวุด)
100. อบรมเลี้ยงดูบรรดาบุตรสาว “ผู้ที่มีบุตรสาวสามคน เขาได้เลี้ยงดู เมตตาอาทรและอุปถัมภ์เลี้ยงดูพวกเธอและแน่นอนสวนสวรรค์เป็นสิ่งจำเป็นแก่เขา” (อะหฺมัด)
101. ทำความดีต่อสัตว์เดรัจฉาน “มีชายคนหนึ่งเห็นสุนัขกำลังเลียดินเปียกน้ำเนื่องจากความกระหาย ดังนั้นชายคนนั้นได้เอาคุฟ (รองเท้าหนัง) ใส่น้ำจนกระทั่งให้มันได้ดื่มจนสามารถดับกระหาย อัลลอฮฺได้ขอบใจต่อการกระทำของเขาและได้ให้เขาเข้าสวนสวรรค์” (อัลบุคอรียฺ)
102. ไม่ร้องขอสิ่งใดจากมนุษย์ “ผู้ใดที่รับประกันฉันจะไม่ร้องขอสิ่งใดจากมนุษย์ ฉันจะรับประกันสวนสวรรค์ให้แก่เขา” (อัศฮาบสุนัน)
103. การกล่าว ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ และ สุบฮานัลลอฮฺ “ผู้ที่กล่าวว่า - ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ วะฮฺดะฮุละชะรีกะละ ละอุลมุลกุวะละอุลฮัมดุ วะฮุวาอะลากุลลีชัยอินกอดีร - ในวันหนึ่ง 100 ครั้ง เขาจะได้รับผลบุญเท่ากับปล่อยทาส 10 คน ถูกบันทึกให้แก่เขา 100 ความดีและลบล้างให้แก่เขา 100 ความชั่วและในวันนั้นเขาจะถูกปกป้องให้รอดพ้นจากชัยฏอนจนกระทั่งตกเย็น และไม่มีผู้ใดทำสิ่งที่ประเสริฐกว่าเขานอกจากผู้ที่ได้กระทำมากกว่าเขา” “ผู้ใดกล่าวว่า สุบฮานัลลอฮฺ วะบิฮัมดิ ในวันหนึ่ง 100 ครั้ง จะถูกลบล้างความผิดแก่เขาถึงแม้มีเหมือนกับน้ำทะเล” (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)
104. เศาะดะเกาะฮฺ ญาริยะฮฺ “เมื่อมนุษย์เสียชีวิตลงการงานทั้งหมดของเขาจะถูกตัดขาดนอกจาก 3 ประการคือ การเศาะดะเกาะฮฺ ญาริยะฮฺ ความรู้ที่ยังประโยชน์และลูกที่ดีขอดุอาอฺให้แก่พ่อแม่” (มุสลิม)
105. ส่งเสริมให้ผู้หญิงบริจาคทาน “โอ้บรรดาผู้หญิงจงบริจาคทาน ถึงแม้ว่าเป็นบางส่วนจากเครื่องประดับของพวกเธอก็ตาม” (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)
106. ภรรยาบริจาคสิ่งของจากบ้านของสามี “เมื่อภรรยาได้บริจาคอาหารที่ดีจากบ้านของนาง นางได้รับผลบุญจากการบริจาคและสามีของนางได้รับผลบุญจากการแสวงหา และสำหรับผู้เฝ้ากองคลังก็เช่นกัน พวกเขาบางคนจะไม่ลดหย่อนผลบุญของอีกบางคนแต่ประการใด” (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)
107. เป็นมือบนดีกว่าเป็นมือล่าง “เป็นมือบนดีกว่าเป็นมือล่าง มือบนคือผู้ให้ส่วนมือล่างคือผู้ขอ” (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)
108. ซื่อสัตย์ในการซื้อการขาย “ผู้ซื้อและผู้ขายมีสิทธิในการเลือกตราบใดที่ทั้งสองฝ่ายยังไม่แยกย้าย หากทั้งสองฝ่ายมีความซื่อสัตย์และเปิดเผยการซื้อขายก็มีความบารอกะฮฺและหากทั้งสองฝ่ายคดโกงปกปิด ความบารอกะฮฺจะหมดไปจากการซื้อขายของทั้งสองฝ่าย” (อัลบุคอรียฺ)
109. ช่วยเหลือพี่น้องมุสลิม “ผู้ที่ช่วยบรรเทาความทุกข์ให้แก่มุสลิมในดุนยา อัลลอฮฺจะช่วยบรรเทาความทุกข์ให้แก่เขาในอาคิเราะฮฺ” (มุสลิม)
110. ไม่ทำความเดือดร้อนแก่พี่น้องมุสลิม “ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะซัลลัม ถูกถามว่า : สิ่งที่ประเสริฐสุดในอิสลามคืออะไร ? ท่านรอซูลตอบว่า : ผู้ที่มุสลิมปลอดภัยจากลิ้นและมือของเขา” (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)
111. ให้การช่วยเหลือแก่ผู้อื่น “ในทุกวันทุกข้อกระดูกสามารถเป็นการทำบริจาคทาน การที่เขาช่วยชายคนหนึ่งให้ขึ้นพาหนะของเขาหรือการที่เขาช่วยยกสิ่งของวางบนพาหนะเป็นการบริจาคทาน” (อัลบุคอรียฺ)
112. ช่วยเหลือพี่น้องมุสลิมที่ต้องการความช่วยเหลือ “พวกท่านจงช่วยเหลือ แล้วพวกท่านจะได้รับผลบุญ และอัลลอฮฺจะตัดสินผ่านคำพูดของท่านนบีของพระองค์ตามที่พระองค์ประสงค์” (อัลบุคอรียฺ)
113. ติดต่อทำความดีต่อเพื่อนฝูงของบิดามารดา “แท้จริงสุดยอดของการทำความดีคือ การที่ลูกติดต่อกับเพื่อนรักของบิดาเขา” (มุสลิม)
114. การใช้คำพูดที่ดี “พึงระวังไฟนรก ถึงแม้ว่าเป็นอินทผลัมเพียงซีกเดียว หากว่าพวกท่านไม่มีก็ให้พูดดี” (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)
115. อ่อนโยนเมตตาต่อผู้อยู่ภายใต้การปกครองและคนงาน “โอ้อัลลอฮฺเมื่อประชาชาติของฉันได้รับการแต่งตั้งงานหนึ่งงานใดแล้วเขาได้สร้างความยากลำบากให้แก่ผู้อยู่ภายใต้การปกครองขอให้ความลำบากจงประสบกับเขา และเมื่อประชาชาติของฉันได้รับการแต่งตั้งงานหนึ่งงานใดเขาได้ให้ความเมตตาให้แก่ผู้อยู่ภายใต้การปกครองขอพระองค์จงเมตตาต่อเขา” (มุสลิม)
116. ประกอบความดีอยู่เป็นนิจ แม้จะน้อยนิดก็ตาม “การงานที่เป็นที่รักยิ่ง ณ ที่อัลลอฮฺคืองานที่ทำประจำแม้เพียงเป็นสิ่งเล็กน้อย” (มุสลิม)
117. ทำดีต่อเพื่อนบ้าน “ผู้ที่ศรัทธาต่ออัลลอฮฺและวันกิยามะฮฺ ดังนั้นจงให้เกียรติต่อเพื่อนบ้านของเขา” (มุสลิม)
118. ต้อนรับแขกผู้มาเยือน “การต้อนรับแขกในคืนแรกเป็นหน้าที่ของมุสลิม ดังนั้นเมื่อตอนเช้าผ่านไปเป็นหนี้แก่เขา หากเขามีความประสงค์ให้ชดใช้และหากเขาประสงค์ให้ละทิ้ง” (อะหฺมัด , อะบูดาวุดและอิบนิมาญะฮฺ)
119. การขอดุอาอฺให้แก่บิดามารดา “แท้จริงอัลลอฮฺจะยกระดับชั้นในสวนสวรรค์ให้แก่บ่าวที่ศอลิฮฺ มีคนกล่าวว่า : โอ้พระผู้อภิบาลเป็นไปได้อย่างไร ? ท่านรอซูลตอบว่า : ด้วยกับการที่ลูกของท่านขออิสติฆฟารให้กับท่าน” (อะหฺมัด)
120. ขอดุอาอฺให้กับพี่น้องในเวลาลับหลัง “ไม่มีบ่าวมุสลิมคนใดขอดุอาอฺให้กับพี่น้องในเวลาลับหลัง นอกจากมะลักกล่าวว่า : สำหรับท่านได้เหมือนเขา” (มุสลิม)
121. ขอดุอาอฺและอิสติฆฟารให้แก่พี่น้องมุสลิม
«وَالَّذِينَ جَاءُوا مِنْ بَعْدِهِمْ يَقُولُونَ رَبَّنَا اغْفِرْ لَنَا وَلِإِخْوَانِنَا الَّذِينَ سَبَقُونَا بِالْإِيمَانِ وَلَا تَجْعَلْ فِي قُلُوبِنَا غِلًّا لِلَّذِينَ آَمَنُوا رَبَّنَا إِنَّكَ رَءُوفٌ رَحِيمٌ»
“และบรรดาผู้ที่มาหลังจากพวกเขา โดยพวกเขากล่าวว่า ข้าแต่พระเจ้าของเราทรงโปรดอภัยให้แก่เราและพี่น้องของเราผู้ซึ่งศรัทธาก่อนหน้าเรา และขอพระองค์อย่าได้ให้มีการเคียดแค้นเกิดขึ้นในหัวใจของเราต่อบรรดาผู้มีอำนาจเหนือผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และอัลลอฮเป็นผู้ทรงอานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง" (อัลฮัชรฺ : 10)
122. ทำความสะอาดมัสยิด
«وَطَهِّرْ بَيْتِيَ لِلطَّائِفِينَ وَالْقَائِمِينَ وَالرُّكَّعِ السُّجُودِ»
“และจงทำบ้านของฉันให้มีความสะอาดสำหรับผู้ที่มาเดินเวียนรอบ ผู้ยืนละหมาด ผู้รุกัวะ และผู้สุญูด” (อัลฮัจญฺ : 26)
123. ทำความดีต่อคู่ครอง “ผู้ประเสริฐที่สุดในกลุ่มพวกท่านคือผู้ที่ทำดีต่อสมาชิกในครอบครัวของเขา และฉันเป็นผู้ที่ทำดีต่อครอบครัวของฉัน” (อิบนุฮิบบานและคนอื่นๆ)
124. ให้ความง่ายดายในเรื่องสินสอดแก่ผู้ทีจะแต่งงาน “การแต่งงานที่ประเสริฐที่สุดคือการแต่งที่มีความง่ายที่สุด” (อิบนุฮิบบาน)
125. หึงหวงต่อภรรยา “สะอฺดุ บิน อุบาดะฮฺกล่าวว่า : หากฉันเห็นชายคนหนึ่งอยู่กับภรรยาของฉัน ฉันจะฆ่าเขาด้วยกับดาบโดยไม่ให้อภัย ข่าวดังกล่าวไปถึงท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะซัลลัม ท่านกล่าวว่า : “พวกท่านแปลกใจต่อการหึงหวงของสะอฺดุหรือ ? ตัวฉันมีความหึงหวงมากกว่าเขาเสียอีกและอัลลอฮฺยิ่งมีความหึงหวงมากกว่าฉันอีก” (อัลบุคอรียฺ)
126. อบรมสั่งสอนสมาชิกในครอบครัว “บุคคลสามจำพวกที่ได้รับสองผลบุญ ... ผู้ที่มีทาสดังนั้นเขาได้อบรมนางทำให้นางมีความเข้าใจเป็นอย่างดี เขาได้สั่งสอนนางทำให้นางรู้เป็นอย่างดีต่อจากนั้นเขาได้ปล่อยนางให้เป็นอิสระแล้วได้แต่งงานกับนางเขาจะได้รับสองผลบุญ” (อัลบุคอรียฺ)
127. คืนสิทธิที่ลิดรอนมาจากผู้อื่นหรือขออภัยจากเจ้าของสิทธิ “ผู้ที่เคยลิดรอนสิทธิผู้อื่นจงขออภัยจากเจ้าของสิทธิ เพราะแท้จริงในอาคิเราะฮฺเขาจะไม่มีดีนารและดิรฮัมก่อนที่เขาจะถูกเอาความดีที่มีให้แก่พี่น้องของเขา หากเขาไม่มีความดีก็จะถูกเอาความชั่วของพี่น้องมาใส่ให้กับเขา” (อัลบุคอรียฺ)
128. ปฏิบัติความดีเพื่อลบล้างความชั่ว “จงยำเกรงอัลลอฮฺไม่ว่าท่านอยู่หนใด และจงติดตามความชั่วโดยการเอาความดีมาลบล้าง และจงคบค้าสมาคมกับผู้อื่นด้วยกับจรรยามารยาอันดีงาม” (อะหฺมัดและอัลฮากิม)
129. ทำความดีต่อน้าสาวน้าชาย “น้าสาวอยู่ในตำแหน่งของมารดา” (อัลบุคอรียฺ)
130. รักษาอะมานะฮฺและทำตามสัญญา “ยังไม่มีอีมานที่สมบูรณ์สำหรับผู้ที่ไม่มีอะมานะฮฺ และยังไม่มีศาสนาสำหรับผู้ที่ไม่รักษาสัญญา” (อะหฺมัด)
131. เมตตาต่อผู้เยาว์และให้เกียรติต่อผู้ใหญ่ “ไม่ใช่พวกของเราผู้ที่ไม่เมตตาต่อผู้เยาว์ของเราและไม่รู้จักสิทธิของผู้ใหญ่ของเรา” (อะหฺมัดและอัตติรมิซียฺ)
132. มีความอ่อนโยนเมตตาต่อบรรดาพี่น้องมุสลิมและให้ความสำคัญต่อกิจการของพวกเขา ”อุปมาบรรดาผู้ศรัทธาในเรื่องของความรัก ความเมตตา ความอ่อนโยนระหว่างพวกเขา อุปมัยเหมือนกับร่างกายเมื่ออวัยวะส่วนหนึ่งส่วนใดเจ็บป่วยมันจะทำให้อวัยวะส่วนอื่นอดหลับนอนและเจ็บป่วยไปด้วย” (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)
133. นิ่งเฉยและป้องกันการพูดเรื่องไร้สาระ “ผู้ใดที่อีมานต่ออัลลอฮฺและวันอาคิเราะฮฺ จงพูดในสิ่งที่ดีหรือไม่ก็ให้นิ่งเสีย” (อัลบุคอรียฺ)
134. ปกป้องเกียรติของพี่น้องมุสลิม “ผู้ที่ปกป้องเกียรติของพี่น้องของเขา ในวันกิยามะฮฺอัลลอฮฺจะปกป้องใบหน้าเขาให้รอดพ้นจากไฟนรก” (อัตติรมิซียฺ)
135. หัวใจบริสุทธิ์และงดเว้นจากการอิจฉาริษยา “ประตูสวนสวรรค์จะถูกเปิดในวันจันทร์และวันพฤหัส ดังนั้นบ่าวทุกคนที่ไม่ตั้งภาคีอันใดต่ออัลลอฮฺจะได้รับการอภัยโทษนอกจากคนที่อิจฉาริษยาพี่น้อง มีเสียงกล่าวขึ้นว่า : จงรอดูทั้งสองคนนี้ไปก่อนจนกว่าทั้งสองจะดีกัน จงรอดูทั้งสองคนนี้ไปก่อนจนกว่าทั้งสองจะดีกัน จงรอดูทั้งสองคนนี้ไปก่อนจนกว่าทั้งสองจะดีกัน” (มุสลิม)
136. มีความยุติธรรมระหว่างมนุษย์ด้วยกัน “ในทุกวันที่ดวงอาทิตย์ขึ้นทุกข้อกระดูกของมนุษย์เป็นการบริจาคทาน การมีความยุติธรรมระหว่างเพื่อนมนุษย์เป็นการบริจาคทาน” (อัลบุคอรียฺ)
137. ให้ความร่วมมือกับพี่น้องมุสลิมในเรื่องความดีงาม
«وَتَعَاوَنُوا عَلَى الْبِرِّ وَالتَّقْوَى وَلَا تَعَاوَنُوا عَلَى الْإِثْمِ وَالْعُدْوَانِ»
“และพวกสูเจ้าจงช่วยเหลือกันในสิ่งที่เป็นคุณธรรมและความยำเกรง และอย่าได้ช่วยเหลือกันในเรื่องที่เป็นบาปและเป็นศรัตรูซึ่งกันและกัน...” (อัลมาอิดะฮฺ : 2)
“มุอ์มินกับมุอ์มินเปรียบเสมือนอาคารบ้านเรือนที่ยึดเหนี่ยวซึ่งกันและกัน” - แล้วท่านได้เอานิ้วมือประสานกัน - (อัลบุคอรียฺ)
138. ให้การช่วยเหลือผู้ที่มีความเดือดร้อน “มุสลิมทุกคนสามารถทำเศาะดะเกาะฮฺได้...การที่เขาช่วยเหลือผู้ที่มีความจำเป็นเดือดร้อน” (อัลบุคอรียฺ)
139. ตอบรับผู้ที่เชิญชวนไปสู่ความดีและแบ่งปันแก่ผู้ที่ร้องขอ “ผู้ที่ขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮฺจงปกป้องเขา ผู้ที่ขอเพื่อแนวทางของอัลลอฮฺจงให้เขา ผู้ที่เชิญชวนพวกท่านจงตอบรับการเชิญชวนของเขาและผู้ที่ทำความดีต่อท่านจงทำความดีให้เสมือนกับเขา” (อะหฺมัด , อะบูดาวุดและอันนะสาอียฺ)
140. ตอบแทนความดีด้วยการทำเหมือนที่เขาได้กระทำ “ใครที่ได้ทำความดีต่อเขาจงตอบแทนเขา หากไม่มีสิ่งตอบแทนจงขอบคุณสรรเสริญต่อเขา แท้จริงเมื่อได้สรรเสริญเท่ากับขอบคุณต่อเขาและหากปิดบังเท่ากับเนรคุณต่อเขา” (อัลบุคอรียฺในหนังสือ อัลอะดับ อัลมุฟร็อด)
141. แจกจ่ายหนังสือหรือม้วนเทปเกี่ยวกับเรื่องอิสลามที่ให้ประโยชน์ต่อสมาชิกในครอบครัว หรือเพื่อนฝูงในที่ทำงาน ในโรงเรียนและในที่สาธารณะอื่นๆ
142. เอาประโยชน์จากผู้ที่นิยมใช้การติดต่อสื่อสาร ซึ่งพวกเขาได้ระบุชื่อในวารสาร หรือทางวิทยุทั้งภาคภาษาอาหรับและภาษาต่างประเทศ โดยการติดต่อด้วยกับสำนวนอบรมสั่งสอน (ตัรบียะฮฺ) อย่างอ่อนโยนและส่งผลในการตอบรับ
143. ให้ความสนใจต่อข่าวคราวเพื่อนบ้าน คนใกล้ชิด โดยสร้างข้อมูลเกี่ยวกับงานด้านเผยแผ่ ให้ความสำคัญกับกิจการงานของพวกเขาทั้งในเรื่องดุนยาและอาคิเราะฮฺ
144. ประสานงานกับนักธุรกิจหรือบรรดาพ่อค้า เพื่อซื้อเสื้อผ้าและสิ่งที่จำเป็นที่ต้องใช้ในวันอีด แล้วนำไปแจกจ่ายในตอนท้ายของเดือนเราะมะฎอนให้กับคนขัดสนยากจนเพื่อให้พวกเขาได้รับความเปี่ยมสุขในวันอีด
145. ส่งเสริมให้ทุกครอบครัวมีส่วนร่วมในการเลี้ยงอาหารละศีลอดตามอัตตภาพที่สามารถกระทำได้ ทำอาหารที่สะดวกนำไปเลี้ยงที่มัสยิดในชุมชนหรือติดต่อประสานงานกับร้านอาหารเพื่อนำมาเลี้ยงผู้ที่ถือศิลอด
146. ทำฮาลาเกาะฮฺที่มัสยิดในหมู่บ้านเพื่อสอนอัลกุรอานให้แก่ลูกหลาน โดยแต่งตั้งครูให้รับผิดชอบเป็นการเฉพาะพร้อมทั้งส่งเสริมให้เด็กๆ แข่งขันกันในเรื่องคุณธรรมและสนับสนุนเรื่องของขวัญรางวัลให้แก่พวกเขา
147. จัดให้มีบทเรียนขึ้นภายในบ้านประจำสัปดาห์หรือรอบสองสัปดาห์ โดยที่ให้สมาชิกในครอบครัวทั้งหมดเข้าร่วมขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความสามารถของพวกเขา
148. แสวงหาประโยชน์จากการนำขณะทำอุมเราะฮฺ ซึ่งจัดขึ้นในเดือนเราะมะฎอนโดยวางโปรแกรมครอบคลุมด้านการเผยแผ่ ด้านวิชาการและวิทยาการด้านต่างๆ แก่บรรดาผู้ที่เข้าร่วมพร้อมกันนี้ส่งเสริมให้เยี่ยมเยียนเชค (ผู้ที่มีความรู้) เพื่อได้รับประโยชน์จากความรู้ของเขาหรือไม่ก็เยี่ยมนักศึกษาผู้กำลังแสวงหาวิชาความรู้
149. เตรียมตัว ทบทวนความรู้สำหรับนำเสนอในเดือนเราะมะฎอนระหว่างละหมาดตะรอเวี๊ยะ โดยจัดตารางติดไว้ที่ป้ายประกาศของมัสยิดอย่างชัดเจน
150. เยี่ยมเยียนคนป่วยที่โรงพยาบาล ให้กำลังใจหรือปลอบใจพวกเขาให้มีความอดทนและมองโลกในแง่ดีโดยให้มีความหวังจากผลการตอบแทนของอัลลอฮฺพร้อมทั้งนำของขวัญไปมอบให้กับพวกเขาเพื่อเป็นสื่อในการดะวะฮฺ
วะศ็อลลัลลอฮุ วะซัลลัม อะลามุฮัมมัด วะอะลาอาลิฮิ วะศ็อฮฺบิฮิ วะซัลลิม