×
ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรต่อสิ่งที่ผู้หญิงจำนวนมากกำลังทำอยู่ในปัจจุบัน เช่น สวมเสื้อผ้าตัวเล็กขณะอยู่ต่อหน้าผู้หญิงด้วยกัน ซึ่งไม่มีผู้ชายร่วมอยู่ด้วย เสื้อผ้าเหล่านี้บางครั้งก็เปิดเผยส่วนมากของแผ่นหลัง หน้าท้อง หรือบางทีพวกนางก็ใส่กางเกงขาสั้นต่อหน้าเด็กๆ ในบ้าน

ส่วนที่อนุญาตให้มุสลิมะฮฺเปิดเผยต่อหน้าสตรีอื่นและมะหฺร็อม

﴿ما يجوز للمرأة كشفه أمام النساء والمحارم﴾

] ไทย – Thai – تايلاندي [

islamqa.com

แปลโดย : บะนาตุลฮุดา

ผู้ตรวจทาน : ทีมงานอิสลามเฮ้าส์

2009 - 1430

﴿ما يجوز للمرأة كشفه أمام النساء والمحارم﴾

« باللغة التايلاندية »

موقع الإسلام سؤال وجواب

ترجمة: فريق موقع بنات الهدى

مراجعة: الفريق التايلاندي بموقع دار الإسلام

2009 - 1430

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ

ส่วนที่อนุญาตให้มุสลิมะฮฺเปิดเผยต่อหน้าสตรีอื่นและมะหฺร็อม

คำถาม:

ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรต่อสิ่งที่ผู้หญิงจำนวนมากกำลังทำอยู่ในปัจจุบัน เช่น สวมเสื้อผ้าตัวเล็กขณะอยู่ต่อหน้าผู้หญิงด้วยกัน ซึ่งไม่มีผู้ชายร่วมอยู่ด้วย เสื้อผ้าเหล่านี้บางครั้งก็เปิดเผยส่วนมากของแผ่นหลัง หน้าท้อง หรือบางทีพวกนางก็ใส่กางเกงขาสั้นต่อหน้าเด็กๆ ในบ้าน

คำตอบ:

มวลการสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ

คณะกรรมการเพื่อการวิจัยและออกฟัตวา (The Standing Committee for Academic Research and Issuing Fatwas) ได้ออกฟัตวาเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ดังนี้

มวลการสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ พระผู้อภิบาลแห่งโลกทั้งมวล ความจำเริญและความสันติจงมีแด่ท่านนบีมุฮัมมัด วงศ์วานของท่าน และเหล่าเศาะหาบะฮฺทั้งหลาย

เหล่าสตรีผู้ศรัทธาในยุคเริ่มต้นของอิสลามนั้นบริสุทธิ์และมีความละอายยิ่งนัก ซึ่งเป็นผลจากการศรัทธาต่ออัลลอฮฺและร่อซูลของพระองค์ และการดำเนินตามอัลกุรอานและซุนนะฮฺ สตรีในสมัยนั้นสวมเครื่องแต่งกายที่ปกปิด และไม่เป็นที่ทราบว่าพวกนางเปิดเผยเรือนร่างเมื่ออยู่ในหมู่สตรีด้วยกันหรืออยู่ต่อหน้ามะหฺร็อมของพวกนาง สตรีแห่งประชาชาตินี้ได้เดินตามแบบอย่างนี้ الحمد لله ผ่านไปหลายรุ่นจวบจนปัจจุบัน กระทั่งเกิดความเสื่อมโทรมและความตกต่ำทางศีลธรรมในด้านการแต่งกายและพฤติกรรมของสตรีด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานา ซึ่งจะไม่กล่าวในที่นี้

เนื่องจากคำถามจำนวนมากที่ถูกส่งมายังคณะกรรมการเพื่อการวิจัยและออกฟัตวา เกี่ยวกับการมองระหว่างผู้หญิงด้วยกัน เครื่องแต่งกายที่ผู้หญิงควรสวมใส่ คณะกรรมการขอบอกกับมุสลิมะฮฺทุกคนว่า ผู้หญิงจำเป็นต้องมีคุณลักษณะแห่งความละอาย ซึ่งท่านนบี กล่าวว่าเป็นส่วนหนึ่งของความศรัทธาและเป็นสาขาหนึ่งของอีมาน ดังนั้น ด้วยเหตุผลของความละอายซึ่งอิสลามสนับสนุนและสอดคล้องกับมาตรฐานปกติของมนุษย์ ผู้หญิงจึงควรปกปิดเรือนร่างของพวกนาง มีความละอาย ยอมรับและสงวนตัวของพวกนางให้ห่างไกลจากการตกอยู่ในฟิตนะฮฺและสถานการณ์ที่น่าสงสัย

อัลกุรอานได้บอกอย่างชัดเจนว่า มุสลิมะฮฺไม่ควรเปิดเผยตนเองต่อหน้ามุสลิมะฮฺอื่น นอกจากส่วนที่อนุญาตให้เปิดเผยต่อหน้ามะหฺร็อมของนาง คือ ส่วนที่เปิดเผยในบ้านของนางเพื่อความสะดวกในการทำงานบ้าน ดังที่อัลลอฮฺตรัสไว้ว่า

(وَلَا يُبْدِينَ زِينَتَهُنَّ إِلَّا لِبُعُولَتِهِنَّ أَوْ آبَائِهِنَّ أَوْ آبَاء بُعُولَتِهِنَّ أَوْ أَبْنَائِهِنَّ أَوْ أَبْنَاء بُعُولَتِهِنَّ أَوْ إِخْوَانِهِنَّ أَوْ بَنِي إِخْوَانِهِنَّ أَوْ بَنِي أَخَوَاتِهِنَّ أَوْ نِسَائِهِنَّ ...) (النور : 31 )

“และอย่าให้นางเปิดเผยเครื่องประดับของพวกนาง เว้นแต่แก่สามีของพวกนาง หรือบิดาของพวกนาง หรือบิดาของสามีของพวกนาง หรือลูกชายของพวกนาง หรือลูกชายของสามีของพวกนาง หรือพี่ชายน้องชายของพวกนาง หรือลูกชายของพี่ชายน้องชายของพวกนาง หรือลูกชายของพี่สาวน้องสาวของพวกนาง หรือพวกผู้หญิง (มุสลิม) ของพวกนาง..." [อันนูร 24:31]

นี่คือข้อความจากอัลกุรอานซึ่งถูกบอกกล่าวในซุนนะฮฺ เป็นสิ่งที่บรรดาภรรยาของท่านนบี และบรรดาสตรีของเหล่าเศาะหาบะฮฺได้ปฏิบัติ เช่นเดียวกับเหล่าสตรีแห่งประชาชาติที่ดำเนินรอยตามสัจธรรมจวบจนกระทั่งปัจจุบัน ขอบเขตที่อนุญาตให้เปิดเผยต่อหน้าบุคคลที่ถูกกล่าวถึงในอายะฮฺนี้ คือขอบเขตเดียวกับที่มุสลิมะฮฺจะเปิดเผยเมื่อทำงานบ้านในบ้านของนาง ซึ่งยากที่จะหลีกเลี่ยง เช่น การเปิดเผยศีรษะ มือ ลำคอ และเท้า

สำหรับการเปิดเผยร่างกายอย่างเลยเถิดนั้น ไม่มีหลักฐานจากอัลกุรอานและซุนนะฮฺว่าเป็นที่อนุญาต เป็นหนทางที่จะนำไปสู่การยั่วยวนของผู้หญิงหรือการถูกยั่วยวนโดยผู้หญิงอื่น ซึ่งเกิดขึ้นในหมู่พวกนาง ทั้งยังเป็นการสร้างตัวอย่างไม่ดีต่อผู้หญิงอื่น เช่นเดียวกับการเลียนแบบการแต่งกายผู้หญิงกาฟิร โสเภณี และหญิงเสเพล ดังที่ท่านนบี กล่าวว่า “ใครที่เลียนแบบกลุ่มชนใดก็เป็นหนึ่งในกลุ่มชนนั้น" (บันทึกโดยอิมามอะหมัด และอบูดาวูด ในเศาะฮีหฺมุสลิม, 2077) และมีรายงานจากอับดุลลอฮฺ อิบนุ อัมรฺ ว่าท่านนบี เห็นเขาสวมเสื้อผ้าสองชิ้นซึ่งย้อมด้วยดอกคำฝอย แล้วท่านกล่าวว่า “นี่คือเครื่องแต่งกายของกุฟฟาร จงอย่าสวมมัน"

มีรายงานในเศาะฮีหฺมุสลิม (2118) ว่า ท่านนบี กล่าวว่า “มีชาวนรก 2 กลุ่มที่ฉันยังไม่เคยพบ คือ คนที่มีแส้ยาวเหมือนหางสัตว์เอาไว้ใช้ตีผู้คน และผู้หญิงที่สวมเสื้อผ้าแต่เปลือยกาย หลงทาง และนำพาคนอื่นให้หลงทาง บนหัวของพวกนางเหมือนโหนกอูฐที่เอียงไปข้างหนึ่ง พวกเขาจะไม่ได้เข้าสวรรค์และไม่ได้แม้แต่จะดมกลิ่นหอมของสวรรค์ ซึงกลิ่นหอมของมันนั้นจะสูดดมได้จากระยะทางเท่านั้นเท่านี้"

ความหมายของข้อความที่ว่า “สวมเสื้อผ้าแต่เปลือยกาย" คือ ผู้หญิงที่สวมเสื้อผ้าแต่ไม่ปกปิด ดังนั้นนางจึงเหมือนใส่เสื้อผ้า แต่ในความจริงกำลังเปลือยกาย เช่น เสื้อผ้าที่บางจนเห็นสีผิว หรือเสื้อผ้าที่รัดรูปเปิดเผยให้เห็นสัดส่วน หรือกางเกงขาสั้นที่ไม่ปกปิดขาของนาง

ดังนั้น สิ่งที่มุสลิมะฮฺต้องทำคือการเรียกร้องสู่แบบอย่างของเหล่ามารดาแห่งศรัทธาชน (ภรรยาของท่านนบี ) เหล่าสตรีของบรรดาเศาะหาบะฮฺ และสตรีของประชาชาติที่ดำเนินตามสัจธรรม เรียกร้องให้ผู้หญิงปกปิดเรือนร่างและรักษาความละอาย นี่คือสิ่งที่จะขจัดสาเหตุแห่งฟิตนะฮฺให้ห่างไกล และปกป้องพวกนางจากสิ่งที่จะนำสู่การเย้ายวนอารมณ์ปรารถนาและตกลงสู่ห้วงแห่งความไร้คุณธรรม

มุสลิมะฮฺต้องระมัดระวังการตกไปสู่สิ่งที่อัลลอฮฺและร่อซูลของพระองค์ได้ห้ามการเลียนแบบผู้หญิงกาฟิรและหญิงเสเพล ด้วยการเชื่อฟังอัลลอฮฺและร่อซูลของพระองค์ ด้วยความหวังในรางวัลตอบแทนจากอัลลอฮฺ และเกรงกลัวการลงโทษของพระองค์

มุสลิมทุกคนต้องยำเกรงอัลลอฮฺในเรื่องของมุสลิมะฮฺที่อยู่ภายใต้ปกครองของตน ต้องไม่อนุญาตให้พวกนางสวมใส่สิ่งที่อัลลอฮฺและร่อซูลของพระองค์ทรงห้าม เช่น เสื้อผ้าที่กระตุ้นความปรารถนาทางเพศ หรือเสื้อผ้าที่เปิดเผยเรือนร่างและเย้ายวน เขาต้องระลึกเสมอว่าเขาเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ และต้องถูกสอบสวนถึงสิ่งที่เขาดูแลรับผิดชอบในวันกิยามะฮฺ

เราขอวิงวอนต่ออัลลอฮฺทรงโปรดให้การแต่งกายของมุสลิมถูกต้อง ขอทรงโปรดนำทางพวกเราทุกคนสู่แนวทางที่เที่ยงตรง พระองค์คือผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงอยู่ใกล้ และทรงตอบรับคำวิงวอน ขออัลลอฮฺทรงโปรดประทานความจำเริญและความสันติแด่ท่านนบีมุฮัมมัด วงศ์วานของท่าน และบรรดาเศาะหาบะฮฺด้วยเถิด (ฟะตาวา อัลลัจญนะฮฺ อัดดาอิมะฮฺ, 17/290)

อนึ่ง ส่วนที่อนุญาตให้มุสลิมะฮฺเปิดเผยต่อหน้าเด็กๆ คือส่วนที่เปิดเผยในชีวิตประจำวันปกติ เช่น ใบหน้า มือ แขนท่อนล่าง เท้า เป็นต้น (ฟะตาวา อัลลัจญนะฮฺ อัดดาอิมะฮฺ, 17/297)

และอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงรอบรู้ที่สุด

ที่มา Islamqa.com คำถามหมายเลข 34745