หะดีษที่ 38 - ส่งเสริมให้เศาะดะเกาะฮฺในเช้าวันอีด
หมวดหมู่
Full Description
ส่งเสริมให้เศาะดะเกาะฮฺในเช้าวันอีด
﴿الحث على الصدقة يوم العيد﴾
] ไทย – Thai – تايلاندي [
อาหมัด อัลฟารีตีย์
แปลโดย : ฮาเรส เจ๊ะโด
ผู้ตรวจทาน : ซุฟอัม อุษมาน
ที่มา : หนังสือ 40 หะดีษเราะมะฎอน
2010 - 1431
﴿الحث على الصدقة يوم العيد﴾
« باللغة التايلاندية »
أحمد حسين الفاريتي
ترجمة: حارث جيء دو
مراجعة: صافي عثمان
المصدر: كتاب 40 حديث رمضان
2010 - 1431
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ
หะดีษบทที่ 38
ส่งเสริมให้เศาะดะเกาะฮฺในเช้าวันอีด
عَنْ جَابِرِ بْنِ عَبْدِ اللهِ رَضِيَ اللهُ عَنْهُ قَالَ شَهِدْتُ مَعَ رَسُولِ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ الصَّلَاةَ يَوْمَ الْعِيدِ، فَبَدَأَ بِالصَّلاَةِ قَبْلَ الْخُطْبَةِ بِغَيْرِ أَذَانٍ وَلاَ إِقَامَةٍ، ثُمَّ قَامَ مُتَوَكِّئًا عَلَى بِلاَلٍ فَأَمَرَ بِتَقْوَى اللهِ، وَحَثَّ عَلَى طَاعَتِهِ، وَوَعَظَ النَّاسَ وَذَكَّرَهُمْ، ثُمَّ مَضَى حَتَّى أَتَى النِّسَاءَ فَوَعَظَهُنَّ وَذَكَّرَهُنَّ، فَقَالَ : «تَصَدَّقْنَ، فَإِنَّ أَكْثَرَكُنَّ حَطَبُ جَهَنَّمَ»، فَقَامَتِ امْرَأَةٌ مِنْ سِطَةِ النِّسَاءِ سَفْعَاءُ الْخَدَّيْنِ، فَقَالَتْ :لِمَ يَا رَسُولَ اللهِ؟، قَالَ : «لِأَنَّكُنَّ تُكْثِرْنَ الشَّكَاةَ، وَتَكْفُرْنَ الْعَشِيرَ»، قَالَ : فَجَعَلْنَ يَتَصَدَّقْنَ مِنْ حُلِيِّهِنَّ يُلْقِينَ فِي ثَوْبِ بِلاَلٍ مِنْ أَقْرِطَتِهِنَّ وَخَوَاتِمِهِنَّ. (مسلم رقم 1467)
ความว่า จากท่านญาบิรฺ อิบนุ อับดุลลอฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เล่าว่า “ฉันได้ออกไปละหมาดอีดพร้อมท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ท่านได้ละหมาดก่อนการให้คุฏบะฮฺ(เทศนา) โดยไม่มีการอะซานหรืออิกอมะฮฺ จากนั้นท่านได้ลุกขึ้นและยืนค้ำกับท่านบิลาล เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ และได้(ให้เทศนาโดย)สั่งให้ยำเกรงต่ออัลลอฮฺ และเน้นย้ำให้เชื่อฟังพระองค์ ท่านได้กล่าวสั่งสอนและตักเตือนผู้ร่วมละหมาด แล้วท่านก็เดินจนกระทั่งได้ยืนอยู่หน้าเหล่าสตรี(ที่มาร่วมละหมาด) ท่านได้กล่าวสั่งสอนและตักเตือนพวกนาง ท่านได้กล่าวว่า “พวกนางทั้งหลาย จงให้ทานเศาะดะเกาะฮฺเถิด เพราะส่วนมากของพวกเธอนั้นคือเชื้อไฟของนรกญะฮันนัม" เมื่อนั้นได้มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูเลิศที่สุดจากพวกนางลุกขึ้นถามด้วยอาการตระหนกที่เห็นได้ชัดจากแก้มของนางว่า “เหตุใดที่เป็นเช่นนั้น โอ้ ท่านผู้เป็นศาสนทูตแห่ง อัลลอฮฺ?" ท่านได้ตอบว่า “เหตุเพราะที่พวกนางชอบฟ้องร้องและไม่สำนึกคุณของสามี" ดังนั้น บรรดาพวกนางจึงได้ถอดต่างหูและแหวนของพวกนางเพื่อทำเศาะดะเกาะฮฺ โดยได้โยนใส่สิ่งต่างๆ เหล่านั้นในเสื้อของท่าน บิลาล เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ (รายงานโดย มุสลิม หมายเลข 1467)
บทเรียนจากหะดีษ
1. วิธีละหมาดวันอีดในอิสลาม เริ่มต้นด้วยการละหมาด (จำนวน 2 ร็อกอะฮฺ) จากนั้นจึงอ่านคุฏบะฮฺ
2. ละหมาดวันอีดมีวิธีที่เฉพาะ ได้แก่ จะไม่มีการอะซานและอิกอมะฮฺ การคุฏบะฮฺจะอ่านหลังจากละหมาดเสร็จ
3. อิหม่ามหรือผู้ที่อ่านคุฏบะฮฺสามารถจะพิงผู้อื่นได้
4. สิ่งที่จำเป็นต่อการปลูกฝังในวันอีดคือ การตักวาและการภักดี (เชื่อฟัง) ต่ออัลลอฮฺ ขณะเดียวกันให้ความรู้และบทเรียนในขณะคุฏบะฮฺ
5. ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับสตรี
6. ส่งเสริมให้สตรีทำการบริจาคทานมากๆ โดยเฉพาะในวันอีด เพราะสตรีจำนวนมากจะเป็นเชื้อเพลิงของไฟนรก
7. ชอบฟ้องและไม่รู้บุญคุณของสามี เป็นสาเหตุประการหนึ่งที่ทำให้พวกนางต้องเข้านรก (ขอให้พระองค์อัลลอฮฺทรงห่างไกลจากสิ่งเหล่านี้)
8. ความประเสริฐของการบริจาคทาน ซึ่งเป็นอะมัลเฉพาะที่ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้สั่งไว้ เพื่อให้สตรีปฏิบัติในวันอีด
9. การบริจาคเศาะดะเกาะฮฺเป็นสาเหตุหนึ่งที่ปลดปล่อยบ่าวให้รอดพ้นจากการลงโทษในนรก
10. ความพิเศษของบรรดาเศาะหาบะฮฺสตรีคือ การน้อมรับคำสั่งของอัลลอฮฺด้วยความเต็มใจและยินดี
11. บรรดาเศาะฮาบะฮฺสตรีได้ทำตัวอย่างในการบริจาคทานด้วยการมอบเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ