ลักษณะของ นรก
บทความนี้ถูกแปลเป็นภาษา
หมวดหมู่
Full Description
คุณลักษณะของนรก
﴿صفة النار﴾
] ไทย – Thai – تايلاندي [
มุหัมมัด บิน อิบรอฮีม อัต-ตุวัยญิรีย์
แปลโดย : ยูซุฟ อบู บักรฺ (ทิวากร แย้มจังหวัด)
ผู้ตรวจทาน : อัสรัน นิยมเดชา
2009 - 1430
﴿صفة النار﴾
« باللغة التايلاندية »
محمد بن إبراهيم التويجري
ترجمة: يوسف أبوبكر
مراجعة: عصران إبراهيم
2009 - 1430
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ
ลักษณะของนรก
นรก เป็นสถานที่สำหรับการลงโทษ ที่อัลลอฮฺได้จัดเตรียมไว้แก่บรรดาผู้ปฎิเสธศรัทธา ผู้กลับกลอก (มุนาฟิก) และบรรดาผู้ที่กระทำความผิด ในโลกอาคิเราะฮฺ
ในที่นี้ อินชาอัลลอฮฺ เราจะกล่าวถึงนรกอันเป็นสถานที่แห่งความหายนะ และการลงโทษในรูปแบบต่างๆ เพื่อมันจะช่วยให้เรามีความสะพรึงกลัวและได้หลีกหนีออกห่าง เพื่อที่จะได้รับชัยชนะด้วยกับสวนสวรรค์ชั้นบรมสุขและรอดพ้นจากไฟนรกอันทารุณ ด้วยกับการศรัทธาและการประกอบคุณงามความดี ออกห่างจากการตั้งภาคีและการฝ่าฝืนในรูปแบบต่างๆ เราขอวิงวอนต่ออัลลอฮฺซึ่งสวนสวรรค์และขอให้รอดพ้นจากไฟนรก ต่อไปจะนำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวกับไฟนรกตามที่มีปรากฏในอัลกุรอานและสุนนะฮฺ
ชื่อต่างๆของนรก
นรกมีเพียงแห่งเดียว แต่มีลักษณะที่หลากหลาย ซึ่งชื่อของมันที่เป็นที่รู้จักกันดีก็มีดังนี้
1. อันนารฺ
ﭧ ﭨﭽ ﯫ ﯬ ﯭ ﯮ ﯯ ﯰ ﯱ ﯲ ﯳ ﯴ ﯵ ﯶ ﯷ ﯸ ﭼ النساء: ١٤
ความว่า “และผู้ใดฝ่าฝืนอัลลอฮฺและรสูลของพระองค์ และละเมิดขอบเขตของพระองค์แล้ว พระองค์ก็จะให้เขาเข้านรกโดยที่เขาจะอยู่ในนั้นตลอดกาล และเขาจะได้รับการลงโทษที่ยังความอัปยศให้แก่เขา” (อันนิสาอ์ 4/14)
2. ญะฮันนัม
ﭧ ﭨﭽ ﯦ ﯧ ﯨ ﯩ ﯪ ﯫ ﯬ ﯭ ﯮ ﯯ ﯰ ﯱ ﯲ ﯳ ﯴ ﯵ ﯶ ﯷ ﯸ ﯹ ﯺ ﯻﯼ ﯽ ﯾ ﯿﰀ ﰁ ﰂ ﰃ ﰄ ﰅ ﰆ ﰇ ﰈ ﰉ ﭼ النساء: ١٤٠
ความว่า “และแน่นอนอัลลอฮฺได้ทรงประทานคัมภีร์ลงมาแก่เจ้าเมื่อพวกเจ้าได้ยินบรรดาโองการของอัลลอฮฺ โองการเหล่านั้นก็ถูกปฏิเสธและถูกเย้ยหยัน ดังนั้นพวกสูเจ้าอย่าได้นั่งร่วมกับพวกเขาจนกว่าพวกเขาจะพูดคุยในเรื่องอื่นจากนั้น แท้จริงพวกเจ้าถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วก็เหมือนพวกเขา แท้จริงอัลลอฮฺจะทรงรวบรวมบรรดามุนาฟิกและบรรดาผู้ปฏิเสธทั้งหมดไว้ในนรกญะฮันนัม” (อันนิสาอฺ 4/140)
3. อัลญะฮีม
ﭧ ﭨ ﭽ ﭑ ﭒ ﭓ ﭔ ﭕ ﭖ ﭗ ﭘ ﭼ المائدة: ١٠
ความว่า “และบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธาและปฏิเสธบรรดาโองการของเรานั้น พวกเขาเหล่านั้นคือชาวนรก” (อัลมาอิดะฮฺ 5/10)
4. อัสสะอีรฺ
ﭧ ﭨﭽ ﭣ ﭤ ﭥ ﭦ ﭧ ﭨ ﭩ ﭪ ﭼ الأحزاب: ٦٤
ความว่า “แท้จริงอัลลอฮฺทรงสาปแช่งบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา และทรงจัดเตรียมไฟที่ลุกโชติช่วงไว้สำหรับพวกเขา” (อัลอะหฺซาบ 33/64)
5. สะก็อรฺ
ﭧ ﭨ ﭽ ﰂ ﰃ ﰄ ﰅ ﰆ ﰇ ﰈ ﰉ ﰊ ﰋ ﭼ القمر: ٤٨
ความว่า “วันที่พวกเขาจะถูกลากบนใบหน้าของพวกเขาลงสู่ไฟนรก (จะมีเสียงกล่าวขึ้นว่า) พวกเจ้าจงลิ้มรสการลงโทษที่มีการเผาไหม้” (อัลเกาะมัร 54/48)
6. อัลหุเฏาะมะฮฺ
ﭧ ﭨﭽ ﭱﭲ ﭳ ﭴ ﭵ ﭶ ﭷ ﭸ ﭹ ﭺ ﭻ ﭼ ﭽ ﭾ ﭿ ﭼ الهمزة: ٤ - ٦
ความว่า “มิใช่เช่นนั้นแน่นอนเขาจะถูกโยนลงไปในไฟนรก (อัลหุเฏาะมะฮฺ) และอะไรเล่าที่ทำให้เจ้าได้รู้ว่าไฟนรก (อัลหุเฏาะมะฮฺ) นั้นคืออะไร คือไฟของอัลลอฮฺที่จุดให้ลุกโชน” (อัลฮุมะซะฮฺ 104/4-6)
7. ละซอ
ﭧ ﭨﭽ ﭪﭫ ﭬ ﭭ ﭮ ﭯ ﭰ ﭱ ﭲ ﭳ ﭴ ﭵ ﭶ ﭼ المعارج: ١٥ -١٧
ความว่า “ไม่เลยทีเดียว แท้จริงมันเป็นไฟที่ลุกโชน หนังศรีษะถูกลอกออก (เพราะความร้อนของไฟนรก) มันจะเรียกผู้ที่ผินหลังและหันห่างจากความจริง” (อัลมะอาริจญ์ 70/15-17)
8. ดารุลบะวาร
ﭧ ﭨﭽ ﮃ ﮄ ﮅ ﮆ ﮇ ﮈ ﮉ ﮊ ﮋ ﮌ ﮍ ﮎ ﮏ ﮐ ﮑﮒ ﮓ ﮔ ﮕ ﭼ إبراهيم: ٢٨ - ٢٩
ความว่า “เจ้าไม่เห็นดอกหรือว่าบรรดาผู้เปลี่ยนความโปรดปรานของอัลลอฮฺเป็นการปฏิเสธศรัทธา และได้นำกลุ่มชนของพวกเขาลงสู่ที่พำนักอันหายนะ นรกญะฮันนัมที่มีเปลวไฟร้อนจัดของมันและมันเป็นที่พำนักอันชั่วช้า” (อิบรอฮีม 14/28-29)
ที่ตั้งของนรก
ﭧ ﭨﭽ ﭑ ﭒ ﭓ ﭔ ﭕ ﭖ ﭗ ﭼ المطففين: ٧
ความว่า “มิใช่เช่นนั้น แท้จริงบันทึกของบรรดาคนชั่วนั้นอยู่ในสิจญีน” (อัลมุฏ็อฟฟิฟีน 83/7)
عن أبي هريرة رضي الله عنه أن رسول الله صَلَّى اللهُ عَلَيهِ وَسَلَّم قال: «... وَأَمَّا الكَافِرُ فَإذَا قُبِضَتْ نَفْسُهُ وَذُهِبَ بِـهَا إلَى بَابِ الأَرْضِ يَـقُولُ خَزَنَةُ الأَرْضِ: مَا وَجَدْنَا رِيحاً أَنْتَنَ مِنْ هَذِهِ، فَتَبْلُغُ بِـهَا إلى الأَرْضِ السُّفْلَى». أخرجه الحاكم وابن حبان
จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฏิยัลลอฮฺอันฮุ กล่าวว่า ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “...ส่วนผู้ปฏิเสธศรัทธาเมื่อวิญญาณของเขาถูกปลิดลง และถูกนำไปยังประตูของผืนดิน ผู้เฝ้าประตูกล่าวว่า เราไม่เคยพบกลิ่นใดเหม็นเหมือนกับกลิ่นนี้ ดังนั้นมันกระจายไปยังผืนดินชั้นล่างสุด” (บันทึกโดยอัลหากิม หะดีษเลขที่ 1304, อิบนุหิบบาน หะดีษเลขที่ 3013)
ชาวนรกจะพำนักในนั้นตลอดกาล
บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา มุชริกีน และพวกมุนาฟิกต้องพำนักอยู่ในนรกตลอดกาล ส่วนผู้ฝ่าฝืนจากบรรดาผู้ศรัทธาพวกเขาจะอยู่ภายใต้ความประสงค์ของอัลลอฮฺ หากพระองค์ประสงค์ก็จะอภัยโทษให้แก่พวกเขาหรือไม่พระองค์ก็จะลงโทษพวกเขามากน้อยตามความผิดของพวกเขา
ﭧ ﭨﭽ ﯜ ﯝ ﯞ ﯟ ﯠ ﯡ ﯢ ﯣ ﯤﯥ ﯦ ﯧﯨ ﯩ ﯪﯫ ﯬ ﯭ ﯮ ﯯ ﭼ التوبة: ٦٨
ความว่า “อัลลอฮฺได้ทรงสัญญาแก่บรรดามุนาฟิกชายและบรรดามุนาฟิกหญิงและผู้ปฏิเสธศรัทธาทั้งหลายด้วยไฟนรกญะฮันนัม โดยที่พวกเขาจะอยู่ในนั้นตลอดกาลมันเป็นสิ่งที่พอเพียงแก่พวกเขาแล้ว และอัลลอฮฺก็ได้ทรงให้พวกเขาห่างไกลจากความเอ็นดูเมตตาของพระองค์และสำหรับพวกเขานั้นคือการลงโทษอันจีรังยั่งยืน” (อัตเตาบะฮฺ 9/68)
ﭧ ﭨ ﭽ ﮢ ﮣ ﮤ ﮥ ﮦ ﮧ ﮨ ﮩ ﮪ ﮫ ﮬ ﮭ ﮮﮯ ﮰ ﮱ ﯓ ﯔ ﯕ ﯖ ﯗ ﯘ ﭼ النساء: ٤٨
ความว่า “แท้จริงอัลลอฮฺจะไม่ทรงอภัยแก่ผู้ที่ตั้งภาคีต่อพระองค์ และจะทรงอภัยให้แก่สิ่งอื่นจากนั้นสำหรับผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และผู้ใดที่ตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺแน่นอนเขาก็ได้อุปโลกน์บาปกรรมอันใหญ่หลวงขึ้น” (อันนิสาอ์ 4/48)
ลักษณะใบหน้าของชาวนรก
ﭧ ﭨ ﭽ ﭳ ﭴ ﭵ ﭶ ﭷ ﭸ ﭹ ﭺ ﭻﭼ ﭽ ﭾ ﭿ ﮀ ﮁ ﮂ ﭼ الزمر: ٦٠
ความว่า “และวันกิยามะฮฺเจ้าจะเห็นบรรดาผู้ที่กล่าวเท็จต่ออัลลอฮฺ ใบหน้าของพวกเขาดำคล้ำ ดังนั้นที่พำนักสำหรับผู้ที่หยิ่งยโสโอหังนั้นไม่ใช่นรกดอกหรือ?” (อัซซุมัร 39/60)
ﭧ ﭨ ﭽ ﰔ ﰕ ﰖ ﰗ ﰘ ﰙ ﰚ ﰛ ﰜ ﰝ ﰞ ﰟ ﰠ ﭼ عبس: ٤٠ – ٤٢
ความว่า “และบรรดาใบหน้าในวันนั้นมีฝุ่นจับ ความหม่นหมองจะปกคลุมบนใบหน้าเหล่านั้น ชนเหล่านั้นคือพวกปฏิเสธศรัทธาพวกประพฤติความชั่ว” (อะบะสะ 80/40-42)
ﭧ ﭨ ﭽ ﭡ ﭢ ﭣ ﭤ ﭥ ﭦ ﭧ ﭨ ﭩ ﭪ ﭼ القيامة: ٢٤ – ٢٥
ความว่า “และในวันนั้นบรรดาใบหน้าจะเศร้าสลด มันคิดว่าความหายนะอันใหญ่หลวงจะเกิดขึ้นกับมัน” (อัลกิยามะฮฺ 75/25-25)
ﭧ ﭨﭽ ﭩ ﭪ ﭫ ﭬ ﭭ ﭮ ﭯ ﭰ ﭱ ﭲ ﭳ ﭼ الغاشية: ٢ – ٤
ความว่า “ในวันนั้นมีบรรดาใบหน้าที่ต่ำต้อย ใบหน้าที่ทำงานหนักระกำใจ เข้าไปเผาไหม้ในไฟอันร้อนแรง” (อัลฆอชิยะฮฺ 88/2-4)
ﭧ ﭨ ﭽ ﰃ ﰄ ﰅ ﰆ ﰇ ﰈ ﰉ ﭼ المؤمنون: ١٠٤
ความว่า “ไฟนรกจะเผาไหม้ใบหน้าของพวกเขา และพวกเขาจะมีใบหน้าที่บูดเบี้ยวอยู่ในนรกนั้น” (อัลมุอ์มินูน 23/104)
จำนวนประตูนรก
ﭧ ﭨ ﭽ ﮦ ﮧ ﮨ ﮩ ﮪ ﮫ ﮬ ﮭ ﮮ ﮯ ﮰ ﮱ ﯓ ﯔ ﭼ الحجر: ٤٣ - ٤٤
ความว่า “และแท้จริงนรกญะฮันนัม แน่นอนคือสัญญาของพวกเขาทั้งหมด มันมีเจ็ดประตู สำหรับทุกประตูมีส่วนที่ถูกจัดไว้แล้ว” (อัลหิจรฺ 15/43-44)
ประตูนรกจะถูกปิดล้อมอย่างมิดชิด
ﭧ ﭨﭽ ﮅ ﮆ ﮇ ﮈ ﮉ ﮊ ﮋ ﮌ ﭼ الهمزة: ٨ – ٩
ความว่า “แท้จริงมันจะลุกไหม้คลุมบนพวกเขาอย่างมิดชิด อยู่ในสภาพของเสาสูงชะลูด” (อัลฮุมะซะฮฺ 104/8-9)
ไฟนรกในวันกิยามะฮฺจะถูกเปิดเผยให้เห็นอย่างชัดแจ้ง
ﭧ ﭨ ﭽ ﭼ ﭽ ﭾ ﭿ ﭼ الشعراء: ٩١
ความว่า “และนรกจะถูกเปิดเผยให้เห็นแก่บรรดาผู้ที่หลงผิดคิดชั่ว” (อัชชุอะรออ์ 26/91)
ﭧ ﭨ ﭽ ﯢ ﯣ ﯤ ﯥ ﯦ ﯧ ﯨ ﯩ ﯪ ﯫ ﯬ ﯭ ﯮ ﯯ ﯰ ﯱﯲ ﯳ ﯴ ﯵ ﯶ ﯷ ﯸ ﯹ ﭼ الفجر: ٢١ - ٢٣
ความว่า “หามิได้เมื่อแผ่นดินถูกทำให้สั่นสะเทือนเป็นผุยผง และพระผู้อภิบาลของเจ้าได้มาพร้อมทั้งมะลาอิกะฮฺเป็นแถวๆ และวันนั้นนรกญะฮันนัมจะถูกนำมาให้ปรากฏ ในวันนั้นมนุษย์จะรำลึกขึ้นมาได้ แต่การรำลึกนั้นจะมีผลแก่เขาได้อย่างไร” (อัลฟัจญรฺ 89/21-23)
وعن عبدالله بن مسعود رضي الله عنه قال: قال رسول الله صَلَّى اللهُ عَلَيهِ وَسَلَّم : «يُؤْتَى بِـجَهَنَّمَ يَومَئِذٍ لَـهَا سَبْـعُونَ أَلْفَ زِمَامٍ، مَعَ كُلِّ زِمَامٍ سَبْعُونَ أَلْفَ مَلَكٍ يَـجُرُّونَـهَا». أخرجه مسلم
จากท่านอับดุลลอฮฺ บิน มัสอูด เราะฏิยัลลอฮุอันฮฺ กล่าวว่า ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “ในวันนั้น (วันพิพากษา) จะมี 70,000 บังเหียนถูกผูกเชือกนำมายังนรกญะฮันนัม และทุกบังเหียนจะมีมะลาอิกะฮฺ 70,000 ท่าน ที่มาฉุดลากมัน” (บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข 2842)
การเดินผ่านนรกและบุคคลแรกที่จะเดินข้ามสะพานศิรอฏ
ﭧ ﭨ ﭽ ﮐ ﮑ ﮒ ﮓﮔ ﮕ ﮖ ﮗ ﮘ ﮙ ﮚ ﮛ ﮜ ﮝ ﮞ ﮟ ﮠ ﮡ ﮢ ﮣ ﭼ مريم: ٧١ - ٧٢
ความว่า “และไม่มีผู้ใดในหมู่พวกเจ้านอกจากจะเป็นผู้ผ่านเข้าไปในมัน มันเป็นสิ่งที่กำหนดไว้แน่นอนแล้วสำหรับพระผู้อภิบาลของเจ้า แล้วเราจะให้บรรดาผู้ยำเกรงรอดพ้น แล้วเราจะปล่อยให้บรรดาผู้อธรรมคุกเข่าอยู่ในนั้น” (มัรยัม 19/71-72)
وعن أبي هريرة رضي الله عنه أن ناساً قالوا: يا رسول الله هل نرى ربنا يوم القيامة... -وفيه- «وَيُضْرَبُ الصِّرَاطُ بَيْنَ ظَهْرَيْ جَهَنَّمَ فَأَكُونُ أَنَا وَأُمَّتِي أَوَّلَ مَنْ يُـجيزُ». متفق عليه
จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฏิยัลลอฮุอันฮฺ กล่าวว่า มีคนกลุ่มหนึ่งกล่าวว่า โอ้ท่านรสูลุลลอฮฺ ในวันกิยามะฮฺเราจะได้เห็นพระผู้อภิบาลของเราหรือไม่? ... (ในตอนหนึ่งของหะดีษระบุว่า) ... “ศิรอฏจะถูกพาดระหว่างสองฝั่งของนรกญะฮันนัม ดังนั้นฉันและประชาชาติของฉันจะเป็นกลุ่มแรกที่เดินข้ามผ่าน” (อัลบุคอรี หะดีษเลขที่ 806, มุสลิม หะดีษเลขที่ 182)
ความลึกของนรก
عن أبي هريرة رضي الله عنه قال: كنا مع رسول الله × إذ سمع وَجْبَةً، فقال النبي صَلَّى اللهُ عَلَيهِ وَسَلَّم : «تَدْرُونَ مَا هَذَا؟» قال: قلنا الله ورسوله أعلم، قال: «هَذَا حَجَرٌ رُمِيَ بِـهِ فِي النَّارِ مُنْذُ سَبْعِينَ خَرِيفاً فَهُوَ يَـهْوِي فِي النَّارِ الآنَ حَتَّى انْتَـهَى إلَى قَعْرِهَا». أخرجه مسلم
จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฏิยัลลอฮุอันฮฺ กล่าวว่า เราอยู่พร้อมกับท่านท่าน รสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ทันใดนั้นได้ยินมีเสียงที่น่าสะพรึงกลัว ดังนั้นท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า พวกท่านรู้ไหมว่านี่มันเป็นเสียงอะไร? เขาเล่าว่า พวกเราตอบว่า อัลลอฮฺและรสูลของพระองค์รู้ดียิ่ง ท่านกล่าวว่า นั่นเป็นเสียงของหินที่มันถูกโยนลงไปในนรกตั้งแต่ 70 ปีที่แล้ว และในขณะนี้มันยังคงตกไหลลงจนกระทั่งถึงก้นหลุม” (มุสลิม หะดีษเลขที่ 2844)
عن سمرة بن جندب رضي الله عنه أنه سمع نبي الله صَلَّى اللهُ عَلَيهِ وَسَلَّم يقول: «إنَّ مِنْـهُـمْ مَنْ تَأْخُذُهُ النَّارُ إلَى كَعْبَيْـهِ، وَمِنْـهُـمْ مَنْ تَأْخُذُهُ إلَى حُجْزَتِـهِ، وَمِنْـهُـمْ مَنْ تَأْخُذُهُ إلَى عُنُقِهِ». أخرجه مسلم
จากสะมุเราะฮฺ บิน ญุนดุบ เราะฏิยัลลอฮุอันฮฺ เขาได้ยินท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “แท้จริงมีส่วนหนึ่งของชาวนรกบรรดาผู้ที่ไฟนรกลุกลามถึงข้อเท้าของเขาและบางคนไฟจะลุกลามถึงเอวของเขาและบางคนจะลุกลามถึงต้นคอของเขา” (มุสลิม หะดีษเลขที่ 2845)
ส่วนต่างๆ ของชาวนรกถูกสร้างให้ใหญ่โต
عن أبي هريرة رضي الله عنه قال: قال رسول الله صَلَّى اللهُ عَلَيهِ وَسَلَّم : «ضِرْسُ الكَافِرِ أَوْ نَابُ الكَافِرِ مِثْلُ أُحُدٍ، وَغِلَظُ جِلْدِهِ مَسِيرَةُ ثَلاثٍ». أخرجه مسلم
จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฏิยัลลอฮุอันฮฺ กล่าวว่า ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “ฟันกรามหรือฟันเขี้ยวของผู้ปฏิเสธศรัทธา (กาฟิร) จะใหญ่เหมือนกับภูเขาอุฮุด และความหนาของผิวหนังของเขาจะกว้างเท่ากับการเดินทาง 3 คืน” (มุสลิม หะดีษเลขที่ 2851)
عن أبي هريرة رضي الله عنه أن النبي صَلَّى اللهُ عَلَيهِ وَسَلَّم قال: «مَا بَيْنَ مَنْكِبَي الكَافِرِ فِي النَّارِ مَسِيرَةُ ثَلاثَةِ أَيَّامٍ لِلرَّاكِبِ المُسْرعِ». متفق عليه
จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฏิยัลลอฮุอันฮฺ กล่าวว่า แท้จริงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “ความกว้างระหว่างไหล่ทั้งสองของผู้ปฏิเสธในนรกจะเท่ากับการเดินทางด้วยการขับขี่อย่างรวดเร็วเป็นระยะเวลา 3 วัน” (อัลบุคอรี หะดีษเลขที่ 6551, มุสลิม หะดีษเลขที่ 52)
عن أبي هريرة رضي الله عنه عن النبي صَلَّى اللهُ عَلَيهِ وَسَلَّم قال: «ضِرْسُ الَكَافِرِ يَومَ القِيَامَةِ مِثْلُ أُحُدٍ، وَعَرْضُ جِلْدِهِ سَبْعُونَ ذِرَاعاً، وَعَضُدُه مِثْلُ البَيْضَاءِ، وَفَخِذُهُ مِثْلُ وَرقَانٍ، وَمَقْعَدُهُ مِنَ النَّارِ مَا بَيْنِي وَبَينَ الرَّبَذَةِ». أخرجه أحمد والحاكم
จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฏิยัลลอฮุอันฮุ จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า ”ในวันกิยามะฮฺฟันกรามของพวกกาฟิร จะใหญ่เหมือนกับภูเขาอุฮุด ผิวหนังของเขาหนา 70 ศอก แขนของเขาใหญ่เหมือนกับภูเขาอัลบัยฏออ์ (มีความใหญ่ขนาดภูเขาอุฮุด) ขาอ่อนของเขามีความใหญ่เหมือนกับภูเขาวัรกอน และที่นั่งของเขาทำจากไฟมีขนาดระหว่างฉันกับอัรเราะบะซะฮฺ (ชื่อสถานที่อยู่ระหว่างมะดีนะฮฺกับมักกะฮฺ“ (อะหฺมัด หะดีษเลขที่ 8327 , อัลหากิม หะดีษเลขที่ 8759)
ความร้อนระอุของไฟนรก
ﭧ ﭨ ﭽ ﭑ ﭒ ﭓ ﭔ ﭕﭖ ﭗ ﭘ ﭙ ﭚ ﭛ ﭜ ﭝ ﭞﭟ ﭠ ﭡ ﭢ ﭣ ﭤ ﭥ ﭦ ﭧﭨ ﭩ ﭪﭫ ﭬ ﭭ ﭮ ﭯ ﭰ ﭱ ﭲ ﭳ ﭴ ﭵ ﭶ ﭷ ﭸ ﭹ ﭺ ﭻ ﭼ ﭽ ﭾ ﭿ ﭼ الإسراء: ٩٧ - ٩٨
1. ความว่า “และผู้ใดที่อัลลอฮฺได้นำทางเขาก็จะเป็นผู้ที่อยู่ในแนวทางที่ถูกต้อง และผู้ใดที่อัลลอฮฺทรงให้เขาหลงผิดแล้ว ดังนั้นสูเจ้าจะไม่พบบรรดาผู้คุ้มครองอื่นอีกเลยนอกจากพระองค์ และเราจะชุมนุมพวกเขาในวันกิยามะฮฺ ถูกลากคว่ำหน้าโดยมีสภาพเป็นคนตาบอด เป็นใบ้และหูหนวก ที่พำนักของพวกเขาคือนรกญะฮันนัม ทุกครั้งที่มันมอดเราได้เพิ่มการเผาไหม้ให้ลุกโชนแก่เขา นั่นคือการตอบแทนของเขาอย่างแน่นอน พวกเขาปฏิเสธศรัทธาต่อโองการทั้งหลายของเราและพวกเขากล่าวว่าเมื่อเราเป็นกระดูกและร่วนยุ่ยแล้ว แท้จริงเราจะถูกให้ฟื้นคืนชีพขึ้นเพื่อกำเนิดใหม่ได้อย่างไร” (อัลอิสรออ์ 17/97-98)
عن أبي هريرة رضي الله عنه أن النبي صَلَّى اللهُ عَلَيهِ وَسَلَّم قال: «نَارُكُمْ هَذِهِ الَّتِي يُوقِدُ ابْنُ آدَمَ جُزْءٌ مِنْ سَبْعِينَ جُزْءاً مِنْ حَرِّ جَهَنَّمَ» قالوا: والله إن كانت لكافية يا رسول الله، قال: «فَإنّهَا فُضِّلَتْ عَلَيْـهَا بِتِسْعَةٍ وَسِتّينَ جُزْءاً كُلُّها مِثْلُ حَرِّهَا». متفق عليه
2. จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฏิยัลลอฮุอันฮฺ แท้จริงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “ไฟที่มนุษย์ใช้จุดอยู่นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งจาก 70 ส่วนความร้อนของไฟนรกญะฮันนัม” พวกเขากล่าวว่า ขอสาบานต่ออัลลอฮฺ เท่าที่เป็นอยู่ก็ถือว่าเพียงพอแล้วท่านรสูลุลลอฮฺ ท่านกล่าวว่า แท้จริงความร้อนของมันจะถูกเพิ่มทวีขึ้น 69 เท่า ทุกเท่าของมันจะร้อนเหมือนกันหมด” (อัลบุคอรี หะดีษเลขที่ 806, มุสลิม หะดีษเลขที่ 182)
عن أبي هريرة رضي الله عنه قال: قال رسول الله صَلَّى اللهُ عَلَيهِ وَسَلَّم «اشْتَـكَتِ النَّارُ إلَى رَبِّهَا فَقَالَتْ: رَبِّ أَكَلَ بَـعْضِي بَـعْضاً، فَأَذِنَ لَـهَا بِنَفَسَينِ، نَفَسٍ فِي الشِّتَاءِ وَنَفَسٍ فِي الصَّيْفِ، فَأَشَدُّ مَا تَـجِدُونَ مِنَ الحَرِّ، وَأَشَدُّ مَا تَـجِدُونَ مِنَ الزَّمْهَرِيرِ». متفق عليه
3. จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฏิยัลลอฮุอันฮฺ กล่าวว่า ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “ไฟ (นรก) ได้ร้องทุกข์กับพระเจ้าของมันว่า โอ้พระเจ้าของฉัน ส่วนหนึ่งของฉันต่างกินอีกส่วนหนึ่ง ดังนั้นพระองค์ได้อนุมัติให้นรกได้ผ่อนหายใจได้สองครั้ง ครั้งหนึ่งในฤดูหนาวและอีกครั้งในฤดูร้อน และเพราะเหตุนี้จึงทำให้เกิดความร้อนระอุและความหนาวเหน็บอย่างหนักที่พวกท่านได้ประสบ (ตามสภาพดินฟ้าอากาศ)” (อัลบุคอรี หะดีษเลขที่ 3265, มุสลิม หะดีษเลขที่ 2843)
เชื้อเพลิงของนรก
ﭧ ﭨﭽ ﯛ ﯜ ﯝ ﯞ ﯟ ﯠ ﯡ ﯢ ﯣ ﯤ ﯥ ﯦ ﯧ ﯨ ﯩ ﯪ ﯫ ﯬ ﯭ ﯮ ﯯ ﯰ ﯱ ﭼ التحريم: ٦
1. ความว่า “โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย จงคุ้มครองตัวพวกเจ้าและครอบครัวของพวกเจ้าให้พ้นจากไฟนรก เพราะเชื้อเพลิงของมันคือ มนุษย์และก้อนหิน มีมลาอิกะฮฺผู้แข็งกร้าวหาญคอยเฝ้ารักษามันอยู่ พวกเขาจะไม่ฝ่าฝืนอัลลอฮฺในสิ่งที่พระองค์บัญชาแก่พวกเขาและพวกเขาจะปฏิบัติตามที่ถูกบัญชา” (อัตตะหฺรีม 66/6)
ﭧ ﭨﭽ ﯷ ﯸ ﯹ ﯺ ﯻ ﯼ ﯽ ﯾ ﯿ ﰀ ﰁﰂ ﰃ ﰄ ﰅ ﭼ البقرة: ٢٤
2. ความว่า “แต่ถ้าพวกเจ้ายังมิได้ทำและจะไม่กระทำตลอดไปก็จงระวังไฟนรก ซึ่งเชื้อเพลิงของมันนั้นคือ มนุษย์ และหิน โดยที่มันได้ถูกเตรียมไว้สำหรับบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา” (อัลบะเกาะเราะฮฺ 2/24)
ﭧ ﭨ ﭽ ﮢ ﮣ ﮤ ﮥ ﮦ ﮧ ﮨ ﮩ ﮪ ﮫ ﮬ ﮭ ﭼ الأنبياء: ٩٨
3. ความว่า “แท้จริงพวกเจ้า (มุชริกีน) และสิ่งที่พวกเจ้าเคารพบูชาอื่นนอกจากอัลลอฮฺนั้น ทั้งหมดนั้นเป็นเชื้อเพลิงของนรกโดยพวกเจ้าจะเข้าไปอยู่ในนั้น” (อัลอัมบิยาอ์ 21/98)
ระดับชั้นของการลงโทษในนรก
นรกมีระดับชั้นในการลงโทษที่แตกต่างกัน บางส่วนจะอยู่ในชั้นที่ต่ำกว่าอีกบางส่วน บรรดาพวกมุนาฟิกจะอยู่ในนรกชั้นใต้สุด เนื่องจากพวกเขามีความเกินเลยในการปฎิเสธและพวกเขามีโอกาสในการทำร้ายต่อมุสลิม
ﭧ ﭨ ﭽ ﮱ ﯓ ﯔ ﯕ ﯖ ﯗ ﯘ ﯙ ﯚ ﯛ ﯜ ﯝ ﭼ النساء: ١٤٥
ความว่า “แท้จริงบรรดามุนาฟิกนั้นอยู่ในชั้นต่ำสุดของนรกและเจ้าจะไม่พบผู้ช่วยเหลือใดๆ สำหรับพวกเขาเป็นอันขาด” (อันนิสาอ์ 4/145)
ลักษณะของร่มเงานรก
ﭧ ﭨﭽ ﯗ ﯘ ﯙ ﯚ ﯛ ﯜ ﯝ ﯞ ﯟ ﯠ ﯡ ﯢ ﯣ ﯤ ﭼ الواقعة: 41-43
1. ความว่า “และกลุ่มทางซ้าย (ผู้ได้รับบันทึกด้วยมือซ้าย) เจ้ารู้หรือไม่ว่ากลุ่มทางซ้ายเป็นอย่างไร อยู่ในลมร้อนและน้ำกำลังเดือด อยู่ใต้ร่มเงาของควันที่ดำทึบ” (อัลวากิอะฮฺ 56/41-43)
ﭧ ﭨﭽ ﮈ ﮉ ﮊ ﮋ ﮌ ﮍ ﮎ ﮏ ﮐﮑ ﮒ ﮓ ﮔ ﮕ ﮖﮗ ﮘ ﮙ ﮚ ﭼ الزمر: ١٦
2. ความว่า “สำหรับพวกเขานั้นมีชั้นของเปลวไฟนรกปกคลุมเหนือพวกเขา และเบื้องล่างของพวกเขาก็มีชั้นของเปลวไฟนรกอยู่ด้วย สิ่งนั้นแหละที่อัลลอฮฺทรงทำให้ปวงบ่าวของพระองค์กลัว โอ้ปวงบ่าวของข้าเอ๋ย จงยำเกรงต่อข้าเถิด” (อัซซุมัร 39/16)
ﭧ ﭨ ﭽ ﮃ ﮄ ﮅ ﮆ ﮇ ﮈ ﮉ ﮊ ﮋ ﮌ ﮍ ﮎ ﮏ ﮐ ﭼ المرسلات: ٣٠ - ٣١
3. ความว่า “จงออกเดินไปยังเงาควันสามแฉก (มัน) ไม่ทำให้เกิดร่มและจะไม่ช่วยในพ้นจากเปลวไฟได้” (อัลมุรสะลาต 77/30-31)
ยามเฝ้านรก
ﭧ ﭨﭽ ﭶ ﭷ ﭸ ﭹ ﭺ ﭻ ﭼ ﭽ ﭾ ﭿ ﮀ ﮁ ﮂ ﮃ ﮄ ﮅ ﮆ ﮇ ﮈ ﮉ ﮊ ﮋ ﮌ ﮍ ﮎ ﮏﮐ ﮑ ﮒ ﮓ ﮔ ﮕ ﮖ ﮗ ﮘ ﮙ ﮚ ﮛ ﮜ ﮝ ﮞ ﮟﮠ ﮡ ﮢ ﮣ ﮤ ﮥ ﮦﮧ ﮨ ﮩ ﮪ ﮫ ﮬ ﮭ ﮮ ﮯ ﮰ ﮱ ﯓﯔ ﯕ ﯖ ﯗ ﯘ ﯙ ﯚ ﯛ ﯜﯝ ﯞ ﯟ ﯠ ﯡ ﯢ ﯣﯤ ﯥ ﯦ ﯧ ﯨ ﯩ ﯪ ﭼ المدثر: ٢٦ - ٣١
1. ความว่า “ในไม่ช้าข้าจะโยนเขาเข้าสู่กองไฟที่เผาไหม้ และอันใดเล่าทำให้เจ้ารู้ได้ว่าสิ่งที่เผาไหม้นั้นคืออะไร มันจะไม่เหลืออะไรเลย และมันจะไม่ปล่อยผู้ใดให้คงเหลือไว้ (เช่นกัน) มันจะเผาไหม้ผิวหนังจนเกรียมดำ เหนือมันมีมลาอิกะฮฺสิบเก้าท่าน และเรามิได้แต่งตั้งผู้ใดเป็นยามเฝ้าประตูนรกนอกจากมลาอิกฮฺเท่านั้น และเรามิได้กำหนดจำนวนของพวกเขาไว้เว้นแต่เพื่อเป็นการทดสอบแก่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา เพื่อบรรดาอะฮฺลุลกิตาบจะได้เชื่อมั่นและบรรดาผู้ศรัทธาจะได้เพิ่มพูนการศรัทธาและบรรดาอะฮฺลุลกิตาบรวมทั้งบรรดาผู้ศรัทธาจะไม่ต้องสงสัย และเพื่อบรรดาผู้ในหัวใจของพวกเขามีโรคอีกทั้งบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาจะกล่าวว่า อัลลอฮฺทรงประสงค์อะไรด้วยอุปมานี้ เช่นนั้นแหละอัลลอฮฺทรงให้หลงทางแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์และจะทรงชี้แนะนำทางแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และไม่มีผู้ใดรู้จำนวนไพร่พลของพระเจ้าของเจ้า นอกจากพระองค์ และนี่มิใช่อื่นใดนอกจากเป็นข้อตักเตือนแก่มนุษย์” (อัลมุดดัซซิร 74/26-31)
ﭧ ﭨﭽ ﭦ ﭧ ﭨ ﭩ ﭪﭫ ﭬ ﭭ ﭮ ﭯ ﭼ الزخرف: ٧٧
2. ความว่า “และพวกเขาจะร้องเรียกขึ้นว่า โอ้มาลิก (ยามเฝ้าประตูนรก) โปรดให้พระเจ้าของท่านจัดการให้เราตายเสียเถิด เขา (มาลิก) จะกล่าวว่าแท้จริงพวกท่านจะเป็นผู้พำนักอยู่ในนั้นตลอดไป” (อัซซุครุฟ 43/77)
จำนวนผู้ที่เป็นชาวนรก
عن أبي سعيد الخدري رضي الله عنه عن النبي صلى الله عليه وسلم قال: «يَـقولُ اللهُ تَعَالَى: يَا آدَمُ، فَيَـقُولُ: لَبَّيكَ وَسَعْدَيْكَ، وَالخَيْرُ فِي يَدَيْكَ، فَيقُولُ: أخْرِجْ بَـعْثَ النَّارِ، قَالَ: وَمَا بَـعْثُ النَّارِ؟ قَالَ: مِنْ كُلِّ أَلْفٍ تِسْعمِائَةٍ وَتِسْعَةً وَتِسْعِينَ، فَعِنْدَه يَشِيبُ الصَّغِيرُ (ﭣ ﭤ ﭥ ﭦ ﭧ ﭨ ﭩ ﭪ ﭫ ﭬ ﭭ ﭮ ﭯ ﭰ ﭱ ﭲ) [الحج/2]. قَالُوا: يَا رَسُولَ الله، وَأَيُّنَا ذَلِكَ الوَاحِدُ؟ قَالَ: «أَبْشِرُوا فَإنَّ مِنْكُمْ رَجُلاً، وَمِنْ يَأْجُوجَ وَمَأجُوجَ أَلْفٌ». متفق عليه
จากท่านอบูสะอีด อัลคุดรียฺ เราะฏิยัลลอฮุอันฮฺ จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “ความว่า โอ้อาดัม เขากล่าวตอบว่า ลับบัยกะ วะสะดัยกะ (สนองตอบคำบัญชา)ความดีงามทั้งมวลอยู่ในพระหัตถ์ทั้งสองของพระองค์ ดังนั้นพระองค์ตรัสว่า จงนำเอาชาวนรกออกมา อาดัมกล่าวว่า เอาชาวนรกออกมาจำนวนเท่าไหร่? อัลลอฮฺตรัสว่า ในจำนวน 1,000 คน เอาออกมา 999 คน ในเวลานั้นเด็กจะหัวหงอก “และบรรดาหญิงที่ตั้งครรภ์จะคลอดลูกที่อยู่ในครรภ์ของนางออกมาและเจ้าจะเห็นมนุษย์อยู่ในสภาพที่มึนเมาทั้งๆ ที่พวกเขามิได้มึนเมาและแต่ทว่าการลงโทษของอัลลอฮฺนั้นรุนแรงยิ่งนัก” (อัลหัจญ์ : 2) บรรดาเศาะหาบะฮฺได้ถามว่า โอ้ท่านรสูลุลลออฮฺ ในพวกเราจะมีใครบ้างที่เป็นเช่นนั้น? (จำนวน 1 ใน 1,000 คน ที่รอดพ้นจากนรก) ท่านรสูลตอบว่า ฉันแจ้งข่าวดีแก่พวกท่าน แท้จริงหนึ่งคนที่รอดพ้นนั้นจะมาจากพวกท่าน ส่วน 1,000 คน มาจากพลพรรคของยะญูจและมะญูจ” (อัลบุคอรี หะดีษเลขที่ 3348 , มุสลิม หะดีษเลขที่ 222)
วิธีเข้านรกของชาวนรก
ﭧ ﭨﭽ ﮃ ﮄ ﮅ ﮆ ﮇ ﮈﮉ ﮊ ﮋ ﮌ ﮍ ﮎ ﮏ ﮐ ﮑ ﮒ ﮓ ﮔ ﮕ ﮖ ﮗ ﮘ ﮙ ﮚ ﮛ ﮜ ﮝﮞ ﮟ ﮠ ﮡ ﮢ ﮣ ﮤ ﮥ ﮦ ﮧ ﮨ ﮩ ﮪ ﮫ ﮬ ﮭﮮ ﮯ ﮰ ﮱ ﯓ ﭼ الزمر: ٧١ -٧٢
1. ความว่า “และบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาจะถูกไล่ต้อนสู่นรกเป็นกลุ่มๆ จนกระทั่งเมื่อพวกเขามาถึงมัน ประตูทั้งหลายของมันจะถูกเปิดออก ยามเฝ้าประตูของมันจะกล่าวแก่พวกเขาว่า บรรดารอซูลจากพวกท่านมิได้มายังพวกท่าน เพื่อสาธยายสัญญาณต่างๆแห่งพระเจ้าของพวกท่าน และกล่าวเตือนพวกท่านถึงการพบในวันนี้ของพวกท่านดอกหรือ? พวกเขากล่าวว่า มีครับ แต่ว่าพระประกาศิตแห่งการลงโทษเป็นที่คู่ควรแล้วแก่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา จะมีเสียงกล่าวว่า พวกท่านจงเข้าไปในประตูทั้งหลายของนรก เป็นผู้พำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล ดังนั้นที่พำนักของบรรดาผู้หยิ่งยโสช่างชั่วช้าแท้ๆ” (อัซซุมัร 39/71-72 )
ﭧ ﭨ ﭽ ﯴ ﯵ ﯶﯷ ﯸ ﯹ ﯺ ﯻ ﯼ ﯽ ﭑ ﭒ ﭓ ﭔ ﭕ ﭖ ﭗ ﭘ ﭙ ﭚ ﭛ ﭜ ﭝ ﭞ ﭟ ﭠ ﭡ ﭢ ﭣ ﭤ ﭥ ﭦ ﭧ ﭨ ﭩ ﭪ ﭫ ﭬ ﭭ ﭼ الفرقان: ١١ - ١٤
2. ความว่า “แต่ว่าพวกเขาปฏิเสธวันอวสานและเราได้เตรียมไฟอันร้อนระอุไว้สำหรับผู้ปฏิเสธวันอวสาน เมื่อนรกญะฮันนัมเห็นพวกเขาจากที่ไกลๆ พวกเขาจะได้ยินเสียงคุไหม้และเสียงเดือดพล่านของมัน และเมื่อพวกเขาถูกโยนลงไปในสถานที่แคบ ในสภาพที่ถูกมัดมือติดกับลำคอ ณ ที่นั้นพวกเขาจะวิงวอนขอความพินาศให้แก่ตัวเอง ในวันนี้เจ้าอย่าได้วิงวอนขอความพินาศเพียงครั้งเดียว แต่จงวิงวอนขอความพินาศหลายๆ ครั้ง” (อัลฟุรกอน 25/11-14)
ﭧ ﭨ ﭽ ﯮ ﯯ ﯰ ﯱ ﯲ ﯳ ﯴ ﯵ ﯶ ﯷ ﯸ ﯹ ﯺ ﯻ الطور: ١٣ - ١٤
3. ความว่า “วันที่พวกเขาจะถูกผลักลงนรกญะฮันนัมอย่างผลักไสไล่ส่ง นี่คือไฟนรก ซี่งพวกเจ้าเคยปฏิเสธมัน” (อัฏฏูร 52/13-14)
ﭧ ﭨ ﭽ ﮭ ﮮ ﮯ ﮰ ﮱ ﯓ ﯔ ﯕ ﯖ ﯗ ﯘ ﯙ ﯚ ﯛ ﭼ إبراهيم: ٤٩ - ٥٠
4.ความว่า “และวันนั้นเจ้าจะเห็นบรรดาอาชญากรถูกล่ามตรึงไว้ด้วยโซ่ เครื่องนุ่งห่มของพวกเขาทำด้วยวัสดุไหม้ไฟ และไฟจะลุกคลุมใบหน้าของพวกเขา” (อิบรอฮีม 14/49-50)
عن أبي هريرة رضي الله عنه قال: قال رسول الله صَلَّى اللهُ عَلَيهِ وَسَلَّم : «تَـخْرُجُ عُنُقٌ مِنَ النَّارِ يَومَ القِيَامَةِ، لَـهَا عَيْنَانِ تُبْصِرانِ، وَأُذُنَانِ تَسْمَعَانِ، وَلِسَانٌ يَنْطِقُ يَـقُولُ: إنِّي وُكِّلْتُ بِثَلاثَةٍ: بِكُلِّ جَبَّارٍ عَنِيدٍ، وَبِكُلِّ مَنْ دَعَا مَعَ ا٬ إلَـهاً آخَرَ، وَبِالمصَوِّرِينَ». أخرجه أحمد والترمذي
5. จากท่านอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฏิยัลลอฮุอันฮฺ กล่าวว่า ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “ในวันกิยามะฮฺจะมีคอโผล่ออกมาจากนรกซึ่งมันมีสองตาที่มองเห็น สองหูที่ได้ยินและมีลิ้นที่พูดได้ มันจะกล่าวว่า ฉันได้รับมอบหมายกับบุคคลสามประเภท ทุกคนที่หยิ่งยโส ดื้อรั้น ทุกคนที่วิงวอนต่อพระเจ้าอื่นพร้อมกับอัลลอฮฺ และบรรดาผู้ที่ทำรูปภาพ” (อะหฺมัด หะดีษเลขที่ 8411, อัตติรมิซียฺ หะดีษเลขที่ 2574)
กลุ่มแรกของผู้ที่ถูกไฟนรกเผาไหม้
عن أبي هريرة رضي الله عنه قال: سمعت رسول صلى الله عليه وسلم يقول: «إنَّ أَوَّلَ النَّاسِ يُـقْضَى يَومَ القِيَامَةِ عَلَيْـهِ، رَجُلٌ اسْتُشْهِدَ، فَأُتِيَ بِـهِ فَعَرَّفَهَ نِعَمَهُ فَعَرَفَهَا، قَالَ: فَمَا عَمِلْتَ فِيهَا؟، قَالَ: قَاتَلْتُ فِيكَ حَتَّى اسْتُشْهِدْتُ، قَالَ كَذَبْتَ، وَلَكِنَّكَ قَاتَلْتَ لأَنْ يُـقَالَ جَرِيءٌ فَقَدْ قِيلَ، ثُمَّ أُمِرَ بِـهِ فَسُحِبَ عَلَى وَجْهِهِ حَتّى أُلْقِيَ فِي النَّارِ.
وَرَجُلٌ تَعَلَّمَ العِلْـمَ وَعَلَّمَهُ وَقَرَأَ القُرآنَ، فَأُتِيَ بِـهِ فَعَرَّفَهُ نِعَمَهُ فَعَرَفَهَا، قَالَ: فَمَا عَمِلْتَ فِيهَا؟ قَالَ: تَعَلَّمْتُ العِلْـمَ وَعَلَّمْتُـهُ، وَقَرَأْتُ فِيكَ القُرآنَ، قَالَ: كَذَبْتَ وَلَكِنَّكَ تَعَلَّمْتَ العِلْـمَ لِيُـقَالَ عَالِـمٌ، وَقَرأتَ القُرآنَ لِيُـقَالَ هُوَ قَارِئٌ فَقَدْ قِيلَ، ثُمَّ أُمِرَ بِـهِ فَسُحِبَ عَلَى وَجْهِهِ حَتَّى أُلْقِيَ فِي النَّارِ.
وَرَجُلٌ وَسَّعَ اللهُ عَلَيْـهِ، وَأَعْطَاهُ مِنْ أَصْنَافِ المَالِ كُلِّهِ، فَأُتِيَ بِـهِ فَعَرَّفَهُ نِعَمَهُ فَعَرَفَهَا، قَالَ: فَمَا عَمِلْتَ فِيهَا؟ قَالَ: مَا تَرَكْتُ مِنْ سَبِيلٍ تُـحِبُّ أَنْ يُنْفَقَ فِيهَا إلا أَنْفَقْتُ فِيهَا لَكَ، قَالَ: كَذَبْتَ، وَلَكِنَّكَ فَعَلْتَ لِيُـقَالَ هُوَ جَوَادٌ، فَقَدْ قِيلَ، ثُمَّ أُمِرَ بِـهِ فَسُحِبَ عَلَى وَجْهِهِ، ثُمَّ أُلْقِيَ فِي النَّارِ». أخرجه مسلم
จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฏิยัลลอฮุอันฮฺ กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “แท้จริงมนุษย์กลุ่มแรกที่ถูกพิพากษาในวันกิยามะฮฺ คือ ผู้ที่แสวงหาการตายชะฮีด ดังนั้นผลงานของเขาได้ถูกนำมาเสนอแก่เขา จากนั้นได้ชี้แจงถึงความโปรดปรานต่างๆ ให้แก่เขา เขาก็ได้รับรู้ในสิ่งต่างๆ เหล่านั้น มีเสียงกล่าวขึ้นว่า สิ่งใดบ้างที่ท่านได้ทำในเรื่องนี้? เขาตอบว่า ฉันได้ต่อสู้เพื่อท่านจนกระทั่งได้รับชะฮีด มีเสียงกล่าวว่า ท่านโกหก! ทว่าท่านได้ทำการต่อสู้เพื่อให้ผู้คนได้กล่าวสรรเสริญว่าท่านเป็นคนกล้าหาญ และท่านก็ได้รับการสรรเสริญแล้ว จากนั้นมีคำสั่งให้ลากเขาโดยการคะมำหน้าต่อจากนั้นเขาถูกโยนลงไปในนรก
ผู้ที่แสวงหาวิชาความรู้แล้วได้นำความรู้ไปสอนแก่ผู้อื่นและได้อ่านอัลกุรอาน ดังนั้นผลงานของเขาได้ถูกนำมาเสนอแก่เขา จากนั้นได้ชี้แจงถึงความโปรดปรานต่างๆ ให้แก่เขา เขาก็ได้รับรู้ในสิ่งต่างๆ เหล่านั้น มีเสียงกล่าวขึ้นว่า สิ่งใดบ้างที่ท่านได้ทำในเรื่องนี้? เขาตอบว่า ฉันได้แสวงหาวิชาความรู้ ฉันได้นำมันไปสอนแก่ผู้อื่นและฉันก็ได้อ่านอัลกุรอานเพื่อท่าน มีเสียงกล่าวว่า ท่านโกหก! ทว่าท่านแสวงหาวิชาความรู้เพื่อให้ผู้คนได้กล่าวยกย่องว่าท่านเป็นคนอาลิม (มีความรู้) ท่านได้อ่านอัลกุรอานเพื่อให้ผู้คนกล่าวว่าเขาเป็นนักกอรี (นักอ่าน) และท่านก็ได้รับการกล่าวขานแล้ว จากนั้นมีคำสั่งให้ลากเขาโดยการคะมำหน้าต่อจากนั้นเขาถูกโยนลงไปในนรก
และผู้ที่อัลลอฮฺได้ประทานความสะดวกให้แก่เขา พระองค์ได้ประทานทรัพย์สมบัติให้แก่เขา ดังนั้นผลงานของเขาได้ถูกนำมาเสนอแก่เขา จากนั้นได้ชี้แจงถึงความโปรดปรานต่างๆ ให้แก่เขา เขาก็ได้รับรู้ในสิ่งต่างๆ เหล่านั้น มีเสียงกล่าวขึ้นว่า สิ่งใดบ้างที่ท่านได้ทำในเรื่องนี้? เขาตอบว่า ฉันไม่เคยทิ้งหนทางที่ท่านรักให้บริจาคผ่านไปเลยนอกจากฉันได้บริจาคในหนทางนั้นไปเพื่อท่าน มีเสียงกล่าวว่า ท่านโกหก! ทว่าท่านได้กระทำเพื่อที่จะให้ผู้คนกล่าวแก่ท่านว่าเขาเป็นคนใจบุญ และท่านก็ได้รับการกล่าวขานแล้ว จากนั้นมีคำสั่งให้ลากเขาโดยการคะมำหน้าต่อจากนั้นเขาถูกโยนลงไปในนรก” (มุสลิม หะดีษเลขที่ 1905)
ชาวนรก
1. อัลลอฮฺตรัสว่า
ﭧ ﭨ ﭽ ﭤ ﭥ ﭦ ﭧ ﭨ ﭩ ﭪﭫ ﭬ ﭭ ﭮ ﭯ ﭼ البقرة:٣٩
ความว่า “และบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธา และไม่เชื่อบรรดาโองการของเรานั้น ชนเหล่านี้คือชาวนรกโดยที่พวกเขาจะอยู่ในนรกตลอดกาล” (อัลบะเกาะเราะฮฺ 2 : 39)
عن عياض بن حمار رضي الله عنه أن رسول الله صلى الله عليه وسلم قال : «..وَأَهْلُ النَّارِ خَـمْسَةٌ : الضَّعِيفُ الَّذِي لا زَبْرَ لَـهُ، الَّذِينَ هُـمْ فِيْكُمْ تَـبَـعاً لا يَتْبَـعُونَ أَهْلاً وَلا مَالاً، وَالخَائِنُ الَّذِي لا يَـخْفَى لَـهُ طَمَعٌ وَإنْ دَقَّ إلا خَانَـهُ، وَرَجٌل لا يُصْبِـحُ وَلا يُـمْسِي إلا وَهُوَ يُـخَادِعُكَ عَنْ أَهْلِكَ وَمَالِكَ» وذكر البخل أو الكذب «والشِّنْظِيرُ الفَحَّاشُ» أخرجه مسلم
จากท่านอิยาฏ บิน หิมารฺ เราะฏิยัลลอฮฺ อันฮุ แท้จริงท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “...และชาวนรกมีอยู่ 5 จำพวก: เป็นพวกที่อ่อนแอไม่มีสติปัญญา บรรดาผู้ที่อยู่ในกลุ่มของพวกท่านเป็นผู้ที่คอยตามคนอื่นโดยที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเครือญาติและทรัพย์สมบัติ ผู้ที่คดโกงบิดพลิ้วเขาไม่สามารถปกปิดความละโมบเอาไว้ได้แม้ว่าเป็นสิ่งของเพียงเล็กน้อยยกเว้นเขาจะต้องคดโกงบิดพลิ้ว ผู้ที่บิดพลิ้วต่อครอบครัวและทรัพย์สมบัติของท่านไม่ว่าเช้าหรือเย็น” และกล่าวถึงการตระหนี่ การโกหก “และการมีมารยาทที่ไม่ดี” (มุสลิม หะดีษเลขที่ 2865)
ส่วนมากของชาวนรก
عن ابن عباس رضي الله عنهما قال : قال النبي الله صلى الله عليه وسلم «.. وَرَأَيتُ النَّارَ، فَإذَا أَكْثَرُ أَهْلِـهَا النِّسَاءُ يَكْفُرْنَ» قِيلَ أَيَكْفُرْنَ بِا٬لله؟، قَالَ: «يَكْفُرنَ العَشِيرَ وَيَكْفُرْنَ الإحْسَانَ، لَوْ أَحْسَنْتَ إلَى إحْدَاهُنَّ الدَّهْرَ ثُمَّ رَأَتْ مِنْكَ شَيئاً، قَالَتْ: مَا رَأَيْتُ مِنْكَ خَيراً قَطُّ». متفق عليه
จากท่านอิบนุ อับบาส เราะฏิยัลลอฮุอันฮุมา กล่าวว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า “... “ฉันได้เห็นในนรก ส่วนมากแล้วเป็นบรรดาผู้หญิงที่ปฏิเสธ” มีคนกล่าวว่า พวกนางเป็นผู้ปฏิเสธด้วยกระนั้นหรือ โอ้ท่านรสูลุลลอฮฺ? ท่านตอบว่า “พวกนางเนรคุณต่อสามีและปฏิเสธต่อความดีงาม หากท่านได้ทำความดีต่อคนหนึ่งคนใดจากพวกนางตลอดชีวิต ต่อจากนั้นนางได้เห็นสิ่งไม่ดีเพียงอย่างหนึ่งจากท่าน นางจะกล่าวว่า ฉันไม่เคยเห็นสิ่งดีงามอันใดจากท่านเลย” (อัลบุคอรี หะดีษเลขที่ 29 , มุสลิม หะดีษเลขที่ 907)
ชาวนรกที่ถูกลงโทษอย่างรุนแรงที่สุด
1. อัลลอฮฺตะอาลาตรัสว่า
ﭧ ﭨ ﭽ ﮡ ﮢ ﮣ ﮤ ﮥ ﮦ ﮧ ﮨ ﮩ ﮪ ﮫ ﮬ ﮭ ﮮ ﮯ ﮰ ﮱ ﯓ ﯔ ﯕ ﯖ ﯗ ﯘ ﭼ ق: ٢٤ - ٢٦
ความว่า “เจ้าทั้งสองจงโยนทุกคนที่ปฏิเสธศรัทธาและดื้อรั้น ผู้ขัดขวางการทำดี ผู้ฝ่าฝืน ผู้สงสัย ผู้ซึ่งได้ยึดเอาพระเจ้าอื่นเคียงคู่กับอัลลอฮฺ ดังนั้นเจ้าทั้งสองจงโยนเขาสู่การลงโทษอันสาหัส” (กอฟ 50 : 24 - 26)
2. อัลลอฮฺตะอาลาตรัสว่า
ﭧ ﭨ ﭽ ﮒ ﮓ ﮔ ﮕ ﮖﮗ ﮘ ﮙ ﮚ ﮛ ﮜ ﮝ ﮞ ﮟ ﮠ ﮡ ﮢﮣ ﮤ ﮥ ﮦ ﮧ ﮨ ﮩ ﮪ ﮫ ﮬ ﭼ غافر: ٤٥ - ٤٦
ความว่า “อัลลอฮได้ทรงคุ้มครองเขาให้พ้นจากความชั่วทั้งหลายที่พวกเขาวางแผนไว้ และการลงโทษที่ชั่วช้าก็จะห้อมล้อมบริวารของฟิรเอานฺ ไฟนรกนั้นพวกเขาจะถูกนำมาให้เห็นทั้งในยามเช้าและยามเย็น และในวันกิยามะฮฺนั้นมีเสียงกล่าวว่า จงให้บริวารของฟิรเอานฺเข้าไปรับการลงโทษอันสาหัสยิ่ง” (ฆอฟิร 40: 45 - 46)
3. อัลลอฮฺตะอาลาตรัสว่า
ﭧ ﭨ ﭽ ﭑ ﭒ ﭓ ﭔ ﭕ ﭖ ﭗ ﭘ ﭙ ﭚ ﭛ ﭜ ﭝ ﭞ ﭼ النحل: ٨٨
ความว่า “บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาและขวางกั้นหนทางของอัลลอฮฺ เราได้เพิ่มการลงโทษแก่พวกเขาให้มากขึ้นเนื่องจากเขาได้ก่อความเสียหาย” (อันนะหฺลฺ 16: 88)
4. อัลลอฮฺตะอาลาตรัสว่า
ﭧ ﭨ ﭽ ﮱ ﯓ ﯔ ﯕ ﯖ ﯗ ﯘ ﯙ ﯚ ﯛ ﯜ ﯝ ﭼ النساء: ١٤٥
ความว่า “แท้จริงบรรดามุนาฟิกนั้นอยู่ในนรกชั้นต่ำสุด และเจ้าจะไม่พบผู้ช่วยเหลือใดๆ แก่พวกเขาเป็นอันขาด” (อันนิสาอ์ 4: 145)
5. อัลลอฮฺตะอาลาตรัสว่า
ﭧ ﭨ ﭽ ﮖ ﮗ ﮘ ﮙ ﮚ ﮛ ﮜ ﮝ ﮞ ﮟ ﮠ ﮡ ﮢ ﮣ ﮤﮥ ﮦ ﮧ ﮨ ﮩ ﮪ ﮫ ﮬ ﮭ ﮮ ﮯﮰ ﮱ ﯓ ﯔ ﯕ ﯖ ﯗ ﯘ ﯙ ﯚ ﯛ ﯜ ﯝ ﯞ ﯟ ﯠ ﯡ ﯢ ﯣ ﯤ ﯥ ﯦ ﯧ ﯨ ﯩ ﯪ ﯫ ﯬ ﯭ ﯮ ﯯ ﯰ ﯱ ﯲ ﯳ ﯴﯵ ﯶ ﯷ ﯸ ﯹ ﯺ ﯻ ﯼ ﯽ ﯾ ﯿ ﰀ ﰁ ﭼ المائدة: ٦٨ - ٧٠
ความว่า “จงกล่าวเถิด (มุหัมมัด) ว่าบรรดาผู้ได้รับคัมภีร์ทั้งหลาย พวกท่านมิได้ตั้งอยู่บนสิ่งใดจนกว่าพวกท่านจะดำรงไว้ซึ่งอัตเตารอตเเละอัลอินญีล เเละสิ่งที่ถูกประทานลงมาเเก่พวกท่านจากพระเจ้าของพวกท่าน เเละเเน่นอนสิ่งที่ถูกประทานลงมาเเก่เจ้าจากพระเจ้าของเจ้านั้นจะเพิ่มการละเมิดเเละการปฏิเสธศรัทธาเป็นจำนวนมากในหมู่พวกเขา ดังนั้นเจ้าอย่าได้โศกเศร้าต่อบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธาเหล่านั้นเลย เเท้จริงบรรดาผู้ศรัทธา บรรดาผู้ที่เป็นยิว พวกซอบิอูนและบรรดาผู้ที่เป็นคริสเตียนนั้น ผู้ใดที่ศรัทธาต่ออัลลอฮฺเเละวันปรโลก เเละประกอบสิ่งที่ดีงามเเล้วก็ไม่มีความกลัวอันใดเเก่พวกเขาเเละพวกเขาก็จะไม่มีความเสียใจ เเท้จริงนั้นเราได้ทำสัญญาเเก่วงศ์วานอิสรออีลเเละเราได้ส่งบรรดารอซูลมายังพวกเขา ทุกครั้งที่รอซูลได้นำสิ่งที่จิตใจของพวกเขาไม่ชอบมาให้แก่พวกเขาเเล้ว กับกลุ่มหนึ่งพวกเขาก็ปฏิเสธเเละอีกกลุ่มหนึ่งพวกเขาก็ฆ่าเสีย” (อัลมาอิดะฮฺ 5 : 68 - 70)
عن أبي هريرة رضي الله عنه قال : قال رسول الله الله صلى الله عليه وسلم : «تَـخْرُجُ عُنُقٌ مِنَ النَّارِ يَومَ القِيَامَةِ، لَـهَا عَيْنَانِ تُبْصِرانِ، وَأُذُنَانِ تَسْمَعَانِ، وَلِسَانٌ يَنْطِقُ يَـقُولُ: إنِّي وُكِّلْتُ بِثَلاثَة ٍ: بِكُلِّ جَبَّارٍ عَنِيدٍ، وَبِكُلِّ مَنْ دَعَا مَعَ الله إلَـهاً آخَرَ، وَبِالمصَوِّرِينَ». أخرجه أحمد والترمذي
6. จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฏิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “ในวันกิยามะฮฺจะมีคอโผล่ออกมาจากนรก ซึ่งมันมีสองตาที่มองเห็น สองหูที่ได้ยินและมีลิ้นที่พูดได้ มันจะกล่าวว่า ฉันได้รับมอบหมายกับบุคคลสามประเภท ทุกคนที่หยิ่งยโส ดื้อรั้น ทุกคนที่วิงวอนต่อพระเจ้าอื่นพร้อมกับอัลลอฮฺและบรรดาผู้ที่ทำรูปภาพ” (อะหฺมัด หะดีษเลขที่ 8411 , อัตติรมิซียฺ หะดีษเลขที่ 2574)
عن عبدالله بن مسعود رضي الله عنه قال: قال رسول الله الله صلى الله عليه وسلم : «إنَّ أَشَدَّ النَّاسِ عَذَاباً يَومَ القِيَامَةِ المصَوِّرُونَ». متفق عليه
7. จากอับดุลลอฮฺ บิน มัสอูด เราะฏิยัลลอฮุอันฮฺ แท้จริงท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “แท้จริงผู้ที่ถูกลงโทษอย่างทารุณที่สุดในวันกิยามะฮฺ คือ บรรดาผู้ที่ทำให้เป็นรูปภาพเหมือนจริง” (อัลบุคอรี หะดีษเลขที่ 5950, มุสลิม หะดีษเลขที่ 2109)
عن عبدالله بن مسعود رضي الله عنه أن رسول الله الله صلى الله عليه وسلم قال : «أَشَدُّ النَّاسِ عَذَاباً يَومَ القِيَامَةِ رَجُلٌ قَتَلَـهُ نَبِيٌّ، أَوْ قَتَلَ نَبِيّاً، وَإمَامُ ضَلالَةٍ، وَمُـمَثِّلٌ مِنَ المُـمَثِّلِينَ». أخرجه أحمد والطبراني
8. จากอับดุลลอฮฺ บิน มัสอูด เราะฏิยัลลอฮุอันฮฺ กล่าวว่า ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “ผู้ที่ถูกลงโทษอย่างทารุณที่สุดในวันกิยามะฮฺ คือ ผู้ที่ฆ่าท่านนบีหรือท่านนบีได้ฆ่าเขา ผู้นำที่หลงผิด และผู้ที่เลียนแบบต่อบรรดาผู้ที่เลียนแบบทั้งหลาย” (อะหฺมัด หะดีษเลขที่ 3868 , อัฏเฏาะบะรอนี ใน อัลกะบีร 10 / 260)
ชาวนรกที่ถูกลงโทษเบาที่สุด
عن النعمان بن بشير رضي الله عنهما قال : سمعت النبي الله صلى الله عليه وسلم يقول : «إنَّ أَهْوَنَ أَهْلِ النَّارِ عَذَاباً يَومَ القِيَامَةِ رَجُلٌ عَلَى أَخْـمَصِ قَدَمَيْـهِ جَـمْرَتَانِ يَـغْلِي مِنْـهُـمَا دِمَاغُهُ كَمَا يَـغْلِي المِرْجَلُ بِالقُمْقُمِ». متفق عليه
1. จากท่านอันนุอฺมาน บิน บะชีร เราะฏิยัลลอฮุอันฮุมา กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “แท้จริงชาวนรกที่ถูกลงโทษเบาที่สุดในวันกิยามะฮฺ คือ คนที่ฝ่าเท้าของเขาเหยียบบนถ่านไฟสองก้อน จากความร้อนของทั้งสองจะทำให้สมองเขาเดือดเสมือนกับกาต้มน้ำได้เดือด” (อัลบุคอรี หะดีษเลขที่ 6562, มุสลิม หะดีษเลขที่ 213)
عن ابن عباس رضي الله عنهما أن رسول الله صلى الله عليه وسلم قال : «أَهْوَنُ أَهْلِ النَّارِ عَذَاباً أَبُو طَالِبٍ، وَهُوَ مُنْتَعِلٌ بِنَعْلَينِ يَـغْلِي مِنْـهُـمَا دِمَاغُهُ». أخرجه مسلم
2. จากท่านอิบนุ อับบาส เราะฏิยัลลอฮุอันฮุมา กล่าวว่า แท้จริงท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า “ชาวนรกที่ถูกลงโทษเบาที่สุดคืออบูฏอลิบ โดยที่เขาสวมรองเท้าสองข้าง จากความร้อนของทั้งสองจะทำให้สมองเขาเดือด” (มุสลิม หมายเลข 212)
عن أبي سعيد الخدري رضي الله عنه أنه سمع النبي صلى الله عليه وسلم - وَذُكِرَ عنده عمه أبوطالب فقال -: «لَعَّلَـهُ تَنْفَعُهُ شَفَاعَتِي يَومَ القِيَامَةِ، فَيُـجْعَلُ فِي ضَحْضاحٍ مِنَ النَّارِ يَبْلُغُ كَعْبَيْـهِ يَـغْلِي مِنْـهُ أُمُّ دِمَاغِهِ». متفق عليه
3. จากท่านอบูสะอีด อัลคุดรียฺ เราะฏิยัลลอฮุอันฮฺ กล่าวว่า แท้จริงท่านได้ยินท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ถูกกล่าวถึงลุงของท่าน คือ อะบูฏอลิบ ท่านกล่าวว่า หวังว่าเขาจะได้รับการขอคำอุทรณ์จากฉันในวันกิยามะฮฺ ดังนั้นเขาจะถูกให้อยู่ในที่ตื้นของนรก แค่ถึงตาตุ่มทั้งสองของเขาแต่ความร้อนของมันเดือดถึงสมอง” (อัลบุคอรี หะดีษเลขที่ 6564, มุสลิม หะดีษเลขที่ 210)
คำกล่าวแก่ชาวนรกที่ถูกลงโทษเบาที่สุด
1. อัลลอฮฺตะอาลาตรัสว่า
ﭧ ﭨ ﭽ ﯞ ﯟ ﯠ ﯡ ﯢ ﯣ ﯤ ﯥ ﯦ ﯧ ﯨ ﯩ ﯪ ﯫ ﯬ ﯭ ﯮ ﯯ ﯰ ﯱ ﯲﯳ ﯴ ﯵ ﯶ ﯷ ﭼ المائدة: ٣٦
ความว่า “เเท้จริงบรรดาผู้ปฏิเสธการศรัทธานั้น หากปรากฏว่าพวกเขามีสิ่งที่อยู่ในแผ่นดินทั้งหมด เเละมีเท่ามันอีกมารวมกัน เพื่อจะใช้มันไถ่ตัวให้พ้นจากการลงโทษในวันกิยามะฮฺเเล้ว แน่นอนมันก็จะไม่ถูกตอบรับจากพวกเขาเเละสำหรับพวกเขานั้นจะได้รับการลงโทษอย่างเจ็บเเสบ” (อัลมาอิดะฮฺ 5: 36)
عن أنس بن مالك رضي الله عنه عن النبي الله صلى الله عليه وسلم قال : «يَـقُولُ اللهُ تَعَالَى لأَهْوَنِ أَهْلِ النَّارِ عَذَاباً يَومَ القِيَامَةِ: لَوْ أَنَّ لَكَ مَا فِي الأَرْضِ مِنْ شَيْءٍ أَكُنْتَ تَفْتَدِي بِـهِ؟ فَيَـقُولُ: نَعَمْ، فَيَـقُولُ: أَرَدْتُ مِنْكَ أَهْوَنَ مِنْ هَذَا وَأَنْتَ فِي صُلْبِ آدَمَ: أَنْ لا تُشْرِكَ بِي شَيْئاً، فَأَبَيْتَ إلا أَنْ تُشْرِكَ بِيْ». متفق عليه
จากท่านอนัส บิน มาลิก เราะฏิยัลลอฮุอันฮฺ จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “อัลลอฮุตะอะลา ตรัสแก่ชาวนรกที่ถูกลงโทษอย่างเบาสุดในวันกิยามะฮฺว่า หากว่าเจ้ามีสิ่งใดในแผ่นดิน เจ้าจะเอามันมาไถ่ตัวหรือไม่? เขาตอบว่า ไถ่ครับ อัลลอฮฺตรัสว่า ฉันต้องการจากเจ้าในสิ่งที่เบากว่านั้นอีกในขณะที่เจ้ายังอยู่ในกระดูกสันหลังของอาดัม นั่นคือเจ้าอย่าได้ตั้งภาคีอันใดต่อฉัน แต่เจ้ากลับปฏิเสธนอกจากเจ้าได้ตั้งภาคีต่อฉัน” (อัลบุคอรี หะดีษเลขที่ 6557, มุสลิม หะดีษเลขที่ 2805)
โซ่ตรวนและกุญแจมือของนรกญะฮันนัม
1. อัลลอฮฺตะอาลาตรัสว่า
ﭧ ﭨ ﭽ ﯻ ﯼ ﯽ ﯾ ﯿ ﰀ ﰁ ﭼ الإنسان: ٤
ความว่า “เเท้จริงเราได้เตรียมโซ่ตรวนเเละกุญเเจมือ เเละไฟที่ลุกโชติช่วงไว้สำหรับบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา” (อัลอินซาน 76: 4)
2. อัลลอฮฺตะอาลาตรัสว่า
ﭧ ﭨ ﭽ ﮋ ﮌ ﮍ ﮎ ﮏ ﮐ ﮑﮒ ﮓ ﮔ ﮕ ﮖ ﮗ ﮘ ﮙ ﮚ ﮛ ﮜ ﮝ ﮞ ﮟ ﮠ ﮡ ﮢ ﮣ ﭼ غافر: ٧٠ - ٧٢
ความว่า “บรรดาผู้ปฏิเสธต่อคัมภีร์เเละต่อสิ่งที่เราได้ส่งมาพร้อมกับบรรดารสูลของเรา เเล้วพวกเขาก็จะได้รู้ เมื่อห่วงคล้องคออยู่บนต้นคอของพวกเขาเเละโซ่ตรวนถูกลากไป ในน้ำเดือดพล่านเเล้วในไฟนรกพวกเขาจะถูกเผาไหม้” (ฆอฟิร 40: 70 - 72)
3. อัลลอฮฺตะอาลาตรัสว่า
ﭧ ﭨﭽ ﮜ ﮝ ﮞ ﮟ ﮠ ﮡ ﮢ ﮣ ﮤ ﮥ ﮦ ﭼ المزمل: ١٢ - ١٣
ความว่า “เเท้จริง ณ ที่เรานั้นมีตรวนเเละกองไฟลุกโชน เเละอาหารที่ติดลำคอเเละการลงโทษอันเจ็บปวด” (อัลมุซซัมมิล 73: 12 - 13)
4. อัลลอฮฺตะอาลาตรัสว่า
ﭧ ﭨ ﭽ ﯼ ﯽ ﯾ ﯿ ﰀ ﰁ ﰂ ﰃ ﰄ ﰅ ﰆ ﰇ ﰈ ﰉ ﰊ ﰋ ﰌ ﰍ ﰎ ﰏ ﰐ ﰑ ﰒ ﰓ ﰔ ﰕ ﰖ ﰗ ﭼ الحاقة: ٣٠ - ٣٤
ความว่า “(จะมีคำบัญชาเเก่มลาอิกะฮฺว่า) จงนำเขาไปเเล้วจำตรวนเสีย เเล้วโยนเขาเข้ากองไฟนรก เเล้วลามโซ่เขา ซึ่งความยาวของมันเจ็ดสิบศอก เเท้จริงเขามิได้ศรัทธาต่ออัลลอฮผู้ยิ่งใหญ่ เเละเขามิได้ส่งเสริมให้อาหารเเก่คนขัดสน” (อัลหากเกาะอฺ 69: 30 - 34)
ลักษณะอาหารของชาวนรก
1. อัลลอฮฺตะอาลาตรัสว่า
ﭧ ﭨﭽ ﭬ ﭭ ﭮ ﭯ ﭰ ﭱ ﭲ ﭳ ﭴ ﭵ ﭶ ﭷ ﭸ ﭹ ﭺ ﭼ الدخان: ٤٣ - ٤٦
ความว่า “เเท้จริงต้นซักกูม จะเป็นอาหารของผู้ทำบาปมาก เป็นเช่นทองเเดงที่ถูกหลอมเดือด มันจะต้มเดือดอยู่ในท้อง เช่นการเดือดพล่านของน้ำร้อน” (อัดดุคอน 44: 43 - 46)
2. อัลลอฮฺตรัสว่า
ﭧ ﭨ ﭽ ﮌ ﮍ ﮎ ﮏ ﮐ ﮑ ﮒ ﮓ ﮔ ﮕ ﮖ ﮗ ﮘ ﮙ ﮚ ﮛ ﮜ ﮝ ﮞ ﮟ ﮠ ﮡ ﮢ ﮣ ﮤ ﮥ ﮦ ﮧ ﮨ ﮩ ﮪ ﮫ ﮬ ﮭ ﮮ ﮯ ﮰ ﮱ ﯓ ﯔ ﯕ ﯖ ﯗ ﯘ ﯙ ﭼ الصافات: ٦٢ - ٦٨
ความว่า “นั่นเป็นการต้อนรับที่ดีกว่าหรือว่าต้นซักกูม เเท้จริงเราได้จัดทำไว้เป็นการทดสอบเเก่บรรดาผู้อธรรม เเท้จริงมันเป็นต้นไม้ที่เอาออกมาจากก้นบึ้งของนรกที่มีไฟลุกโชติช่วง ผลของมันคล้ายกับหัวของชัยฎอน เเล้วพวกเขาจะกินมันเเละพวกเขาจะเติมมันให้เต็มท้อง เเล้วนอกจากนั้นพวกเขาจะได้น้ำดื่มที่ผสมจากน้ำเดือด เเล้วเเท้จริงทางกลับของพวกเขานั้นย่อมไปสู่ไฟนรกที่ลุกโชติช่วงอย่างเเน่นอน” (อัศศอฟฟาต 37: 62 - 68)
3. อัลลอฮฺตะอาลาตรัสว่า
ﭧ ﭨ ﭽ ﭹ ﭺ ﭻ ﭼ ﭽ ﭾ ﭿ ﮀ ﮁ ﮂ ﮃ ﮄ ﮅ ﮆ ﭼ الغاشية: ٦ - ٧
ความว่า “ไม่มีอาหารอื่นนอกจากต้นหนามเเห้ง มันจะไม่ทำให้อ้วนเเละไม่ทำให้หายหิว” (อัลฆอชิยะฮฺ 88: 6 -7)
4. อัลลอฮฺตะอาลาตรัสว่า
ﭧ ﭨ ﭽ ﭑ ﭒ ﭓ ﭔ ﭕ ﭖ ﭗ ﭘ ﭙ ﭚ ﭛ ﭜ ﭝ ﭞ ﭟ ﭠ ﭡ ﭼ الحاقة: ٣٥ - ٣٧
ความว่า “ดังนั้น วันนี้เขาจะไม่มีมิตรสนิท ณ ที่ตรงนี้ เเละไม่มีอาหารอย่างใดนอกจากน้ำหนองที่ไหลออกมาจากแผลของชาวนรก ไม่มีผู้ใดกินมันนอกจากบรรดาผู้กระทำความผิด” (อัลหากเกาะฮฺ 69: 35 – 37)
ลักษณะเครื่องดื่มของชาวนรก
1. อัลลอฮฺตะอาลาตรัสว่า
ﭧ ﭨﭽ ﮣ ﮤ ﮥ ﮦ ﮧ ﮨ ﮩ ﮪ ﮫ ﮬ ﮭ ﮮ ﮯ ﮰ ﮱ ﯓ ﯔ ﯕ ﯖ ﯗ ﯘ ﯙ ﯚ ﯛ ﯜ ﯝﯞ ﯟ ﯠ ﯡ ﯢ ﯣ ﭼ إبراهيم: ١٥ -١٧
ความว่า “เเละพวกเขา (บรรดารสูล) ขอต่อพระองค์ให้ได้รับชัยชนะ เเละให้ผู้หยิ่งผยองที่ดื้อด้านทุกคนประสบความพินาศ จากเบื้องหลังของเขาคือนรกญะฮันนัม เเละจะได้ดื่มน้ำจากน้ำหนอง เขาจิบมันเเต่ไม่อาจจะกลืนมันได้ เเละความตายมาหาเขาจากทุกทิศทางโดยที่เขาก็ไม่ตาย เเละเบื้องหลังของเขาคือการลงโทษที่รุนเเรง” (อิบรอฮีม 14: 15 - 17)
2. อัลลอฮฺตะอาลาตรัสว่า
ﭧ ﭨﭽ ﮆ ﮇ ﮈ ﮉ ﮊﮋ ﮌ ﮍ ﮎ ﮏ ﮐ ﮑ ﮒ ﮓ ﮔ ﮕ ﮖ ﮗ ﮘ ﮙ ﮚ ﮛ ﮜ ﮝ ﮞ ﮟ ﮠﮡ ﮢ ﮣ ﮤ ﮥ ﮦ ﮧ ﮨ ﮩﮪ ﮫ ﮬ ﮭ ﮮ ﮯ ﮰ ﮱ ﯓ ﯔ ﯕ ﯖ ﭼ محمد: ١٥
ความว่า “อุปมาของสวนสวรรค์ซึ่งบรรดาผู้ยำเกรงได้ถูกสัญญาไว้ ในสวนสวรรค์นั้นมีธารน้ำหลายสายที่ไม่ผันแปร (ทั้งรสเเละกลิ่น) เเละธารน้ำนมหลายสายที่รสชาติของมันไม่เปลี่ยนเเปลงเเละธารน้ำจัณฑ์ (เหล้า) หลายสายเป็นที่โอชะอร่อยเเก่ผู้ดื่ม เเละธารน้ำผึ้งที่สะอาดบริสุทธิ์หลายสาย เเละสำหรับพวกเขาในสวนสวรรค์นั้นมีผลไม้หลายชนิด เเละการอภัยโทษจากพระเจ้าของเขา จะเหมือนกับผู้ที่พำนักอยู๋ในไฟนรกเเละถูกให้ดื่มน้ำร้อนจัดเเล้วมันตัดลำไส้ของพวกเขากระนั้นหรือ” (มุหัมมัด 47: 15)
3. อัลลอฮฺตะอาลาตรัสว่า
ﭧ ﭨ ﭽ ﭲ ﭳ ﭴ ﭵﭶ ﭷ ﭸ ﭹ ﭺ ﭻ ﭼﭽ ﭾ ﭿ ﮀ ﮁ ﮂ ﮃ ﮄﮅ ﮆ ﮇ ﮈ ﮉ ﮊ ﮋ ﮌﮍ ﮎ ﮏ ﮐ ﮑ ﮒ ﭼ الكهف: ٢٩
ความว่า “เเละจงกล่าวเถิด (มุหัมมัด) สัจธรรมนั้นมาจากพระเป็นเจ้าของพวกเจ้า ดังนั้นผู้ใดประสงค์ก็จงศรัทธาเเละผู้ใดประสงค์ก็จงปฏิเสธ เเท้จริงเราได้เตรียมไฟนรกไว้สำหรับพวกอธรรม ซึ่งกำเเพงของมันล้อมกรอบพวกเขา เเละถ้าพวกเขาร้องขอความช่วยเหลือ ก็จะถูกช่วยเหลือด้วยน้ำเสมือนน้ำทองเเดงเดือดลวกใบหน้า มันเป็นน้ำดื่มที่ชั่วช้าเเละเป็นที่พำนักที่เลวร้าย” (อัลกะฮฺฟี 18: 29)
4. อัลลอฮฺตะอาลาตรัสว่า
ﭧ ﭨﭽ ﯘﯙ ﯚ ﯛ ﯜ ﯝ ﯞ ﯟ ﯠ ﯡ ﯢ ﯣ ﯤ ﯥ ﯦ ﯧ ﯨ ﯩ ﯪ ﯫ ﯬ ﯭ ﭼ ص: ٥٥ - ٥٨
ความว่า “ดังนั้น เเละเเท้จริงสำหรับบรรดาผู้ละเมิดนั้น เเน่นอนทางกลับ (ของพวกเขา) ย่อมเลวร้ายจริงๆ คือนรกญะฮันนัมพวกเขาจะถูกนำเข้าไปเผาไหม้ในนั้น ดังนั้นเป็นที่พำนักที่ชั่วช้ายิ่ง นี่ (คือการลงโทษอันเจ็บเเสบ) ดังนั้นพวกเจ้าจงลิ้มรสมัน (คือ) น้ำเดือดพล่านเเละน้ำเลือดน้ำหนอง (ของชาวนรก) เเละ (การลงโทษ) ชนิดอื่นอีกเยี่ยงการลงโทษดังกล่าวที่เท่าเทียมคู่ควรกัน” (ศอด 38 : 55 - 58)
ลักษณะอาภรณ์ของชาวนรก
1. อัลลอฮฺตะอาลาตรัสว่า
ﭧ ﭨ ﭽ ﮞ ﮟ ﮠ ﮡ ﮢﮣ ﮤ ﮥ ﮦ ﮧ ﮨ ﮩ ﮪ ﮫ ﮬ ﮭ ﮮ ﮯ ﮰ ﭼ الحج: ١٩
ความว่า “ผู้โต้เถียงทั้งสองฝ่ายนี้ต่างก็โต้เถียงกันเกี่ยวกับพระเจ้าของพวกเขา สำหรับบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธานั้นมีอาภรณ์ที่ทำจากไฟ ถูกตัดไว้สำหรับพวกเขา น้ำร้อนเดือดจะถูกเทราดลงบนศรีษะของพวกเขา” (อัลหัจญ์ 22: 19)
2. อัลลอฮฺตะอาลาตรัสว่า
ﭧ ﭨ ﭽ ﮭ ﮮ ﮯ ﮰ ﮱ ﯓ ﯔ ﯕ ﯖ ﯗ ﯘ ﯙ ﯚ ﯛ ﭼ إبراهيم: ٤٩ - ٥٠
ความว่า “เเละวันนั้นเจ้าจะเห็นบรรดาอาชญากรถูกล่ามตรึงไว้ด้วยโซ่ เครื่องนุ่งห่มของพวกเขาทำด้วยวัสดุไหม้ไฟเเละไฟลุกคลุมใบหน้าของพวกเขา” (อิบรอฮีม 14: 49 - 50)
ที่นอนของชาวนรก
อัลลอฮฺตรัสว่า
ﭧ ﭨ ﭽ ﮥ ﮦ ﮧ ﮨ ﮩ ﮪ ﮫﮬ ﮭ ﮮ ﮯ ﮰ ﭼ الأعراف: ٤١
ความว่า “สำหรับพวกเขานั้น คือที่นอนจากนรกญะฮันนัม และจากเบื้องบนของพวกเขานั้นมีสิ่งคลุมคลอบอยู่และลักษณะนี่แหละเราจะตอบแทนการลงโทษแก่บรรดาผู้ที่อธรรม” (อัลอะอฺรอฟ 7 : 41)
ความเศร้าโศกเสียใจของชาวนรก
1. อัลลอฮฺตะอาลาตรัสว่า
ﭧ ﭨ ﭽ ﯚ ﯛ ﯜ ﯝ ﯞ ﯟﯠ ﯡ ﯢ ﯣ ﯤ ﯥ ﯦ ﭼ البقرة: ١٦٧
ความว่า “ในทำนองเดียวกันอัลลอฮฺจะทรงให้พวกเขาเห็นการงานต่างๆของพวกเขา มันเป็นที่น่าเสียใจเเก่พวกเขา เเละพวกเขาจะไม่ได้ออกมาจากไฟนรกด้วย” (อัลบะเกาะเราะฮฺ 2: 167)
عن أبي هريرة رضي الله عنه قال: قال النبي الله صلى الله عليه وسلم : «لا يَدْخُلُ أَحَدٌ الجَنَّةَ إلَّا أُرِيَ مَقْعَدَهُ مِنَ النَّارِ لَوْ أَسَاءَ، لِيَزْدَادَ شُكْراً، وَلا يَدْخُلُ النَّارَ أَحَدٌ إلا أُرِيَ مَقْعَدَهُ مِنَ الجَنَّةِ لَو أَحْسَنَ، لِيَكُونَ عَلَيهِ حَسْرَةً». أخرجه البخاري
2. จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฏิยัลลอฮุอันฮฺ กล่าวว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า ”คนหนึ่งคนใดจะยังไม่ได้เข้าสวนสวรรค์ จนกว่าเขาถูกทำให้เห็นที่พำนักของเขาในนรก หากว่าเขาได้กระทำความชั่ว เพื่อให้เขาได้ขอบคุณมากยิ่งขึ้น และคนหนึ่งคนใดจะยังไม่ได้เข้านรก จนกว่าเขาถูกทำให้เห็นที่พำนักของเขาในสวรรค์ หากว่าเขาได้กระทำความดี เพื่อว่าเขาจะเกิดความเสียดาย” (อัลบุคอรี หะดีษเลขที่ 6569)
عَنْ أنَسٍ رضي الله عنه أن النبي الله صلى الله عليه وسلم قال : «إنَّ اللهَ يَـقُولُ لأهْوَنِ أهْلِ النَّارِ عَذَابًا: لَوْ أنَّ لَكَ مَا فِي الأرْضِ مِنْ شَيْءٍ كُنْتَ تَفْتَدِي بِـهِ؟ قال : نَعَمْ، قال: فَقَدْ سَألْتُكَ مَا هُوَ أهْوَنُ مِنْ هَذَا وَأنْتَ فِي صُلْبِ آدَمَ: أنْ لا تُشْرِكَ بِي، فَأبَيْتَ إلَّا الشِّرْكَ». متفق عليه
3. จากท่านอะนัส เราะฏิยัลลอฮุอันฮุ แท้จริงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “อัลลอฮุ ตะอะลา ตรัสแก่ชาวนรกที่ถูกลงโทษอย่างเบาสุดว่า หากว่าเจ้ามีสิ่งใดในแผ่นดิน เจ้าจะเอามันมาไถ่ตัวหรือไม่? เขาตอบว่า ไถ่ครับ อัลลอฮฺตรัสว่า ฉันได้ขอต่อเจ้าในสิ่งที่เบากว่านั้นอีกในขณะที่เจ้ายังอยู่ในกระดูกสันหลังของอาดัม นั่นคือเจ้าอย่าได้ตั้งภาคีอันใดต่อฉัน แต่เจ้ากลับปฏิเสธนอกจากเจ้าได้ตั้งภาคีต่อฉัน” (อัลบุคอรี หะดีษเลขที่ 3334, มุสลิม หะดีษเลขที่ 2805)
คำพูดของชาวนรก
1. อัลลอฮฺตรัสว่า
ﭧ ﭨ ﭽ ﭑ ﭒ ﭓ ﭔ ﭕ ﭖ ﭗ ﭘ ﭙ ﭚ ﭛ ﭜ ﭝﭞ ﭟ ﭠ ﭡ ﭢ ﭣﭤ ﭥ ﭦ ﭧ ﭨ ﭩ ﭪ ﭫ ﭬ ﭭ ﭮ ﭯ ﭰ ﭱ ﭲ ﭳ ﭴﭵ ﭶ ﭷ ﭸ ﭹ ﭺ ﭻ ﭼ ﭽ ﭾ ﭿ ﮀ ﮁ ﮂ ﮃ ﮄ ﮅ ﮆ ﮇ ﮈ ﮉ ﮊ ﮋﭼ الأعراف: ٣٨ – ٣٩
ความว่า “พระองค์ตรัสว่า พวกเจ้าจงเข้าไปในหมู่ประชาชาติที่ได้ล่วงลับมาก่อนพวกเจ้าทั้งที่เป็นญิน (ซึ่งถูกบังเกิดมาจากไฟ ) เเละมนุษย์ซึ่งอยู่ในไฟนรกนั้นเถิด ทุกครั้งที่มีกลุ่มชนหนึ่งเข้าไปพวกเขาก็สาปเเช่งพี่น้องของพวกเขา จนกระทั่งเมื่อพวกเขาได้ไปทันกันในไฟนรกนั้นทั้งหมดเเล้ว กลุ่มหลังสุดของพวกเขาก็กล่าวเเก่กลุ่มเเรกของพวกเขาว่า โอ้พระผู้อภิบาลของพวกเราชนเหล่านี้เเหละได้ทำให้พวกเราหลงผิด ดังนั้นโปรดได้ลงโทษเเก่พวกเขาเป็นสองเท่าจากไฟนรกด้วยเถิด พระองค์ตรัสว่า เเต่ละกลุ่มนั้นจะได้รับสองเท่าเเต่ทว่าพวกเจ้านั้นไม่รู้ เเละกลุ่มเเรกของพวกเขา ได้กล่าวเเก่กลุ่มหลังว่า พวกท่านไม่มีความประเสริฐอันใดเหนือพวกเรา ดังนั้นพวกท่านจงลิ้มรสของการลงโทษเนื่องจากสิ่งที่พวกเจ้าเเสวงหากันไว้เถิด” (อัลอะอฺรอฟ 7 : 38 - 39)
2. อัลลอฮฺตะอาลาตรัสว่า
ﭧ ﭨﭽ ﭧ ﭨ ﭩ ﭪ ﭫ ﭬ ﭭ ﭮ ﭯ ﭰ ﭱ ﭲﭳ ﭴ ﭵ ﭶ ﭷ ﭸ ﭹ ﭺ ﭻ ﭼ ﭽ ﭾ ﭿ ﮀ ﮁ ﮂ ﮃ ﭼ العنكبوت: ٢٥
ความว่า “เเละเขา ( อิบรอฮีม ) กล่าวว่า เเท้จริงพวกท่านได้ยึดเอารูปปั้นต่างๆ นอกเหนือจากอัลลอฮเพื่อให้เป็นที่รักใคร่ระหว่างพวกท่านในชีวิตเเห่งโลกนี้ เเล้วในวันกิยามะฮฺบางคนในกลุ่มพวกท่านก็จะปฏิเสธอีกบางคน เเละบางคนในกลุ่มพวกท่านก็จะสาปเเช่งอีกบางคน เเละที่พำนักของพวกเขาคือไฟนรก เเละสำหรับพวกท่านจะไม่มีผู้ช่วยเหลือใดเลย” ( อัลอังกะบูต 29 : 25 )
3. อัลลอฮฺตรัสว่า
ﭧ ﭨ ﭽ ﭥ ﭦ ﭧ ﭨ ﭩ ﭪ ﭫ ﭬ ﭭ ﭼ الفرقان: ١٤
ความว่า “ในวันนี้เจ้าอย่าวิงวอนขอความพินาศเพียงครั้งเดียว เเต่จงวิงวอนขอความพินาศหลายๆ ครั้ง” (อัลฟุรกอน 25: 14)