وجوب الحذر مما يلقيه الشيطان بين المسلمين من الفتن
أعرض المحتوى باللغة الأصلية
مقالة مقتبسة ومترجمة إلى اللغة التايلندية من كتاب «الدروس اليومية من السنن والأحكام الشرعية» للشيخ راشد بن حسين العبد الكريم - حفظه الله -، ويذكر فيها أن عداوة الشيطان للإنسان ثابتة لا شك فيها، أخبر عنها الله تعالى في القرآن محذراً عباده من كيده، فهو لا يترك ما يمكن أن يلقى العداوة بين الناس إلا ويأتيه ويحرص عليه، ومن ذلك إلقاء الفتن بينهم والعداوات لما تجره من التقاطع والتدابر والتقاتل بين المسلمين.
จำเป็นต้องระวังฟิตนะฮฺที่ชัยฏอนโยนใส่พี่น้องมุสลิม
] ไทย – Thai – تايلاندي [
ดร.รอชิด บิน หุเสน อัล-อับดุลกะรีม
แปลโดย : สะอัด วารีย์
ตรวจทานโดย : ฟัยซอล อับดุลฮาดี
ที่มา : หนังสือ อัด-ดุรูส อัล-เยามียะฮฺ มิน อัส-สุนัน วะ อัล-อะห์กาม อัช-ชัรอียะฮฺ, เว็บ al-islam.com
2014 - 1435
وجوب الحذر مما يلقيه الشيطان بين المسلمين من الفتن
« باللغة التايلاندية »
د. راشد بن حسين العبد الكريم
ترجمة: سعد واري
مراجعة: فيصل عبدالهادي
المصدر: كتاب الدروس اليومية من السنن والأحكام الشرعية
موقع الإسلام www.al-islam.com
2014 - 1435
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ
จำเป็นต้องระวังฟิตนะห์ที่ชัยฏอนโยนใส่พี่น้องมุสลิม
อัลลอฮฺ ตะอาลา ตรัสว่า
﴿ وَقُل لِّعِبَادِي يَقُولُواْ ٱلَّتِي هِيَ أَحۡسَنُۚ إِنَّ ٱلشَّيۡطَٰنَ يَنزَغُ بَيۡنَهُمۡۚ ﴾ [الإسراء: ٥٣]
“และจงกล่าวแก่ปวงบ่าวของข้าที่พวกเขากล่าวแต่คำพูดที่ดียิ่งว่า แท้จริงชัยฏอนนั้นมันยุแหย่ระหว่างพวกเขา” อัลอิสรออ์ :53
ท่านญาบิร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้เล่าว่า ฉันได้ยินท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
« إِنَّ الشَّيْطَانَ قَدْ أَيِسَ أَنْ يَعْبُدَهُ الْمُصَلُّونَ فِي جَزِيرَةِ الْعَرَبِ، وَلَكِنْ فِي التَّحْرِيشِ بَيْنَهُمْ » [أخرجه مسلم]
“แท้จริงชัยฏอนมันได้หมดหวังแล้วที่จะให้บรรดาคนที่ละหมาดในคาบสมุทรอาหรับหันไปเคารพสักการะมัน แต่(ยังไม่หมดหวัง)ในการสร้างความบาดหมางในระหว่างพวกเขา” บันทึกโดยมุสลิม
ท่านญาบิร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้เล่าว่า ฉันได้ยินท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
«إِنَّ عَرْشَ إِبْلِيسَ عَلَى الْبَحْرِ، فَيَبْعَثُ سَرَايَاهُ فَيَفْتِنُونَ النَّاسَ، فَأَعْظَمُهُمْ عِنْدَهُ أَعْظَمُهُمْ فِتْنَةً » [أخرجه مسلم]
“แท้จริงบังลังก์ของอิบลิสนั้นตั้งอยู่บนทะเล และมันก็ได้ส่งไพร่พลของมันให้ออกไปสร้างความวุ่นวายกับมนุษย์ทั้งหลาย และพวกเขาที่มีบารมีที่สุด ณ ที่ของมัน(อิบลิส)ก็คือผู้ที่ก่อความวุ่นวายมากที่สุด” บันทึกโดยมุสลิม
ท่านอับดุลลอฮฺ บินมัสอูด เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้เล่าว่า ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า
« مَا مِنْكُمْ مِنْ أَحَدٍ، إِلَّا وَقَدْ وُكِّلَ بِهِ قَرِينُهُ مِنَ الْجِنِّ» قَالُوا: وَإِيَّاكَ؟ يَا رَسُولَ اللهِ قَالَ: «وَإِيَّايَ، إِلَّا أَنَّ اللهَ أَعَانَنِي عَلَيْهِ فَأَسْلَمَ، فَلَا يَأْمُرُنِي إِلَّا بِخَيْرٍ » [أخرجه مسلم]
“ไม่มีพวกท่านคนใด เว้นแต่จะมีผู้อยู่ใกล้เขาที่เป็นญินที่ถูกมอบหมายให้อยู่กับเขา” พวกเขากล่าวว่า “แล้วท่านล่ะ? ท่านเราะสูลุลลอฮฺ” ท่านก็กล่าวว่า “และฉันก็ด้วย นอกเสียจากว่า อัลลอฮฺได้ทรงช่วยเหลือฉันให้เหนือเขา เขาจึงรับอิสลาม และเขาจะไม่ใช้ฉัน(ให้ทำสิ่งใด)นอกจากให้ทำความดีเท่านั้น” บันทึกโดยมุสลิม
คำอธิบาย
ความเป็นศัตรูของชัยฏอนที่มีต่อมนุษย์นั้นได้รับการยืนยันแล้ว ไม่มีข้อสงสัยใดๆ อัลลอฮฺทรงกล่าวถึงมันไว้ในอัลกุรอานเพื่อเตือนบ่าวของพระองค์ถึงแผนการร้ายของมัน ซึ่งก็คือมันจะไม่ปล่อยสิ่งใดที่อาจก่อความบาดหมางกัน นอกจากมันจะทำและพยายามถึงที่สุดในเรื่องดังกล่าวนั้น และหนึ่งในนั้นก็คือ การก่อฟิตนะฮฺและความบาดหมางระหว่างกันที่จะส่งผลให้เกิดความแตกแยก การหันหลังให้กัน และการรบราฆ่าฟันกันในระหว่างมุสลิมด้วยกัน
ประโยชน์ที่ได้รับ
· เป็นการยืนยันถึงความเป็นศัตรูของอิบลีสที่มีต่อผู้ศรัทธา
· จำเป็นต้องระมัดระวังฟิตนะฮฺต่างๆที่จะทำให้เกิดความแตกแยกกันในระหว่างมุสลิม และต้องเร่งดับไฟของมัน เพราะมันเป็นหนึ่งในงานของชัยฏอน