หะดีษที่ 6 - การถือศีลอดเป็นโล่ป้องกัน
หมวดหมู่
Full Description
การถือศีลอดเป็นโล่ป้องกัน
﴿الصيام جنة﴾
] ไทย – Thai – تايلاندي [
อาหมัด อัลฟารีตีย์
แปลโดย : ฮาเรส เจ๊ะโด
ผู้ตรวจทาน : ซุฟอัม อุษมาน
ที่มา : หนังสือ 40 หะดีษเราะมะฎอน
2010 - 1431
﴿الصيام جنة﴾
« باللغة التايلاندية »
أحمد حسين الفاريتي
ترجمة: حارث جيء دو
مراجعة: صافي عثمان
المصدر: كتاب 40 حديث رمضان
2010 - 1431
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ
หะดีษบทที่ 6
การถือศีลอดเป็นโล่ป้องกัน
عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ رَضِيَ اللهُ عَنْهُ أَنَّ رَسُولَ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ : «الصِّيَامُ جُنَّةٌ، فَلاَ يَرْفُثْ وَلاَ يَجْهَلْ، وَإِنِ امْرُؤٌ قَاتَلَهُ أَوْ شَاتَمَهُ فَلْيَقُلْ إِنِّي صَائِمٌ ـ مَرَّتَيْنِ». (البخاري رقم1761)
ความว่า จากท่าน อบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุ อันฮุ เล่าจากท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ท่านได้กล่าวว่า “การถือศีลอดนั้นเป็นโล่ป้องกัน (คือป้องกันไม่ให้ผู้ถือศีลอดประพฤติสิ่งที่ไม่ดี หรือป้องกันเขาจากการต้องเข้านรก) ดังนั้น(เมื่อผู้ใดถือศีลอด)แล้ว เขาอย่าได้พูดจาหยาบโลนและอย่าได้ประพฤติเยี่ยงผู้ที่ไร้จริยธรรม และหากแม้นมีผู้ใดต้องการทะเลาะเบาะแว้งหรือกล่าวด่าว่าร้ายเขา ก็ให้เขากล่าวแก่คนผู้นั้นว่า ‘แท้จริงฉันเป็นผู้ถือศีลอด แท้จริงฉันเป็นผู้ถือศีลอด’ (คือให้กล่าวเพียงเท่านี้ โดยไม่ต้องตอบโต้ด้วยคำพูดอื่นที่อาจจะทำให้การถือศีลอดบกพร่อง)” (รายงานโดย อัล-บุคอรีย์ เลขที่ 1761)
คำอธิบายหะดีษ
คำว่า “جُنَّةٌ” ที่หมายถึง โล่ป้องกัน ได้มีหะดีษหลายบทซึ่งให้ความหมายที่แตกต่างกันไป ดังนี้
1. จากการเพิ่มเติมในรายงานหะดีษของสะอีด บิน มันซูร ให้ความหมายในแง่ของการระมัดระวังจากไฟนรก
2. การเพิ่มเติมในรายงานหะดีษของอัน-นะสาอีย์ หมายถึงการถือศีลอดนั้นเป็นเสมือนโล่กำบัง(ที่ถูกเตรียมไว้) โดยคนใดคนหนึ่งจากพวกท่านเพื่อป้องกันตัวในการสงคราม
บรรดาอุละมาอ์ยังได้ให้ทัศนะต่างๆ ดังนี้
1. อิบนุล อะษีรฺ เจ้าของหนังสือ “อัน-นิฮายะฮฺ” ระบุว่า การถือศีลอดนั้นสามารถปกป้องผู้ที่ถือศีลอดจากการรบกวนของอารมณ์ใฝ่ต่ำได้
2. อัล-กุรฏุบีย์กล่าวว่า เป็นกำแพงกั้นในแง่ของการกำหนดบัญญัติให้ถือศีลอด ดังนั้นผู้ที่ถือศีลอดจะต้องรักษาสภาพการถือศีลอดของเขาจากทุกสิ่งที่อาจจะทำให้มันเสียหายหรือบกพร่อง หรือเป็นกำแพงกั้นในแง่ของการลดความรู้สึกของอารมณ์ใฝ่ต่ำ และเป็นไปได้ที่จะมีหมายความว่าเป็นกำแพงกั้นในแง่ของการได้รับผลบุญและเพิ่มพูนความดีงามต่างๆ อย่างมากมาย
3. อัล-กอฎีย์ อิยาฎกล่าวว่า การถือศีลอดสามารถป้องกันจากบาปต่างๆ หรือจากไฟนรก หรือจากทั้งสองอย่างนั้นได้ ทัศนะนี้ได้รับการสนับสนุนจากอิหม่ามอัน-นะวะวีย์
4. อิบนุล อะเราะบีย์กล่าวว่า สาเหตุที่การถือศีลอดเป็นสิ่งที่สามารถปกป้องจากไฟนรกได้ก็เพราะว่าการถือศีลอดนั้นสามารถปกป้องจากการหลอกลวงของอารมณ์ใฝ่ต่ำ เพราะว่านรกนั้นจะถูกล้อมรอบด้วยอารมณ์ใฝ่ต่ำนั่นเอง
สรุป ในเมื่อการศีลอดสามารถปกป้องจากอารมณ์ใฝ่ต่ำของดุนยาแล้ว แน่นอนที่สุดการถือศีลอดก็สามารถปกป้องผู้ถือศีลอดจากไฟนรกในวันอาคิเราะฮฺได้เช่นกัน
และในกรณีที่ผู้ถือศีลอดได้รับการดูถูกเหยียดหยามและถูกด่าทอโดยผู้อื่น เขาจงกล่าวไปว่า “ฉันกำลังถือศีลอดอยู่” ไม่ว่าจะโดยทางวาจาหรือกล่าวในใจก็ได้
บทเรียนจากหะดีษ
1. ให้รักษามารยาทต่างๆ ในการถือศีลอด เพื่อจะได้รับผลของการถือศีลอดอย่างครบถ้วน
2. ระวังการกระทำต่างๆ ที่อาจทำให้ผลบุญของการถือศีลอดลงน้อยลง เช่น การพูดจาในสิ่งที่ไร้สาระ และการกระทำต่างๆ ที่เหมือนคนอวิชา
3. ห้ามผู้ที่ถือศีลอดตอบโต้ต่อคำพูดที่ด่าทอหรือเหยียดหยามตน
4. เพื่อรักษาความสมบูรณ์ของการถือศีลอด เมื่อมีคำพูดที่เหยียดหยามตัวเขาแล้ว ให้ปฏิบัติตัวอย่างมั่นคงในฐานะเป็นผู้ที่ถือศีลอด
5. การไม่ตอบโต้คำพูดที่เหยียดหยามตน อาจจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น โดยเฉพาะเมื่อผู้นั้นกำลังถือศีลอดอยู่
6. อิสลามสอนให้มุสลิมมีมารยาทที่ดีงามและมีความรู้ มิใช่มีมารยาทอย่างคนที่โง่เขลา