×
จากหนังสือ มุคตะศ็อร อัลฟิกฮิล อิสลามีย์ : การสอบสวน การรับสมุดบันทึก การตั้งตราชู สิ่งที่มนุษย์จะถูกสอบสวนในวันกิยามะฮฺ ลักษณะการสอบสวน ลักษณะการชั่ง การงานของผู้ปฏิเสธศรัทธา การได้เห็นการงานที่เคยทำ ผลตอบแทนในโลกนี้และโลกหน้า หุก่มเกี่ยวกับเด็กๆ ในวันกิยามะฮฺ

    การสอบสวนและการชั่ง

    الحساب والميزان

    มุหัมมัด บิน อิบรอฮีม บิน อับดุลลอฮฺ อัต-ตุวัยญิรีย์

    محمد بن إبراهيم بن عبدالله التويجري

    จากหนังสือ: มุคตะศ็อร อัล-ฟิกฮฺ อัล-อิสลามีย์

    المصدر: كتاب مختصر الفقه الإسلامي


    การสอบสวนและการชั่งการงาน

    การสอบสวน คือการที่อัลลอฮฺจะทรงให้บ่าวของพระองค์มายืนต่อหน้าพระพักตร์ จากนั้นพระองค์จะชี้แจงถึงการงานที่บ่าวผู้นั้นได้กระทำมา และจะทรงตอบแทนการงานดังกล่าว ใครที่ทำคุณงามความดีก็จะได้รับผลบุญ 10 ถึง 700 เท่า หรือมากกว่านั้น ส่วนผู้ที่กระทำชั่ว ทำบาปก็จะได้รับบาปตามจำนวนที่ได้กระทำ

    รับสมุดบันทึก  บ่าวทุกคนที่มายืนต่อหน้าอัลลอฮฺ จะได้รับสมุดบันทึกการงาน ผู้ที่ได้รับสมุดบันทึกทางเบื้องขวาเขาก็จะประสบกับความโชคดี ส่วนผู้ที่ได้รับสมุดบันทึกทางเบื้องซ้ายเขาผู้นั้นจะประสบกับความหายนะ

    1. อัลลอฮฺได้ตรัสว่า

    يَا أَيُّهَا الْإِنسَانُ إِنَّكَ كَادِحٌ إِلَىٰ رَبِّكَ كَدْحًا فَمُلَاقِيهِ

    فَأَمَّا مَنْ أُوتِيَ كِتَابَهُ بِيَمِينِهِ

    فَسَوْفَ يُحَاسَبُ حِسَابًا يَسِيرًا

    وَيَنقَلِبُ إِلَىٰ أَهْلِهِ مَسْرُورًا

    وَأَمَّا مَنْ أُوتِيَ كِتَابَهُ وَرَاءَ ظَهْرِهِ

    فَسَوْفَ يَدْعُو ثُبُورًا

    وَيَصْلَىٰ سَعِيرًا

    ความว่า “โอ้มนุษย์เอ๋ย แท้จริงเจ้าต้องพากเพียรไปสู่พระเจ้าของเจ้าอย่างทรหดอดทน แล้วเจ้าจึงจะพบ(ผลตอบแทนจาก)พระองค์ ส่วนผู้ที่ถูกยื่นบันทึกของเขาให้ทางเบื้องขวาของเขา เขาก็จะถูกชำระสอบสวนอย่างง่ายดาย ส่วนผู้ที่ถูกยื่นบันทึกของเขาให้ทางเบื้องหลังของเขาแล้ว เขาจะร้องเรียกหาความหายนะ และเขาจะเข้าไปในเปลวเพลิง” (อัลอินชิกอก อายะฮฺที่ 9-12 )

    2. อัลลอฮฺได้ตรัสว่า

    وَأَمَّا مَنْ أُوتِيَ كِتَابَهُ بِشِمَالِهِ فَيَقُولُ يَا لَيْتَنِي لَمْ أُوتَ كِتَابِيَهْ

    وَلَمْ أَدْرِ مَا حِسَابِيَهْ

    يَا لَيْتَهَا كَانَتِ الْقَاضِيَةَ

    ความว่า “ส่วนผู้ที่บันทึกของเขาถูกนำมายื่นให้ทางเบื้องซ้ายของเขา เขาจะกล่าวว่า ฉันภาวนาที่จะไม่ให้บันทึกของฉันถูกนำมายื่นและไม่รู้เสียเลยว่าบัญชีของฉันเป็นเช่นใด โอ้หากว่าความตายได้เกิดขึ้นเสียก็ดี” (อัลห๊ากเกาะฮฺ อายะฮฺที่ 25-27 )

    การตั้งตราชู

    ตราชูจะถูกนำมาตั้งในวันกิยามะฮฺ เพื่อชำระสอบสวนการงานของมวลมนุษย์ มนุษย์จะถูกสอบสวนทีละคนๆ พระองค์จะสอบถามถึงการงานที่พวกเขาได้กระทำ เมื่อการสอบสวนเสร็จสิ้นลง การงานของพวกเขาก็จะถูกชั่งบนตราชู

    1. อัลลอฮฺได้ตรัสว่า

    وَنَضَعُ الْمَوَازِينَ الْقِسْطَ لِيَوْمِ الْقِيَامَةِ فَلَا تُظْلَمُ نَفْسٌ شَيْئًا ۖ وَإِن كَانَ مِثْقَالَ حَبَّةٍ مِّنْ خَرْدَلٍ أَتَيْنَا بِهَا ۗ وَكَفَىٰ بِنَا حَاسِبِينَ

    ความว่า “และเราจะตั้งตราชูที่เที่ยงธรรมสำหรับวันกิยามะฮฺ ดังนั้นจะไม่มีชีวิตใดถูกอธรรมแต่อย่างใดเลย และแม้ว่ามันเป็นเพียงน้ำหนักเท่าเมล็ดพืชเล็กๆ เราก็จะนำมันมาแสดง และเป็นการพอเพียงแล้วสำหรับเราที่เป็นผู้ชำระสอบสวน” (อัลอันบิยาอ์ อายะฮฺที่ 47 )

    2. อัลลอฮฺได้ตรัสว่า

    فَأَمَّا مَن ثَقُلَتْ مَوَازِينُهُ

    فَهُوَ فِي عِيشَةٍ رَّاضِيَةٍ

    وَأَمَّا مَنْ خَفَّتْ مَوَازِينُهُ

    فَأُمُّهُ هَاوِيَةٌ

    وَمَا أَدْرَاكَ مَا هِيَهْ

    نَارٌ حَامِيَةٌ

    ความว่า “ส่วนผู้ที่ตราชูของเขาหนัก เขาก็จะอยู่ในการมีชีวิตที่ผาสุก และส่วนผู้ที่ตราชูของเขาเบา ที่พำนักของเขาคือเหวลึก (ฮาวียะฮฺ) และอะไรเล่าที่ทำให้เจ้ารู้ได้ว่าเหวลึกคืออะไร? มันคือไฟอันร้อนแรง” (อัลกอริอะฮฺ อายะฮฺที่ 6-11 )

    3. จากอิบนุ อุมัร กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า

    «يُدْنَى الْمُؤْمِنُ يَوْمَ الْقِيَامَةِ مِنْ رَبِّهِ عَزَّ وَجَلَّ ، حَتَّى يَضَعَ عَلَيْهِ كَنَفَهُ ، فَيُقَرِّرُهُ بِذُنُوبِهِ ، فَيَقُولُ : هَلْ تَعْرِفُ ؟ فَيَقُولُ : أَيْ رَبِّ أَعْرِفُ ، قَالَ : فَإِنِّي قَدْ سَتَرْتُهَا عَلَيْكَ فِي الدُّنْيَا ، وَإِنِّي أَغْفِرُهَا لَكَ الْيَوْمَ ، فَيُعْطَىٰ صَحِيفَةَ حَسَنَاتِهِ ، وَأَمَّا الْكُفَّارُ وَالْمُنَافِقُونَ ، فَيُنَادٰى بِهِمْ عَلَى رُءُوسِ الْخَلاَئِقِ هٰؤُلَاءِ الَّذِينَ كَذَبُوا عَلَى اللهِ» (متفق عليه)

    ความว่า “ในวันกิยามะฮฺ ผู้ศรัทธา(มุอ์มิน)จะเข้าใกล้อัลลอฮฺ พระองค์จะทรงปิดม่านกั้นของพระองค์ให้เขาและชี้แจงบาปที่เขาได้ทำมา แล้วพระองค์จะตรัสว่า เจ้าทราบหรือเปล่า(ถึงบาปนี้บาปนั้น)? บ่าวผู้นั้นจะตอบว่า โอ้พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์รับทราบ พระองค์จะตรัสว่า ข้าได้ปกปิดบาปนั้นในโลกดุนยาและในวันนี้ข้าจะอภัยบาปนั้นแก่เจ้า แล้วบันทึกความดีก็จะถูกยื่นให้แก่เขา ส่วนบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาและบรรดาผู้กลับกลอก (มุนาฟิก) พวกเขาจะถูกประจานต่อสรรพสิ่งทั้งมวลว่า พวกนี้คือพวกกล่าวเท็จต่อ(ปฏิเสธศรัทธา)ต่ออัลลอฮฺ” (บันทึกโดย อัลบุคอรีย์ : 2441, และมุสลิม : 2768 สำนวนนี้เป็นสายรายงานของท่าน)

    สิ่งที่มนุษย์จะถูกสอบสวนในวันกิยามะฮฺ

    1.      อัลลอฮฺได้ตรัสว่า

    وَلَا تَقْفُ مَا لَيْسَ لَكَ بِهِ عِلْمٌ ۚ إِنَّ السَّمْعَ وَالْبَصَرَ وَالْفُؤَادَ كُلُّ أُولَٰئِكَ كَانَ عَنْهُ مَسْئُولًا

    ความว่า “และอย่าติดตามสิ่งที่เจ้าไม่มีความรู้ในเรื่องนั้น แท้จริงหูและตา และหัวใจ ทุกสิ่งเหล่านี้จะถูกสอบสวน” (อัลอิสรออ์ อายะฮฺที่ 36)

    2.อัลลอฮฺได้ตรัสว่า

    وَيَوْمَ يُنَادِيهِمْ فَيَقُولُ أَيْنَ شُرَكَائِيَ الَّذِينَ كُنتُمْ تَزْعُمُونَ

    ความว่า “และจงรำลึกถึงวันที่พระองค์ทรงเรียกพวกเขา แล้วตรัสว่า ไหนเล่าเหล่าภาคีของข้าที่พวกเจ้าอ้าง?” (อัลเกาะศ็อศ อายะฮฺที่ 62)

    3. อัลลอฮฺได้ตรัสว่า

    وَيَوْمَ يُنَادِيهِمْ فَيَقُولُ مَاذَا أَجَبْتُمُ الْمُرْسَلِينَ

    ความว่า “และวันที่พระองค์ทรงเรียกพวกเขาแล้วตรัสว่า พวกเจ้าโต้ตอบแก่บรรดารอซูลว่าอย่างไร” (อัลเกาะศ็อศ อายะฮฺที่65)

    4.อัลลอฮฺได้ตรัสว่า

    فَوَرَبِّكَ لَنَسْأَلَنَّهُمْ أَجْمَعِينَ

    عَمَّا كَانُوا يَعْمَلُونَ

    ความว่า “ดังนั้นขอสาบานด้วยพระเจ้าของเจ้า แน่นอนเราจะถามพวกเขาทั้งหมด ถึงสิ่งที่พวกเขาได้กระทำไว้” (อัลหิจญร์ อายะฮฺที่ 92-93)

    5.อัลลอฮฺได้ตรัสว่า

    وَأَوْفُوا بِالْعَهْدِ ۖ إِنَّ الْعَهْدَ كَانَ مَسْئُولًا

    ความว่า “และจงปฏิบัติตามสัญญา (เพราะ) แท้จริงสัญญานั้นจะถูกสอบสวน” (อัลอิสรออ์ อายะฮฺที่ 34)

    6.อัลลอฮฺได้ตรัสว่า

    ثُمَّ لَتُسْأَلُنَّ يَوْمَئِذٍ عَنِ النَّعِيمِ

    ความว่า “แล้วในวันนั้นพวกเจ้าจะถูกสอบถามเกี่ยวกับความโปรดปรานที่ได้รับ (ในโลกดุนยา) (อัตตะกาษุร อายะฮฺที่ 8)

    7.อัลลอฮฺได้ตรัสว่า

    فَلَنَسْأَلَنَّ الَّذِينَ أُرْسِلَ إِلَيْهِمْ وَلَنَسْأَلَنَّ الْمُرْسَلِينَ

    فَلَنَقُصَّنَّ عَلَيْهِم بِعِلْمٍ ۖ وَمَا كُنَّا غَائِبِينَ

    ความว่า “แน่นอนเราจะถามบรรดาผู้ที่ถูกส่งไปยังพวกเขา และแน่นอนเราจะถามบรรดารอซูลทั้งหลายด้วย แน่นอนเราจะนำความรู้มาเล่าให้พวกเขาฟังและเราไม่เคยหายไปไหน” (อัลอะอฺร็อฟ อายะฮฺที่ 6-7 )

    8. จากท่านอบู บัรซะฮฺ อัลอัสละมีย์  เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ กล่าวว่า ท่านรอซูล  ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า

    «لاَ تَزُولُ قَدَمَا عَبْدٍ يَوْمَ القِيَامَةِ حَتَّى يُسْأَلَ عَنْ عُمُرِهِ فِيمَا أَفْنَاهُ ، وَعَنْ عِلْمِهِ فِيمَ فَعَلَ ، وَعَنْ مَالِهِ مِنْ أَيْنَ اكْتَسَبَهُ وَفِيمَ أَنْفَقَهُ ، وَعَنْ جِسْمِهِ فِيمَ أَبْلاَهُ» (أخرجه الترمذي والدارمي)

    ความว่า “สองเท้าของบ่าวจะไม่ขยับจนกว่าจะถูกสอบถามถึง ชีวิตของเขาว่าได้ใช้หมดไปกับอะไร และถามถึงความรู้ของเขาว่าได้ปฏิบัติในทางใด และถามถึงทรัพย์สินของเขาว่าได้มาจากไหนและใช้จ่ายในหนทางใด และถามถึงร่างกายของเขาว่าใช้ไปกับอะไร?” (บันทึกโดย อัตติรมิซีย์ : 2417 นี่เป็นสำนวนของท่าน ดู เศาะฮีหฺ สุนัน อัตติรมิซีย์ : 1970, และอัดดาริมีย์ : 543, ดู อัสสิลสิละฮฺ อัศเศาะฮีหะฮฺ : 946)

    ลักษณะการสอบสวน

    ผู้ที่ถูกสอบสวนในวันกิยามะฮฺมี สองประเภท

    1. ผู้ที่ถูกชำระสอบสวนอย่างง่ายดาย คือการแสดงการงานเพียงอย่างเดียว จากท่านหญิงอาอิชะฮฺ รอฎิยัลลอฮุอันฮา เล่าว่า แท้จริงท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า

    «لَيْسَ أَحَدٌ يُحَاسَبُ يَوْمَ القِيَامَةِ إِلَّا هَلَكَ» فَقُلْتُ : يَا رَسُولَ اللَّهِ ، أَلَيْسَ قَدْ قَالَ اللَّهُ تَعَالَى :  «فَأَمَّا مَنْ أُوتِيَ كِتَابَهُ بِيَمِينِهِ

    فَسَوْفَ يُحَاسَبُ حِسَابًا يَسِيرًا»،  فَقَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : «إِنَّمَا ذٰلِكِ العَرْضُ ، وَلَيْسَ أَحَدٌ يُنَاقَشُ الحِسَابَ يَوْمَ القِيَامَةِ إِلاَّ عُذِّبَ» (متفق عليه)

    ความว่า “ไม่มีผู้ใดที่ถูกสอบสวนในวันกิยามะฮฺนอกจากจะประสบกับความพินาศ ฉันจึงกล่าวแก่ท่านรอซูลว่า อัลลอฮฺมิได้ทรงตรัสดอกหรือว่า “ส่วนผู้ที่ถูกยื่นบันทึกของเขาให้ทางเบื้องขวาของเขา เขาก็จะถูกชำระสอบสวนอย่างง่ายดาย” ท่านรอซูลจึงตอบว่า นั่นเป็นเพียงแค่การนำมาเสนอ ทว่าไม่มีผู้ใดที่ถูกไต่สวนในวันกิยามะฮฺนอกจากจะถูกลงโทษ” (บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ : 6537 สำนวนรายงานนี้เป็นของท่าน และมุสลิม : 2876)

    2. ผู้ที่ถูกชำระสอบสวนอย่างยากลำบาก เขาจะถูกสอบสวนถึงการงานทุกอย่างไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ หากเขาพูดสารภาพตามความเป็นจริงเขาจะโชคดี แต่ถ้าหากเขาพยายามจะโกหก ให้การเท็จหรือพยามยามปกปิดความผิด ปากของเขาจะถูกปิดผนึก และอวัยวะส่วนอื่นๆจะพูดเป็นพยานแทนปาก ดังที่อัลลอฮฺได้ตรัสว่า

    الْيَوْمَ نَخْتِمُ عَلَىٰ أَفْوَاهِهِمْ وَتُكَلِّمُنَا أَيْدِيهِمْ وَتَشْهَدُ أَرْجُلُهُم بِمَا كَانُوا يَكْسِبُونَ

    ความว่า “วันนี้เราจะปิดผนึกปากของพวกเขาและมือของพวกเขาจะพูดแก่เราและเท้าของพวกเขาจะเป็นพยานตามที่พวกเขาได้เคยกระทำไว้” (ยาซีน อายะฮฺที่ 65)

    มนุษย์ทุกคนจะถูกชำระสอบสวนนอกจากผู้ที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้ระบุว่าถูกยกเว้น ซึ่งมีจำนวนเจ็ดหมื่นคนจากประชาชาติของท่าน พวกเขาจะได้เข้าสวนสวรรค์โดยปราศจากการสอบสวนและการลงโทษใดๆ

    บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาก็จะถูกสอบสวนเพื่อตอกย้ำความอัปยศของพวกเขา พวกเขาจะได้รับโทษในระดับที่แตกต่างกัน ผู้ที่มีบาปและมีความชั่วมากก็จะได้รับโทษที่หนักกว่าผู้ที่มีความชั่วน้อย ผู้ที่มีความดีเขาจะได้รับการลดหย่อนโทษ แต่ถึงอย่างไรก็ตามพวกเขาก็ไม่สามารถเข้าสวนสวรรค์ได้

    ประชาชาติแรกที่จะถูกสอบสวนในวันกิยามะฮฺ คือ ประชาชาติของท่านนบีมุหัมหมัด ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม  และสิ่งแรกที่อัลลอฮฺจะสอบสวนมุสลิมคือ การละหมาด หากการละหมาดของเขาดีสมบูรณ์ การงานอื่นๆ ก็จะดีตามไปด้วย และสิ่งแรกที่อัลลอฮฺจะพิพากษาระหว่างมนุษย์ คือ เรื่องการนองเลือด

    ลักษณะการชั่งการงาน

    การงานที่ดีและชั่วของบ่าวทุกคนจะถูกชั่งน้ำหนักบนตราชู ในวันกิยามะฮฺ ผู้ใดที่มีน้ำหนักความดี มากกว่าน้ำหนักความชั่วก็จะประสบความสำเร็จ ส่วนผู้ที่มีน้ำหนักความชั่วมากกว่าความดีก็จะพบกับความพินาศ บ่าวทุกคนร่างของเขาจะถูกชั่งรวมกับบันทึกการงานของเขา เพื่อให้ปวงบ่าวได้ประจักษ์ถึงความยุติธรรมของอัลลอฮฺ  สิ่งที่มีน้ำหนักมากที่สุดบนตราชูในวันกิยามะฮฺคือ มารยาทอันงดงาม

    1. อัลลอฮฺได้ตรัสว่า

    وَالْوَزْنُ يَوْمَئِذٍ الْحَقُّ ۚ فَمَن ثَقُلَتْ مَوَازِينُهُ فَأُولَٰئِكَ هُمُ الْمُفْلِحُونَ

    وَمَنْ خَفَّتْ مَوَازِينُهُ فَأُولَٰئِكَ الَّذِينَ خَسِرُوا أَنفُسَهُم بِمَا كَانُوا بِآيَاتِنَا يَظْلِمُونَ 

    ความว่า “และการชั่งในวันนั้นเป็นความจริง ดังนั้นผู้ใดที่ตราชูของเขาหนัก ชนเหล่านี้แหละ คือผู้ที่ได้รับความสำเร็จ และผู้ใดที่ตราชูของเขาเบา ชนเหล่านี้แหละคือผู้ที่ก่อความขาดทุนให้แก่ตัวของพวกเขาเอง เนื่องจากการที่พวกเขามิได้ให้ความเป็นธรรมแก่บรรดาโองการของเรา” (อัลอะอฺร็อฟ อายะฮฺที่ 8-9)

    2. เล่าจากท่านอบูฮุรอยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ จากท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า

    «إِنَّهُ لَيَأْتِي الرَّجُلُ العَظِيمُ السَّمِينُ يَوْمَ القِيَامَةِ، لاَ يَزِنُ عِنْدَ اللهِ جَنَاحَ بَعُوضَةٍ» ، وَقَالَ : اقْرَءُوا «فَلاَ نُقِيمُ لَهُمْ يَوْمَ القِيَامَةِ وَزْنًا [الكهف : 105]» (متفق عليه)

    ความว่า “ในวันกิยามะฮฺจะมีชายคนหนึ่งร่างกายใหญ่อ้วนท้วน แต่ ณ อัลลอฮฺแล้วน้ำหนักของเขาจะเทียบกับน้ำหนักปีกของยุงยังไม่ได้เลย” ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่าหากพวกท่านประสงค์ก็จงอ่านโองการที่ว่า “และในวันกิยามะฮฺเราจะไม่ให้มันมีค่าแก่พวกเขาเลย” (จากสูเราะฮฺ อัล-กะฮฺฟ์ : 105)" (บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ : 4729 สำนวนรายงานนี้เป็นของท่าน และมุสลิม : 2785)

    การงานของผู้ปฏิเสธศรัทธา

    ผู้ปฏิเสธศรัทธา(กาฟิร)และผู้กลับกลอก(มุนาฟิก)นั้น การสักการะและการทำความดีของพวกเขาจะไม่ถูกรับ เนื่องจากขาดเงื่อนไขของมันนั่นคือการศรัทธา การงานของพวกเขาจะเป็นเสมือนฝุ่นขี้เถ้าถูกลมพัดในวันที่พายุกระหน่ำ พวกเขาจะถูกเรียกต่อหน้าสรรพสิ่งทั้งหลายในวันกิยามะฮฺว่า ผู้คนเหล่านี้คือผู้ที่กล่าวเท็จต่อพระผู้เป็นเจ้าของพวกเขา

    อัลลอฮฺได้ตรัสว่า

    وَمَنْ أَظْلَمُ مِمَّنِ افْتَرَىٰ عَلَى اللَّهِ كَذِبًا ۚ أُولَٰئِكَ يُعْرَضُونَ عَلَىٰ رَبِّهِمْ وَيَقُولُ الْأَشْهَادُ هَٰؤُلَاءِ الَّذِينَ كَذَبُوا عَلَىٰ رَبِّهِمْ ۚ أَلَا لَعْنَةُ اللَّهِ عَلَى الظَّالِمِينَ

    ความว่า "ใครเล่าที่จะอธรรมไปกว่าผู้ที่กุเรื่องเท็จต่ออัลลอฮฺ คนเหล่านี้จะถูกเสนอตัวแก่พระผู้เป็นเจ้าของพวกเขา และบรรดาสักขีพยานจะกล่าวว่า นี่คือพวกที่กล่าวเท็จต่อพระผู้เป็นเจ้าของพวกเขา พึงทราบเถิดว่าการสาปแช่งของอัลลอฮฺนั้นจะเกิดขึ้นแก่บรรดาผู้อธรรม" (ฮูด : 18)

    مَّثَلُ الَّذِينَ كَفَرُوا بِرَبِّهِمْ ۖ أَعْمَالُهُمْ كَرَمَادٍ اشْتَدَّتْ بِهِ الرِّيحُ فِي يَوْمٍ عَاصِفٍ ۖ لَّا يَقْدِرُونَ مِمَّا كَسَبُوا عَلَىٰ شَيْءٍ ۚ ذَٰلِكَ هُوَ الضَّلَالُ الْبَعِيدُ 

    ความว่า "อุปมาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธาต่อพระผู้เป็นเจ้าของพวกเขานั้น การงานของพวกเขาเหมือนดังฝุ่นขี้เถ้าที่ถูกลมพัดในวันที่พายุกระหน่ำ พวกเขาไม่สามารถมีสิทธิเหนือสิ่งที่พวกเขาได้เคยขวนขวายมาแต่อย่างใดเลย นั่นคือการหลงทางอันไกลยิ่ง" (อิบรอฮีม : 18)

    يَوْمَ يَرَوْنَ الْمَلَائِكَةَ لَا بُشْرَىٰ يَوْمَئِذٍ لِّلْمُجْرِمِينَ وَيَقُولُونَ حِجْرًا مَّحْجُورًا 

    وَقَدِمْنَا إِلَىٰ مَا عَمِلُوا مِنْ عَمَلٍ فَجَعَلْنَاهُ هَبَاءً مَّنثُورًا

    ความว่า "วันที่พวกเขา(เหล่าผู้ปฏิเสธศรัทธา)เห็นมลาอิกะฮฺซึ่งไม่มีข่าวดีในวันนั้นสำหรับบรรดาอาชญากร บรรดามลาอิกะฮฺจะกล่าวแก่พวกเขาว่าไม่มีทางที่พวกเขาจะได้รับความสำเร็จ และเราจะเข้าไปยังการงานที่พวกเขาได้ทำมาแล้วเราก็จะทำให้มันกลายเป็นละอองที่โบยบิน" (อัล-ฟุรกอน : 22-23)

    การได้เห็นการงานต่างๆ ที่เคยทำ

    ในวันกิยามะฮฺ การงานต่างๆ (ความดีความชั่ว) ที่เคยทำจะถูกนำมาแสดงแก่ปวงบ่าว คนผู้หนึ่งจะได้เห็นการงานที่เขาเคยทำไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ และไม่ว่าจะดีหรือชั่ว เช่นที่อัลลอฮฺได้ตรัสว่า

    يَوْمَئِذٍ يَصْدُرُ النَّاسُ أَشْتَاتًا لِّيُرَوْا أَعْمَالَهُمْ

    فَمَن يَعْمَلْ مِثْقَالَ ذَرَّةٍ خَيْرًا يَرَهُ

    وَمَن يَعْمَلْ مِثْقَالَ ذَرَّةٍ شَرًّا يَرَهُ

    ความว่า "วันนั้นมนุษย์จะออกมาในสภาพที่กระจัดกระจายเพื่อที่จะให้ดูการงานของพวกเขา ดังนั้นผู้ใดที่ทำความดีแม้เล็กเท่าละอองธุลีเขาก็จะได้เห็นมัน และผู้ใดที่ทำความชั่วแม้เล็กเท่าละอองธุลีเขาก็จะเห็นมัน" (อัซ-ซัลซะละฮฺ : 6-8)

    การตอบแทนทั้งในโลกดุนยาและอาคิเราะฮฺ

    عن أنس رضي الله عنه قال: قال رسول الله صلى الله عليه وسلم  : «إنَّ اللهَ لا يَظْلِـمُ مُؤْمِنًا حَسَنَةً، يُـعْطىٰ بِـهَا فِي الدُّنْيَا، وَيُـجْزٰى بِـهَا فِي الآخِرَةِ، وَأَمَّا الكَافِرُ فَيُطْعَمُ بِـحَسَنَاتِ مَا عَمِلَ بِـهَا  فِي الدُّنْيَا، حَتّٰى إذَا أَفْضٰى إلَى الآخِرَةِ، لَـمْ يَكُنْ لَـهُ حَسَنَةٌ يُـجْزٰى بِـهَا». أخرجه مسلم.

    ความว่า จากอะนัส เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เล่าว่าท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า "แท้จริงอัลลอฮฺจะไม่ทรงอยุติธรรมต่อผู้ศรัทธาแม้เพียงในเรื่องการงานที่ดีแค่อันเดียว เขาจะได้รับสิ่งที่ดี(จากพระองค์)ด้วยการงานนั้นในดุนยา และจะยังได้รับผลตอบแทนด้วยการงานดังกล่าวในวันอาคิเราะฮฺด้วย ในขณะที่กาฟิรผู้ปฏิเสธศรัทธานั้น เขาจะได้รับปัจจัยในชีวิตเท่าที่พวกเขาทำความดีในโลกดุนยานี้ จนกระทั่งเมื่อถึงวันอาคิเราะฮฺแล้วก็จะไม่มีความดีหลงเหลือที่พอจะได้รับผลตอบแทน(จากอัลลอฮฺ)อีกต่อไป" (บันทึกโดยมุสลิม 2808)

    หุก่มเกี่ยวกับเด็กๆ ในวันกิยามะฮฺ

    เด็กๆ ที่เป็นลูกของผู้ศรัทธาจะได้เข้าสวรรค์ประหนึ่งการที่ผู้ใหญ่ได้เข้าสวรรค์โดยมีรูปลักษณะเช่นบิดาผู้แรกของพวกเขาท่านนบีอาดัม อะลัยฮิสสลาม เด็กๆ ที่เป็นลูกของผู้ปฏิเสธศรัทธาก็เช่นเดียวกัน พวกเขาจะแต่งงานเช่นที่ผู้ใหญ่แต่งงาน ใครที่เสียชีวิตโดยไม่เคยแต่งงานมาก่อนไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง เขาจะได้แต่งงานในวันอาคิเราะฮฺ เพราะในสวรรค์ไม่มีใครที่เป็นโสด