×
จากหนังสือมุคตะศ็อร อัลฟิกฮิล อิสลามีย์ อธิบายรุก่น หรือองค์ประกอบต่างๆ ของการละหมาด และอธิบายหุก่มผู้ที่ละเลยรุก่นหนึ่งรุก่นใดของการละหมาด และหุก่มการอ่านฟาติหะฮฺในละหมาด

    รุก่นต่างๆ ของการละหมาด

    ﴿أركان الصلاة﴾

    ] ไทย – Thai – تايلاندي [

    มุหัมมัด บิน อิบรอฮีม อัตตุวัยญิรีย์

    แปลโดย : ดานียา เจะสนิ

    ผู้ตรวจทาน : ซุฟอัม อุษมาน

    ที่มา : หนังสือมุคตะศ็อร อัลฟิกฮิล อิสลามีย์

    2010 - 1431

    ﴿أركان الصلاة﴾

    « باللغة التايلاندية »

    الشيخ محمد بن إبراهيم التويجري

    ترجمة: دانيال جيء سنيك

    مراجعة: صافي عثمان

    المصدر: كتاب مختصر الفقه الإسلامي

    2010 - 1431

    ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ

    8. รุก่นต่างๆ ของการละหมาด

    รุก่น หรือ องค์ประกอบต่างๆ ของการละหมาดนั้นหมายถึงสิ่งที่ต่างๆซึ่งต้องมีในการละหมาดและการละหมาดจะใช้ไม่ได้หากปราศจากสิ่งเหล่านี้ มีทั้งหมด 14 ประการคือ

    1. ยืนตรง หากมีความสามารถ

    2. ตักบีเราะตุลอิหรอม

    3. อ่านฟาติหะฮฺในทุกร็อกอะฮฺ นอกจากในละหมาดที่อิมามอ่านเสียงดัง

    4. รุกูอฺ

    5. เงยศีรษะจากรุกูอฺมายืนตรง(อิอฺติดาล)

    6. สุญูดบนอวัยวะทั้งเจ็ด

    7. นั่งระหว่างสองสุญูด

    8. สุญูดครั้งที่สอง

    9. นั่งอ่านตะชะฮฺฮุดครั้งสุดท้าย

    10. อ่านตะชะฮฺฮุดครั้งสุดท้าย

    11. อ่านเศาะละวาตต่อท่านนบีและบรรดาวงศ์วานของท่าน

    12. ฏุมะอ์นีนะฮฺ หรือการหยุดนิ่งครู่หนึ่งก่อนที่จะเปลี่ยนอิริยาบทในการปฏิบัติละหมาด แต่ละขั้นตอน

    13. เรียงลำดับในการปฏิบัติตามขั้นตอนขององค์ประกอบของการละหมาด

    14. กล่าวสลาม

    หุก่มผู้ที่ละเลยรุก่นหนึ่งรุก่นใดของการละหมาด

    1. หากผู้ละหมาดคนใดละเลยจากองค์ประกอบหนึ่งองค์ประกอบใดในการละหมาดโดยเจตนาถือว่าการละหมาดของเขาเป็นโมฆะ ส่วนการละเลยจากการตักบีเราะตุลอิหฺรอม ไม่ว่าจะเป็นเพราะความไม่รู้ หรือหลงลืม จะถือว่าการละหมาดนั้นใช้ไม่ได้ตั้งแต่แรก

    2. องค์ประกอบที่ผู้ละหมาดละเลยไป เนื่องจากหลงลืมหรือความไม่รู้ เขาต้องย้อนกลับไปทำใหม่ และเริ่มลำดับใหม่ตามลำดับตราบใดที่ยังไม่ถึงร็อกอะฮฺที่สอง หากถึงร็อกอะฮฺที่สองแล้วให้ถือว่าร็อกอะฮฺที่สองนี้ทดแทนสิ่งที่ละเลยไป และร็อกอะฮฺแรกถือว่าเป็นโมฆะ เช่น ผู้ที่ละเลยรุกูอฺ แล้วสุญูด เขาต้องย้อนกลับไปรุกูอฺเมื่อใดที่เขานึกขึ้นได้ นอกจากว่าเขานึกได้เมื่อรุกูอฺในร็อกอะฮฺที่สองแล้ว ให้ถือว่าร็อกอะฮฺที่สองนี้ทดแทนสิ่งที่ละเลยไป และเขาต้องสุญูดสะฮฺวีหลังจากให้สลามแล้ว

    สำหรับคนที่ไม่รู้ หากละเลยจากองค์ประกอบหนึ่งองค์ประกอบใดหรือเงื่อนไขหนึ่งเงื่อนไขใดในการละหมาด เมื่อเขารู้ขึ้นมาในขณะที่เวลาของละหมาดนั้นๆ ยังมีอยู่เขาต้องละหมาดใหม่ แต่หากเวลาละหมาดหมดไปแล้วก็ไม่ต้องละหมาดใหม่

    หุก่มการอ่านสูเราะฮฺฟาติหะฮฺในละหมาด

    การอ่านฟาติหะฮฺสำหรับอิมามหรือผู้ที่ละหมาดคนเดียวเป็นรุก่นในทุกๆ ร็อกอะฮฺ ซึ่งร็อกอะฮฺหนึ่งร็อกอะฮฺใดที่ปราศจากการอ่านฟาติหะฮฺถือว่าร็อกอะฮฺนั้นเป็นโมฆะ ส่วนมะอ์มูมนั้นให้อ่านฟาติหะฮฺด้วยเสียงค่อยในทุกๆ ร็อกอะฮฺเช่นกัน ยกเว้นในร็อกอะฮฺของการละหมาดบางเวลาที่อิมามอ่านเสียงดังมะอ์มูมจำเป็นต้องนิ่งฟังการอ่านของอิมามในขณะที่อิมามอ่าน และอิมามไม่ควรเว้นช่วงเพื่อเปิดโอกาสให้มะอ์มูมอ่านฟาติหะฮฺเพราะไม่ปรากฎหลักฐานให้ทำเช่นนั้น