أسهل طريقة لختم القرآن في شهر رمضان
أعرض المحتوى باللغة الأصلية
كتاب باللغة التايلندية يبين أفضل وأسهل الطرق لختم القرآن الكريم في شهر رمضان.
วิธีง่ายๆ ในการเคาะตัมอัลกุรอานในเดือนเราะมะฎอน
أسهل طريقة لختم القرآن في شهر رمضان
< تايلاندية >
แวมูฮัมหมัดซาบรี แวยะโก๊ะ
محمد صبري يعقوب
ผู้ตรวจทาน: ทีมงานภาษาไทยเว็บอิสลามเฮ้าส์
مراجعة: فريق اللغة التايلاندية بموقع دار الإسلام
วิธีง่ายๆ ในการเคาะตัมอัลกุรอานในเดือนเราะมะฎอน
การสรรเสริญทั้งหลายเป็นสิทธิของอัลลอฮฺ ขอการสดุดีแห่งอัลลอฮฺและความสันติสุขปลอดภัยจงมีแด่ผู้เป็นศาสนทูตที่ประเสริฐที่สุดและเป็นผู้นำของเรานั่นคือท่านนบีมุฮัมมัด และบรรดาเครือญาติตลอดจนบรรดาเศาะหาบะฮฺของท่านทุกคน
เราะมะฎอน คือโอกาสที่ดีสำหรับผู้ศรัทธาที่จะคืนดีกับอัลกุรอาน ด้วยการอ่าน ตะดับบุร และศึกษาความหมาย รวมทั้งการนำมันมาใช้ในชีวิตประจำวัน เพราะหากไม่ใช่เดือนนี้แล้วก็คงเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ง่ายอย่างแน่นอน ดังนั้น เรามาคืนดีกับอัลกุรอานกันเถิด
ความสำคัญของการอ่านอัลกุรอาน
อัลลอฮฺได้สั่งใช้ให้บรรดาผู้ศรัทธาอ่านและปฏิบัติตามคำสอนของอัลกุรอาน พร้อมทั้งให้ตะดับบุรเนื้อหางที่มีอยู่ในอัลกุรอาน ดังที่พระองค์ตรัสว่า
﴿ إِنَّ ٱلَّذِينَ يَتۡلُونَ كِتَٰبَ ٱللَّهِ وَأَقَامُواْ ٱلصَّلَوٰةَ وَأَنفَقُواْ مِمَّا رَزَقۡنَٰهُمۡ سِرّٗا وَعَلَانِيَةٗ يَرۡجُونَ تِجَٰرَةٗ لَّن تَبُورَ ٢٩ لِيُوَفِّيَهُمۡ أُجُورَهُمۡ وَيَزِيدَهُم مِّن فَضۡلِهِۦٓۚ إِنَّهُۥ غَفُورٞ شَكُورٞ ٣٠ ﴾ [فاطر: ٢٩، ٣٠]
ความว่า “แท้จริง บรรดาผู้อ่านคัมภีร์ของอัลลอฮฺ และดำรงการละหมาด และบริจาคสิ่งที่เราได้ให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเขา ทั้งโดยซ่อนเร้นและเปิดเผย เพื่อหวังการค้าที่ไม่ซบเซา (หมายถึงผลบุญในอาคิเราะฮฺ) เพื่อพระองค์จะทรงตอบแทนรางวัลของพวกเขาให้แก่พวกเขาอย่างครบถ้วนและจะทรงเพิ่มความโปรดปรานของพระองค์ให้แก่พวกเขา แท้จริง พระองค์นั้นเป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงชื่นชม (เพราะการภักดีของพวกเขา)" (สูเราะฮฺ ฟาฏิรฺ : 29-30)
และอัลลอฮฺ ตะอาลา ได้ดำรัสว่า
﴿ إِنَّا جَعَلۡنَٰهُ قُرۡءَٰنًا عَرَبِيّٗا لَّعَلَّكُمۡ تَعۡقِلُونَ ٣ وَإِنَّهُۥ فِيٓ أُمِّ ٱلۡكِتَٰبِ لَدَيۡنَا لَعَلِيٌّ حَكِيمٌ ٤ ﴾ [الزخرف: ٣، ٤]
ความว่า “แท้จริงเราได้ทำให้คัมภีร์เป็นกุรอานภาษาอาหรับ เพื่อพวกเจ้าจะได้ใช้สติปัญญา และแท้จริงอัลกุรอานซึ่งอยู่ในแม่บทแห่งคัมภีร์ ณ ที่เรานั้นคือสิ่งที่สูงส่ง พรั่งพร้อมด้วยปรัชญา" (สูเราะฮฺ อัซ-ซุครุฟ : 3-4)
ส่วนความดีงามที่ผู้อ่านอัลกุรอานจะได้รับนั้น ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า
«مَنْ قَرَأَ حَرْفًا مِنْ كِتَابِ اللَّهِ فَلَهُ بِهِ حَسَنَةٌ، وَالْحَسَنَةُ بِعَشْرِ أَمْثَالِهَا، لاَ أَقُولُ الم حَرْفٌ، وَلَكِنْ أَلِفٌ حَرْفٌ، وَلاَمٌ حَرْفٌ، وَمِيمٌ حَرْفٌ»
ความว่า “ผู้ใดที่อ่านอัลกุรอานหนึ่งตัวอักษรเขาจะได้รับหนึ่งความดีงาม โดยหนึ่งความดีงามนั้นจะเพิ่มทวีคูณเป็นสิบเท่า ฉันไม่ได้บอกว่า อลิฟ ลาม มีม เป็นหนึ่งอักษร แต่อลิฟ เป็นหนึ่งอักษร ลาม เป็นหนึ่งอักษร มีม ก็เป็นอีกหนึ่งอักษร" (บันทึกโดย อัต-ติรมิซี : 2910 ท่านได้กล่าวว่า เป็นหะดีษหะสัน เศาะฮีหฺ เฆาะรีบ)
ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวอีกว่า
«المَاهِرُ بِالقُرْآنِ مَعَ السَّفَرَةِ الكِـَرامِ البَرَرَةِ، وَالَّذِي يَـقْرَأُ القُرْآنَ وَيَتَتَعْتَعُ فِيهِ، وَهُوَ عَلَيهِ شَاقٌّ، لَـهُ أَجْرَانِ». متفق عليه.
ความว่า “ผู้ที่ชำนาญในการอ่านอัลกุรอานนั้นจะอยู่ร่วมกับมลาอิกะฮฺผู้จดบันทึกอีกทั้งมีเกียรติ และผู้ที่อ่านอัลกุรอานอย่างตะกุกตะกัก (ไม่คล่อง) แต่เขาก็พยามยามอ่าน เขาจะได้สองผลบุญ" (บันทึกโดย อัล-บุคอรี : 4937 , มุสลิม : 798)
อัลกุรอานจะให้ความช่วยเหลือต่อผู้ที่อ่าน และจะยกระดับชั้นสวรรค์แก่เขา ตามที่เขาได้อ่าน ดังกล่าวนี้ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า
«اقْرَؤُوا القُرْآنَ، فَإنَّهُ يِأتِي يَوْمَ القِيَامَةِ شَفِيعاً لأَصْحَابِـهِ»
ความว่า “พวกท่านทั้งหลายจงอ่านอัลกุรอาน เพราะอัลกุรอานนั้นจะมาให้ความช่วยเหลือต่อสหายของมันในวันกิยามะฮฺ" (บันทึกโดยมุสลิม : 804)
ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวอีกว่า
«يُـقَالُ لِصَاحِبِ القُرآنِ اقْرَأ وَارْتَقِ وَرَتِّلْ كَمَا كُنْتَ تُرَتِّلُ فِي الدُّنْيَا، فَإنَّ مَنْزِلَكَ عِنْدَ آخِرِ آيَةٍ تَقْرَؤُهَا». أخرجه أبو داود والترمذي.
ความว่า “(ในวันอาคิเราะฮฺ)จะถูกกล่าวแก่ผู้ที่อ่านอัลกุรอานว่า จงอ่านและจงเลื่อนขึ้นตามระดับขั้น (ในสวรรค์) และจงอ่านอย่างชัดถ้อยชัดคำ ดังที่ท่านเคยอ่านในโลกดุนยามาก่อน เพราะชั้นสวรรค์ที่เจ้าจะได้รับคืออายะฮฺสุดท้ายที่ท่านได้อ่านอัลกุรอานจบ" (บันทึกโดยอัต-ติรมิซี หมายเลขหะดีษ 2914 ท่านได้กล่าวว่าเป็นหะดีษ หะสัน เศาะฮีหฺ)
ปัจจัยที่ช่วยให้สามารถเคาะตัมอัลกุรอานในเดือนเราะมะฎอนได้อย่างง่ายดาย
1. ฝึกอ่านอัลกุรอานให้มีความคล่องแคล่วก่อนที่เดือนเราะมะฎอนจะมาถึง เพราะถ้าท่านใช้เวลาในเดือนเราะมะฎอนเพื่อการฝึกอ่านแล้ว ท่านจะเสียโอกาสในการเคาะตัมอัลกุรอานอย่างแน่นอน
2. เรียนรู้เทคนิคการจัดสรรเวลาอ่านอัลกุรอานในแต่ละวัน โดยแน่นอนว่าการไม่มีเทคนิคในการทำสิ่งหนึ่งย่อมทำให้เกิดอุปสรรคในการบรรลุสิ่งนั้น การอ่านอัลกุรอานก็เช่นกัน ถ้าท่านไม่เรียนรู้เทคนิคการจัดสรรเวลาท่านอาจจะประสบกับความยากลำบากในการบรรลุเป้าหมายที่ท่านได้วางไว้ หรือบางทีท่านอาจจะพลาดไปเลยก็ว่าได้
3. พกพาอัลกุรอานอยู่กับตัวเสมอหรือดาวน์โหลดแอพอัลกุรอานลงในมือถือ ซึ่งการเตรียมพร้อมเช่นนี้จะทำให้สามารถอ่านอัลกุรอาน ณ ที่ใดก็ตามที่ท่านอยู่ (ยกเว้นสถานที่ที่ศาสนาไม่อนุญาตให้นำอัลกุรอานเข้าไปหรืออ่านในนั้น) ไม่ว่าท่านกำลังจอดรถรอไฟแดงหรือกำลังรอรถโดยสาร ช่วงที่ท่านว่างจากการทำงานหรือช่วงที่พักระหว่างคาบเรียน เป็นต้น
4. สร้างบรรยากาศของการอัลกุรอานในเดือนนี้ ไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นคนในครอบครัว เพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงาน หรือเพื่อนร่วมห้อง หรืออาจจะชวนคนในครอบครัวหรือเพื่อนที่สนิทมาร่วมแข่งกันอ่านว่าในเดือนเราะมะฎอนนี้ใครอ่านได้มากที่สุด ทั้งนี้เพื่อเป็นสร้างความกระตือรือร้นให้แก่เราและคนที่มาร่วมแข่ง ซึ่งศาสนาก็ส่งเสริมให้เราแข่งขันในการทำความดีอยู่แล้ว แต่ที่สำคัญคืออย่าให้การแข่งครั้งนี้เป็นการโอ้อวดซึ่งกันและกัน เพราะไม่เช่นนั้นแล้วผลบุญที่เราได้อ่านไปก็จะสูญสิ้นโดยทันที
สาเหตุที่ทำให้ไม่สามารถเคาะตัมอัลกุรอานในเดือนเราะมะฎอนได้
1. คนโดยส่วนใหญ่ ตลอดช่วงเวลาทั้งปีที่ผ่านมามักจะไม่ค่อยอ่านอัลกุรอานเว้นแต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่พอถึงช่วงเวลาของเดือนเราะมะฎอนเขากลับมีความมุ่งมั่นในการอ่านในช่วงวันแรกๆ ซึ่งบางคนอ่านได้ 1 ยุซหรือ 2 ยุซแบบรวดเดียว แต่ด้วยกับการที่เขาไม่มีความมักคุ้นต่อการอ่านอัลกุรอานจำนวนมากๆ เช่นนี้ จึงทำให้เขามีความรู้สึกที่เหนื่อยล้าและยากลำบาก สุดท้ายแล้วก็จะเกิดความเบื่อหน่าย ซึ่งทำให้ในวันถัดๆ ไป ความมุ่งมั่นของเขาในการอ่านก็จะลดน้อยลงเรื่อยๆ ในที่สุดเขาก็ไม่สามารถที่จะเคาะตัมอัลกุรอานในเดือนที่จำเริญนี้ได้ – ขออัลลอฮฺทรงประทานเตาฟีกให้เรามีความมักคุ้นต่อการอ่านอัลกุรอานด้วยเถิด -
2. ไม่จัดสรรตารางเวลาอ่านให้ดี ซึ่งสาเหตุประการหนึ่งที่ทำให้ไม่สามารถเคาะตัมอัลกุรอานได้คือ การที่เราอ่านอย่างสะเปะสะปะ ซึ่งบางทีก็อ่านกลางคืนอย่างเดียว บางทีก็อ่านกลางวัน บางทีก็อ่านช่วงสะหูร และบางทีก็อ่านเพียงช่วงระหว่างอะซานและอิกอมะฮฺ แน่นอนว่าการไม่จัดสรรเวลาอ่านให้ดีนั้นย่อมทำให้เราไม่สามารถที่จะควบคุมการอ่านของเราให้ตรงตามเป้าหมายได้
3. ไม่กำหนดระยะเวลาอ่านเป็นการเฉพาะ ซึ่งใครที่ต้องการเคาะตัมอัลกุรอานหนึ่งครั้งในเดือนที่จำเริญนี้ อย่างน้อยๆ เขาต้องกำหนดเวลาอ่านในแต่ละวันไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง ส่วนคนที่ต้องการเคาะตัมอัลกุรอานมากกว่าหนึ่งครั้ง เขาก็ต้องกำหนดเวลาอ่านให้ชัดเจนโดยยึดตามความสามารถในการอ่านของเขาว่าต่อหนึ่งยุซนั้นต้องใช้ระยะเวลาเท่าใด ทั้งนี้ทั้งนั้นระยะเวลาของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน บางคนใช้เวลาเพียงยี่สิบนาทีต่อหนึ่งยุซ และก็มีบางคนที่ต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงต่อหนึ่งยุซ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ดังนั้น ถ้าเราตั้งเป้าหมายจำนวนครั้งในการเคาะตัมอัลกุรอานแล้ว เราก็ต้องมากำหนดให้ชัดเจนว่าเราต้องใช้เวลาทั้งหมดเท่าใด แล้วจัดสรรเวลาในการอ่านให้ดีและมีวินัยในการจัดสรรนั้น
4. ตั้งเป้าหมายจำนวนครั้งในการเคาะตัมอัลกุรอานที่มากจนเกินความสามารถ ซึ่งจะทำให้เกิดความยากลำบากและย่อท้อได้ แต่ที่ดีที่สุดคือให้เราประเมินความสามารถของตัวเราเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวลา ความคล่องในการอ่าน ฯลฯ แล้วตั้งเป้าหมายให้เป็นไปตามความเป็นจริง ซึ่งการตั้งเป้าหมายที่น้อยๆ แต่ทำอย่างสม่ำเสมอย่อมดีกว่าการตั้งเป้าหมายอย่างสวยหรูแต่สุดท้ายก็หยุดระหว่างทาง
และต่อไปนี้คือข้อแนะนำต่างๆ ที่กล่าวถึงวิธีการเคาะตัมอัลกุรอานในเดือนเราะมะฎอน ขออัลลอฮฺทรงประทานเตาฟีกให้เราสามารถเคาะตัมอัลกุรอานในเดือนที่จำเริญนี้ และขอให้การอ่านอัลกุรอานยังประโยชน์ให้แก่เราในการใช้ชีวิตทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
วิธีง่ายๆ ในการเคาะตัมอัลกุรอานในเดือนเราะมะฎอน
สิ่งที่เราต้องทราบอันดับแรกคือ อัลกุรอานมีประมาณ 600 กว่าหน้า
ถ้าเอา 600 หน้าหารด้วย 30 วัน ก็จะเท่ากับ 20 หน้าต่อวัน
20 หน้าต่อวันหารด้วย 5 เวลาละหมาด (เฉพาะเวลาละหมาดอิชาอ์ ให้ไปอ่านหลังจากละหมาดตะรอวีหฺก็ได้) ก็จะเท่ากับ 4 หน้าต่อ 1 เวลาละหมาด
ดังนั้น เพียงแค่ท่านอ่านอัลกุรอาน 4 หน้าในทุกครั้งก่อนหรือหลังละหมาด (ตามที่ท่านได้จัดสรรเวลา) ท่านก็จะสามารถเคาะตัมอัลกุรอานได้ 1 ครั้งในเดือนเราะมะฎอนนี้
ส่วนคนที่ต้องการเคาะตัมอัลกุรอาน 2 ครั้งใน 1 เดือนก็มีวิธีง่ายๆ ที่จะแนะนำคือ ให้อ่านอัลกุรอานก่อนทุกเวลาละหมาด 4 หน้า และหลังจากทุกเวลาละหมาด 4 หน้า ซึ่งผลที่ได้คือท่านก็จะสามารถเคาะตัมอัลกุรอาน 2 ครั้งในเดือนที่จำเริญนี้ได้
ถ้ามีคนถามว่าในเมื่ออัลกุรอานมีทั้งหมดจำนวน 604 หน้าแล้วจะแบ่งอ่านยังไง วิธีที่ง่ายที่สุดคือให้ท่านอ่านตามที่ได้นำเสนอในข้างต้น ส่วน 4 หน้าสุดท้ายนั้นให้ท่านอ่านในขณะที่จะเคาะตัมอัลกุรอานพร้อมกับขอดุอาอ์ ซึ่ง 4 หน้าสุดท้ายนั้นเริ่มตั้งแต่สูเราะฮฺอัล-อัศริ จนถึงสูเราะฮฺอัน-นาส ซึ่งเป็นที่รู้ดีว่ามันเป็นเพียงสูเราะฮฺสั้นๆ ที่อ่านง่าย ขออัลลอฮฺทรงประทานเตาฟีกแก่เราตามที่พระองค์ทรงรักและพึงพระทัยด้วยเถิด
และนี่คือตัวอย่างตารางการจัดสรรเวลาอ่านอัลกุรอานในเดือนเราะมะฎอน
การเคาะตัมอัลกุรอานภายใน 3 วัน
วันที่ | หลังศุบุหฺ | ก่อนหรือ หลังซุฮฺริ | ก่อนหรือหลังอัศริ | ก่อนหรือหลังมัฆริบ | หลังตะรอวีหฺหรือก่อนสะหูร |
1 | ยุซที่ 1-2 | ยุซที่ 3-4 | ยุซที่ 5-6 | ยุซที่ 7-8 | ยุซที่ 9-10 |
2 | ยุซที่ 11-12 | ยุซที่ 13-14 | ยุซที่ 15-16 | ยุซที่ 17-18 | ยุซที่ 19-20 |
3 | ยุซที่ 21-22 | ยุซที่ 23-24 | ยุซที่ 25-26 | ยุซที่ 27-28 | ยุซที่ 29-30 |
การเคาะตัมอัลกุรอานภายใน 5 วัน
วันที่ | หลังศุบุหฺ | ก่อนหรือ | ก่อนหรือหลังอัศริ | ก่อนหรือหลังมัฆริบ | หลังตะรอวีหฺหรือก่อนสะหูร |
1 | ยุซที่ 1 | ยุซที่ 2 | ยุซที่ 3-4 | ยุซที่ 5 | ยุซที่ 6 |
2 | ยุซที่ 7 | ยุซที่ 8 | ยุซที่ 9-10 | ยุซที่ 11 | ยุซที่ 12 |
3 | ยุซที่ 13 | ยุซที่ 14 | ยุซที่ 15-16 | ยุซที่ 17 | ยุซที่ 18 |
4 | ยุซที่ 19 | ยุซที่ 20 | ยุซที่ 21-22 | ยุซที่ 23 | ยุซที่ 24 |
5 | ยุซที่ 25 | ยุซที่ 26 | ยุซที่ 27-28 | ยุซที่ 29 | ยุซที่ 30 |
การเคาะตัมอัลกุรอานภายใน 7 วัน
วันที่ | หลังศุบุหฺ | ก่อนหรือ | ก่อนหรือหลังอัศริ | ก่อนหรือหลังมัฆริบ | หลังตะรอวีหฺหรือก่อนสะหูร |
1 | อัล-ฟาติหะฮฺ ถึงอัล-บะเกาะเราะฮฺ 1-141 | อัล-บะเกาะเราะฮฺ 142-252 | อัล-บะเกาะเราะฮฺ 252-286 ถึงอาลิอิมรอน 1-91 | อาลิอิมรอน 92-200 ถึงอัน-นิสาอ์ 1-23 | อัน-นิสาอ์ 24-176 |
2 | อัล-มาอิดะฮฺ 1-105 | อัล-มาอิดะฮฺ 106-120 ถึงอัล-อันอาม 1-134 | อัล-อันอาม 135-165 ถึงอัล-อะอฺรอฟ 1-131 | อัล-อะอฺรอฟ 132-206 ถึงอัล-อันฟาล 1-70 | อัล-อันฟาล 71-75 ถึงอัต-เตาบะฮฺ 1-129 |
3 | ยูนุส | ฮูด | ยูสุฟ ถึง อัร-เราะอฺด์ 1-13 | อัร-เราะอฺดุ 14-43 ถึง อิบรอฮีม และ อัล-หิจญรฺ 1-77 | อัล-หิจญรฺ 78-99 ถึง อัน-นะหฺล์ |
4 | อัล-อิสรออ์ ถึง อัล-กะฮฺฟิ 1-41 | อัล-กะฮฺฟิ 42-110 ถึงมัรยม และฏอฮา 1-54 | ฏอฮา 55-135 ถึงอัล-อัมบิยาอ์ 1-100 | อัล-อัมบิยาอ์ 101-112 ถึงอัล-หัจญฺ และอัล-มุอ์มินูน 1-74 | อัล-มุอ์มินูน 75-118 ถึงอัน-นูร และอัล-ฟุรกอน |
5 | อัช-ชุอะรออ์ ถึง อัน-นัมล์ 1-55 | อัน-นัมล์ 56-93 ถึง อัล-เกาะศ็อศ และอัล-อันกะบูต 1-7 | อัล-อันกะบูต 8-69 ถึง อัร-รูมและลุกมาน 1-21 | ลุกมาน 22-34 ถึงอัส-สะญะดะฮฺและอัล-อะหฺซาบ 1-59 | อัล-อะหฺซาบ 60-73 ถึงสะบะอ์, ฟาฏิร และยาสีน |
6 | อัศ-ศ็อฟฟาต ถึงศ็อด และอัซ-ซุมัร 1-7 | อัซ-ซุมัร 8-75 ถึงฆอฟิร 1-52 | ฆอฟิร 53-85 ถึงฟุศศิลัต และอัช-ชูรอ 1-26 | อัช-ชูรอ 27-53 ถึงอัซ-ซุครุฟ, อัด-ดุคอน และอัล-ญาษิยะฮฺ | อัล-อะหฺกอฟ, มุฮัมมัด, อัล-ฟัตห์ และอัล-หุญุรอต |
7 | ตั้งแต่ก็อฟถึงอัร-เราะหฺมาน | ตั้งแต่อัล-วากิอะฮฺถึงอัล-มุมตะหะนะฮฺ | ตั้งแต่อัศ-ศ็อฟ ถึงอัล-เกาะลัม | ตั้งแต่อัล-หากเกาะฮฺ ถึงอัล-มุรสะลาต | ตั้งแต่อัน-นะบะอ์ถึงอัน-นาส |
การเคาะตัมอัลกุรอานภายใน 10 วัน
วันที่ | หลังศุบุหฺ | ก่อนหรือ | ก่อนหรือหลังอัศริ | ก่อนหรือหลังมัฆริบ | หลังตะรอวีหฺหรือก่อนสะหูร |
1 | ครึ่งยุซที่ 1 | ครึ่งยุซที่ 1 | ยุซที่ 2 | ครึ่งยุซที่ 3 | ครึ่งยุซที่ 3 |
2 | ครึ่งยุซที่ 4 | ครึ่งยุซที่ 4 | ยุซที่ 5 | ครึ่งยุซที่ 6 | ครึ่งยุซที่ 6 |
3 | ครึ่งยุซที่ 7 | ครึ่งยุซที่ 7 | ยุซที่ 8 | ครึ่งยุซที่ 9 | ครึ่งยุซที่ 9 |
4 | ครึ่งยุซที่ 10 | ครึ่งยุซที่ 10 | ยุซที่ 11 | ครึ่งยุซที่ 12 | ครึ่งยุซที่ 12 |
5 | ครึ่งยุซที่ 13 | ครึ่งยุซที่ 13 | ยุซที่ 14 | ครึ่งยุซที่ 15 | ครึ่งยุซที่ 15 |
6 | ครึ่งยุซที่ 16 | ครึ่งยุซที่ 16 | ยุซที่ 17 | ครึ่งยุซที่ 18 | ครึ่งยุซที่ 18 |
7 | ครึ่งยุซที่ 19 | ครึ่งยุซที่ 19 | ยุซที่ 20 | ครึ่งยุซที่ 21 | ครึ่งยุซที่ 21 |
8 | ครึ่งยุซที่ 22 | ครึ่งยุซที่ 22 | ยุซที่ 23 | ครึ่งยุซที่ 24 | ครึ่งยุซที่ 24 |
9 | ครึ่งยุซที่ 25 | ครึ่งยุซที่ 25 | ยุซที่ 26 | ครึ่งยุซที่ 27 | ครึ่งยุซที่ 27 |
10 | ครึ่งยุซที่ 28 | ครึ่งยุซที่ 28 | ยุซที่ 29 | ครึ่งยุซที่ 30 | ครึ่งยุซที่ 30 |
การเคาะตัมอัลกุรอาน 1 ครั้งในเดือนเราะมะฎอนพร้อมกับศึกษาความหมาย
คงจะไม่มีอะไรดีไปกว่าการที่เราได้อ่านดำรัสของอัลลอฮฺแล้วเข้าใจในเนื้อหาที่พระองค์ได้ประทานลงมาไปด้วย แต่การที่จะสามารถอ่านอัลกุรอานพร้อมศึกษาความหมายของมันนั้น ก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครๆ ก็ทำได้ แต่การจัดสรรเวลาและหาหนังสือที่เหมาะสมย่อมเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายที่ได้วางไว้
ก่อนหน้านี้เรารู้แล้วว่า อัลกุรอานมีประมาณ 600 กว่าหน้า ถ้าเอา 600 หน้าหารด้วย 30 วัน ก็จะเท่ากับ 20 หน้าต่อวัน ก็จะเท่ากับ 4 หน้าต่อ 1 เวลาละหมาด ซึ่งถ้าเราต้องใช้เวลาอ่านอัลกุรอานในแต่ละหน้า 2 นาที ก็แสดงว่าเราต้องใช้เวลาประมาณ 8 นาที แต่ไม่ใช่เพียงแค่เท่านี้ เพราะเราะต้องใช้เวลาในการศึกษาความหมายของมันอีก ซึ่งถ้าเป็นหนังสือที่มีการแปลความหมายสั้นๆ อย่างเช่น หนังสือแปลความหมายอัลกุรอาน ของสมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ เราก็จะต้องใช้เวลาทั้งการอ่านและศึกษาความหมายประมาณ 20-30 นาที ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับหนังสือที่เราเลือกมาศึกษา ซึ่งหนังสือที่จะขอแนะนำ ถ้าเป็นภาษาไทยไม่ค่อยมีตัวเลือกมากนัก ที่มีอยู่ก็อย่างเช่น “หนังสือแปลความหมายอัลกุรอาน โดยสมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ, ตัฟฮีมุลกุรอาน โดยอบุลอะลา อัล-เมาดูดี" เป็นต้น แต่ถ้าเป็นภาษาอาหรับก็มีหนังสือ “อัล-มิศบาหุลมุนีร โดยท่านอิบนุกะษีร, อัยสัร อัต-ตะฟาสีร โดยชัยคฺอบูบักรฺ อัล-ญะซาอิรี, ตัฟสีรอัล-มุยัสสัร โดยคณะอุละมาอ์" เป็นต้น
และนี่คือตัวอย่างตารางเวลาอ่านอัลกุรอานพร้อมกับศึกษาความหมาย
วันที่ | หลังศุบุหฺ | ก่อนหรือ | ก่อนหรือหลังอัศริ | ก่อนหรือหลังมัฆริบ | หลังตะรอวีหฺหรือก่อนสะหูร |
1-30 | 4 หน้า | 4 หน้า | 4 หน้า | 4 หน้า | 4 หน้า |
สุดท้ายนี้ ขอเพียงเรามีความตั้งใจและเต็มที่ไปกับมัน แน่นอนว่าการเคาะตัมอัลกุรอานก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากอีกต่อไป โดยเฉพาะการใช้โอกาสของเดือนเราะมะฎอนมาเป็นช่วงเวลาที่เราจะคืนดีกับอัลกุรอาน เพราะเราไม่รู้ว่าเราะมะฎอนในปีหน้า เราจะมีโอกาสใช้ชีวิตต่อไปอีกหรือไม่
ขอการสดุดีแห่งอัลลอฮฺและความสันติสุขปลอดภัยจงมีแด่ผู้เป็นศาสนทูตที่ประเสริฐที่สุดและเป็นผู้นำของเรานั่นคือท่านนบีมุฮัมมัด และบรรดาเครือญาติตลอดจนบรรดาเศาะหาบะฮฺของท่านทุกคน
และการสรรเสริญทั้งหลายเป็นสิทธิของอัลลอฮฺ ผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก