×
จากหนังสือมุคตะศ็อรฺ อัลฟิกฮิล อิสลามีย์ ประกอบด้วยเนื้อหาต่างๆ อาทิ บทลงโทษของการใส่ร้ายว่าผิดประเวณี วิทยปัญญาในการกำหนดโทษการใส่ร้าย บทบัญญัติว่าด้วยการใส่ร้าย โทษของการใส่ร้าย สำนวนการใส่ร้าย เงื่อนไขที่จำเป็นต้องลงโทษกรณีการใส่ร้าย การยืนยันต่อโทษของการใส่ร้าย โทษการใส่ร้ายจะตกไป สิ่งที่ตามมาจากการลงโทษการใส่ร้าย ลักษณะการเตาบะฮฺ (การสารภาพผิด) ของผู้ใส่ร้าย

    บทลงโทษของการใส่ร้ายว่าผิดประเวณี

    ﴿حد القذف﴾

    ] ไทย – Thai – تايلاندي [

    มุหัมมัด บิน อิบรอฮีม อัตตุวัยญิรีย์

    แปลโดย : ยูซุฟ อบูบักรฺ

    ผู้ตรวจทาน : อัสรัน นิยมเดชา

    ที่มา : หนังสือมุคตะศ็อร อัลฟิกฮิล อิสลามีย์

    2010 - 1431

    ﴿حد القذف﴾

    « باللغة التايلاندية »

    الشيخ محمد بن إبراهيم التويجري

    ترجمة: يوسف أبو بكر

    مراجعة: عصران إبراهيم

    المصدر: كتاب مختصر الفقه الإسلامي

    2010 - 1431

    ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ

    บทลงโทษของการใส่ร้ายว่าผิดประเวณี

    อัลเกาะซัฟ คือ การกล่าวหาผู้อื่นว่าทำผิดประเวณี (ซินา) หรือร่วมประเวณีทางทวารหนัก (ลิวาฏ) หรือไม่ยอมรับเด็กในครรภ์ เป็นเหตุให้ต้องลงโทษ

    วิทยปัญญาในการกำหนดโทษการใส่ร้าย

    อิสลามส่งเสริมให้มีการรักษาชื่อเสียงเกียรติยศและสั่งใช้ให้ยับยั้งจากชื่อเสียงของบรรดาผู้บริสุทธิ์ทั้งหลาย และห้ามละเมิดศักดิ์ศรีของผู้อื่นโดยไม่ชอบธรรม เพื่อเป็นการรักษาไว้ซึ่งชื่อเสียงและปกป้องจากความมัวหมอง และมีบางคนกล้าที่จะกล่าวหาใส่ร้ายและทำให้ชื่อเสียงผู้อื่นเสื่อมเสีย ด้วยเจตนาที่แตกต่างกัน และเนื่องจากเจตนาเป็นสิ่งที่เร้นลับดังนั้นผู้ที่ใส่ร้ายจะต้องนำพยานมายืนยันจำนวน 4 คน หากว่าเขาไม่ทำเช่นนั้นผู้ที่ใส่ร้ายก็จะได้รับการลงโทษโดยการโบยตี 80 ครั้ง

    บทบัญญัติว่าด้วยการใส่ร้าย

    การใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่นว่าทำผิดประเวณีเป็นสิ่งต้องห้ามและเป็นบาปใหญ่ อัลลอฮฺได้กำหนดให้ผู้ที่ใส่ร้ายมีโทษสถานหนักทั้งโลกดุนยาและอาคิเราะฮฺ

    1. อัลลอฮฺตะอะลาตรัสว่า

    (ﮌ ﮍ ﮎ ﮏ ﮐ ﮑ ﮒ ﮓ ﮔ ﮕ ﮖ ﮗ ﮘ ﮙ ﮚ ﮛ ﮜ ﮝ ﮞ ﮟ ﮠ) [النور/4]

    ความหมาย “และบรรดาผู้ที่ใส่ร้ายต่อบรรดาหญิงบริสุทธิ์แล้วพวกเขาไม่ได้นำพยานสี่คนมา พวกเจ้าจงโบยพวกเขาจำนวนแปดสิบครั้ง และพวกเจ้าอย่ารับการเป็นพยานของพวกเขาเป็นอันขาด ชนเหล่านั้นพวกเขาเป็นผู้ฝ่าฝืน" (อันนูร / 4)

    2. อัลลอฮฺตะอะลาตรัสว่า

    (ﮖ ﮗ ﮘ ﮙ ﮚ ﮛ ﮜ ﮝ ﮞ ﮟ ﮠ ﮡ ﮢ ﮣ) [النور/23]

    ความหมาย “แท้จริงบรรดาผู้ที่ใส่ร้ายต่อบรรดาหญิงบริสุทธิ์ หญิงที่ไม่รู้เรื่องอันใด หญิงผู้ศรัทธา พวกเขาจะถูกสาปแช่งทั้งในโลกดุนยาและอาคิเราะฮฺ และสำหรับพวกเขาจะได้รับการลงโทษอย่างมหันต์" (อันนูร / 23)

    عن أبي هريرة رضي الله عنه أن رسول الله ﷺ قال: «اجْتَنِبُوا السَّبْعَ المُوْبِقَاتِ» قَالُوا: يَا رَسُولَ الله، وَمَا هُنَّ؟ قَالَ: «الشِّرْكُ بِالله، وَالسِّحْرُ، وَقَتْلُ النَّفْسِ الَّتِي حَرَّمَ الله إلا بِالحَقِّ، وَأَكْلُ الرِّبَا، وَأَكْلُ مَالِ اليَتِيمِ، وَالتَّوَلِّي يَومَ الزَّحْفِ، وَقَذْفُ المُـحْصَنَاتِ المُؤْمِنَاتِ الغَافِلاتِ». متفق عليه

    3. ความหมาย จากอบีฮุรอยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺอันฮุ แท้จริงท่านรอสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “พวกท่านทั้งหลายจงหลีกห่างจากสิ่งที่ทำให้พินาศ 7 ประการ พวกเขากล่าวว่า สิ่งเหล่านั้นคืออะไรบ้าง? ท่านกล่าวว่า การตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ การทำไสยศาสตร์ การฆ่าชีวิตผู้อื่นที่อัลลอฮฺห้ามฆ่านอกจากด้วยสิทธิ์ที่ชอบธรรม การกินดอกเบี้ย การกินทรัพย์สินเด็กกำพร้า การหนีจากการประจัญบาน และการใส่ร้ายหญิงผู้ศรัทธาที่บริสุทธิ์ว่าผิดประเวณี" (บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ หมายเลขหะดีษ 2766 สำนวนหะดีษเป็นของท่าน และมุสลิม หมายเลขหะดีษ 89)

    โทษของการใส่ร้าย คือ การเฆี่ยนจำนวน 80 ครั้งสำหรับผู้เป็นไท และสำหรับผู้เป็นทาสจำนวน 40 ครั้ง

    สำนวนการใส่ร้าย

    1. การกล่าวใส่ร้ายอย่างชัดเจน เช่น การกล่าวว่าโอ้ผู้ที่ทำผิดประเวณี (ซินา) โอ้ผู้ที่รักร่วมเพศ โอ้ผู้ที่ทำชั่ว และอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน

    2. พูดเปรียบเทียบโดยมีนัยยะ การกล่าวอาจตีความได้ว่าเป็นการใส่ร้ายหรือเป็นอย่างอื่น เช่น กล่าวว่าโอ้ลามก โอ้คนทำผิด และอื่นๆ ดังนั้นหากเขากล่าวโดยเจตนาถึงว่าทำผิดประเวณีจะถูกลงโทษ และหากไม่ได้เจตนาถึงการผิดประเวณีจะไม่ถูกลงโทษแต่ถูกตักเตือน

    เงื่อนไขที่จำเป็นต้องลงโทษกรณีการใส่ร้าย

    การกล่าวใส่ร้ายมีเงื่อนไขจำเป็นต้องลงโทษดังต่อไปนี้

    1. ผู้กล่าวหาจะต้องเป็นผู้บรรลุศาสนภาวะ ไม่ถูกบังคับ ไม่ใช่เป็นบุตรของผู้ถูกกล่าวหา

    2. ผู้ถูกกล่าวหาจะต้องเป็นมุสลิม บรรลุศาสนภาวะ เป็นอิสรชน มีความบริสุทธิ์ ถูกกล่าวหาว่าผิดประเวณี

    3. ผู้ถูกกล่าวเรียกร้องให้มีการลงโทษ

    4. การกล่าวหาทำผิดประเวณีจำเป็นต้องลงโทษ หากการกล่าวหาไม่มีหลักฐานมายืนยัน

    การยืนยันต่อโทษของการใส่ร้าย

    จะมีการลงโทษเมื่อผู้กล่าวใส่ร้ายยอมรับสารภาพ หรือมีพยานผู้ชายที่มีความเที่ยงธรรม 2 คน มายืนยันถึงการใส่ร้ายของเขา

    โทษการใส่ร้ายจะตกไป

    โทษของการใส่ร้ายจะตกไปเมื่อผู้ถูกกล่าวหายอมรับ หรือมีพยานมายืนยันถึงการผิดประเวณี หรือการที่สามีกล่าวหาภรรยาและนางก็ไม่ได้กระทำ

    สิ่งที่ตามมาจากการลงโทษการใส่ร้าย

    เมื่อมีการยืนยันถึงโทษของการใส่ร้ายสิ่งที่ตามมาก็คือ การเฆี่ยนตี และผู้กล่าวหาจะไม่ถูกรับเป็นพยานเว้นแต่หลังจากเขาสารภาพผิด และคำชี้ขาดถือว่าเขากระทำความผิดจนกว่าเขาจะสารภาพผิด

    เมื่อใส่ร้ายผู้อื่นซึ่งเขามิได้ทำซีนาหรือลิวาฎในขณะที่เขากล่าวเท็จ แท้จริงแล้วเขาได้ทำสิ่งที่ต้องห้ามและการที่เขาใส่ร้ายจะไม่ถูกลงโทษ แต่เขาจะถูกอบรมตักเตือนตามที่อิมาม (ผู้นำ) เห็นว่าสมควร

    ตัวอย่างการใส่ร้ายที่ไม่ใช่การซีนา เช่น การกล่าวว่าเป็นกาฟิร มุนาฟิก เสพของมึนเมา ลักขโมย คดโกง และเรื่องอื่นๆ ในทำนองเดียวกันนี้

    ลักษณะการเตาบะฮฺ (การสารภาพผิด) ของผู้ใส่ร้าย

    การสารภาพผิดจะเกิดขึ้นโดยการขออภัยโทษจากอัลลอฮฺ โศกเศร้าเสียใจ มีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะไม่กลับไปปฏิบัติอีก และบอกกับตัวเองว่าสิ่งที่กล่าวหานั้นเป็นความเท็จ