บทกลอนบทกวีนั้น ส่วนดีของมันก็คือสิ่งดี ส่วนเลวร้ายก็คือสิ่งเลวร้าย และหากเป็นการเผยแพร่สิ่งดี หรือสนับสนุนให้มีคุณธรรมจริยธรรมอันดีงามก็ควรได้รับการชมเชยและส่งเสริม แต่หากเป็นการด่าทอมุสลิม ดูถูกดูแคลนพวกเขา หรือชวนให้ฝ่าฝืนคำสั่งหรือให้ปฏิบัติตนไม่ดี ก็ควรได้รับการตำหนิ และเป็นสิ่งที่ท่านเราะสูลุลลอฮฺเตือนให้ระวัง เป็นบทความจากหนังสืออัด-ดุรูส อัล-เยามียะฮฺ มิน อัส-สุนัน วะ อัล-อะห์กาม อัช-ชัรอียะฮฺ ของ ดร.รอชิด อัล-อับดุลกะรีม
บทที่กล่าวถึงบทกลอนบทกวี - (ไทย)
การยุยงให้คนอื่นทะเลาะกันหรือการยุแยงตะแคงรั่วเป็นหนึ่งในบาปใหญ่ มีความหมายคือ การนำเอาคำพูดไปบอกต่อคนอื่นๆโดยมีเจตนาร้าย การเที่ยวเดินโพนทะนานั้นถือเป็นสาเหตุใหญ่ที่สุดที่ทำให้เกิดการตัดขาดกันระหว่างผู้คน ด้วยเหตุนี้ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะสัลลัม ได้เตือนให้ระวัง และบอกกล่าวถึงบทลงโทษที่รุนแรงกับผู้ที่กระทำการนี้ เป็นบทความจากหนังสืออัด-ดุรูส อัล-เยามียะฮฺ มิน อัส-สุนัน วะ อัล-อะห์กาม อัช-ชัรอียะฮฺ ของ ดร.รอชิด อัล-อับดุลกะรีม
เตือนให้ระวังการสาปแช่ง - (ไทย)
การสาปแช่ง คือ การขับไล่และการทำให้อยู่ห่างไกลจากเมตตาของอัลลอฮฺ และการสาปแช่งคนใดเป็นการเฉพาะเป็นเรื่องอันตราย เพราะการสาปแช่งหากผู้ที่ถูกกล่าวถึงไม่สมควรได้รับมัน มันก็จะกลับไปหาคนที่แช่งมันแทน หลายคนมักจะเลินเล่อในการสาปแช่ง และเป็นเรื่องที่ต้องแสดงการรังเกียจ และเตือนให้ระวัง และไม่มักง่ายกับมัน เป็นบทความจากหนังสืออัด-ดุรูส อัล-เยามียะฮฺ มิน อัส-สุนัน วะ อัล-อะห์กาม อัช-ชัรอียะฮฺ ของ ดร.รอชิด อัล-อับดุลกะรีม
การนินทาเป็นหนึ่งในบาปใหญ่ และเป็นหนึ่งในบาปที่แพร่หลายในระหว่างผู้คนมากที่สุด อีกทั้งพวกเขาก็มักง่าย และพากันละเลยไม่แสดงการรังเกียจ ทั้งที่มันเป็นสาเหตุก่อความเป็นศัตรูต่อกัน และทำลายความเป็นปึกแผ่นของพวกเขา และเพราะความน่ารังเกียจของการนินทา อัลลอฮฺทรงเปรียบคนนินทาว่าเหมือนกับคนที่กินศพพี่น้องของเขา และบทลงโทษของคนนินทาในโลกหลุมศพคือเขาจะฉีกหน้าฉีกอกของเขาด้วยกรงเล็บที่ทำจากทองแดง เป็นบทความจากหนังสืออัด-ดุรูส อัล-เยามียะฮฺ มิน อัส-สุนัน วะ อัล-อะห์กาม อัช-ชัรอียะฮฺ ของ ดร.รอชิด อัล-อับดุลกะรีม
ห้ามการเป็นพยานเท็จ - (ไทย)
การเป็นพยานเท็จ หรือเป็นพยานโกหก ถือเป็นบาปที่ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะสัลลัม ได้เตือนประชาชาติของท่าน เพราะมันรวมเอาทั้งการโกหกที่ถือเป็นลักษณะที่น่ารังเกียจที่สุด และทั้งสิ่งที่เป็นเหตุให้มุสลิมต้องสูญเสียสิทธิไป ด้วยเหตุนี้ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะสัลลัม จึงนับเรื่องนี้เป็นหนึ่งในบาปใหญ่ที่ใหญ่ที่สุด และท่านเองทำให้ท่านสะเทือนอารมณ์มากขณะที่ท่านกล่าวเตือนบรรดาเศาะหาบะฮฺของท่าน จนกระทั้งพวกเขาพากันเป็นห่วงท่าน –ขอความพึงพอพระทัยจงมีแด่พวกท่านทั้งหลายด้วยเถิด เป็นบทความจากหนังสืออัด-ดุรูส อัล-เยามียะฮฺ มิน อัส-สุนัน วะ อัล-อะห์กาม อัช-ชัรอียะฮฺ ของ ดร.รอชิด อัล-อับดุลกะรีม
ห้ามสาบานเท็จอย่างเด็ดขาด - (ไทย)
การสาบานต่ออัลลอฮฺนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์ อัลลอฮฺทรงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพราะมันเป็นเครื่องมือทางกฎหมายประการหนึ่งที่ใช้รับรองหรือปฏิเสธสิทธิ์ต่างๆ ได้ การสาบานเท็จจึงอาจทำให้คนเราต้องสูญเสียกรรมสิทธิ์ต่างๆ อีกทั้งยังเป็นการหมิ่นเดชานุภาพของอัลลอฮฺผู้ทรงสูงส่งอีกด้วย ด้วยเหตุนี้บทลงโทษสำหรับผู้ที่โกหกในเรื่องนี้จึงเป็นบทลงโทษที่สาหัสรุนแรง เป็นบทความจากหนังสืออัด-ดุรูส อัล-เยามียะฮฺ มิน อัส-สุนัน วะ อัล-อะห์กาม อัช-ชัรอียะฮฺ ของ ดร.รอชิด อัล-อับดุลกะรีม
การอบรมลูกหลาน (4) - (ไทย)
ความยุติธรรมเป็นสิ่งที่ถูกเรียกร้องให้มีในทุกเรื่อง และเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องใช้มันในการปฏิบัติต่อลูกๆ และในการอบรมสั่งสอนพวกเขา จะได้ไม่บ่มเพาะความไม่พอใจ หรือความเกลียดชังกันในระหว่างพวกเขา ด้วยเหตุนี้ ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะสัลลัม จึงไม่ยอมเป็นสักขีพยานในการบริจาคของคนที่ไม่ให้ความเป็นธรรมในระหว่างลูกๆ และเรียกมันว่า ความไม่เป็นธรรม และท่านใช้ให้มีความยุติธรรมต่อลูกๆ และบรรดาสะลัฟเองพวกเขาก็ชอบให้ความเป็นธรรมในระหว่างลูกๆ ของพวกเขา แม้กระทั่งในเรื่องการหอมลูกก็ตาม เป็นบทความจากหนังสืออัด-ดุรูส อัล-เยามียะฮฺ มิน อัส-สุนัน วะ อัล-อะห์กาม อัช-ชัรอียะฮฺ ของ ดร.รอชิด อัล-อับดุลกะรีม ต้นฉบับเดิมจาก http://IslamHouse.com/78415
การอบรมลูกหลาน (3) - (ไทย)
ประการหนึ่งในเรื่องที่พ่อแม่หลายๆคนปล่อยปละละเลยคือ การสอนสั่ง ชี้แนะ และให้คำตักเตือนลูกๆของพวกเขา ไม่ใช่ใช้แต่วิธีรุนแรง หรือตวาดกับความผิดพลาดของพวกเขา แต่ให้เริ่มด้วยกับการแสดงความมุ่งหวังและความเป็นห่วงกังวลต่อพวกเขา เพราะเป็นทางที่จะได้รับการยอมรับที่ดีที่สุด และไม่ควรปล่อยปละละเลยพวกเขาโดยอ้างว่าพวกเขาเด็กอยู่ยังไม่เข้าใจ เป็นบทความจากหนังสืออัด-ดุรูส อัล-เยามียะฮฺ มิน อัส-สุนัน วะ อัล-อะห์กาม อัช-ชัรอียะฮฺ ของ ดร.รอชิด อัล-อับดุลกะรีม ต้นฉบับเดิมจาก http://IslamHouse.com/78415
การอบรมลูกหลาน (2) - (ไทย)
วิธีการสอนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดประการหนึ่งคือ การอบรมสั่งสอนโดยการเป็นแบบอย่างที่ดี โดยการให้พวกเขาได้เห็นลักษณะที่น่าชื่นชมที่เราต้องการสั่งสอนพวกเขา อยู่ในตัวพ่อแม่และคนรอบข้างพวกเขา และเมื่อเราต้องการเห็นเขาพูดความจริง เราก็อย่าไปโกหกเขา และเช่นกันอนุญาตให้เด็กเล็กได้เล่นสนุกสนานที่เป็นที่อนุมัติได้บ้าง เพราะจิตใจของพวกเขายังไม่ชินกับการเอาจริงเอาจัง จึงควรอนุญาตให้พวกเขาได้มีการสนุกสนาน โดยให้อยู่ในการดูแลและการมีส่วนร่วมของพ่อแม่ เป็นบทความจากหนังสืออัด-ดุรูส อัล-เยามียะฮฺ มิน อัส-สุนัน วะ อัล-อะห์กาม อัช-ชัรอียะฮฺ ของ ดร.รอชิด อัล-อับดุลกะรีม ต้นฉบับเดิมจาก http://IslamHouse.com/78415
การอบรมลูกหลาน (1) - (ไทย)
ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะสัลลัม ในการปฏิบัติต่อเด็กๆ นั้น ท่านเป็นตัวอย่างที่ดีในการอบรมเลี้ยงดูเด็กๆ ของพวกเรา และเราต้องปฏิบัติต่อลูกๆ หลานๆ ของพวกเรา เหมือนกันที่ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะสัลลัม ปฏิบัติกับลูกๆ ของบรรดาเศาะหาบะฮฺ และเราได้เห็น เช่น การหยอกล้อกับเด็กๆ การให้เกียรติพวกเขา เป็นบทความจากหนังสืออัด-ดุรูส อัล-เยามียะฮฺ มิน อัส-สุนัน วะ อัล-อะห์กาม อัช-ชัรอียะฮฺ ของ ดร.รอชิด อัล-อับดุลกะรีม ต้นฉบับเดิมจาก http://IslamHouse.com/78415
ลูกๆ นั้น เป็นความรับผิดชอบที่อยู่บนภาระรับผิดชอบของบิดาของพวกเขา และการอบรมบ่มนิสัยก็เป็นหน้าที่รับผิดชอบของเขา พวกเขาคือความรับผิดชอบของเขา และเขาจะถูกสอบถามถึงหน้าที่รับผิดชอบนั้น เป็นเรื่องจำเป็นที่เขาจะต้องคอยตักเตือนพวกเขา และต้องคอยสร้างคอยปรับ ต้องคอยสั่งสอนพวกเขาให้เป็นไปตามที่อัลลอฮฺทรงประสงค์ มันเป็นหน้าที่ที่เขาต้องทำ เป็นภาระต้นๆ ของเขา และไม่ใช่เพียงแค่การหาอาหาร เครื่องดื่ม และเสื้อผ้าให้ แล้วก็ยุ่งกับงานดุนยาจนปล่อยปละละเลยพวกเขา และหากเขาทำเช่นนั้น ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว เขาจะต้องมานั่งโศกเศร้าเสียใจในดุนยาเมื่อพวกเขาโตขึ้นมา และในวันอาคิเราะฮฺเมื่อเขาถูกถามถึงเหตุที่ปล่อยปะละเลยหน้าที่รับผิดชอบต่อพวกเขานั้น เป็นบทความจากหนังสืออัด-ดุรูส อัล-เยามียะฮฺ มิน อัส-สุนัน วะ อัล-อะห์กาม อัช-ชัรอียะฮฺ ของ ดร.รอชิด อัล-อับดุลกะรีม ต้นฉบับเดิมจาก http://IslamHouse.com/78415
ความประเสริฐของการทำหัจญ์ - (ไทย)
หัจญ์มับรูรนั้นคือหัจญ์ที่สมบูรณ์แบบ ปราศจากสิ่งที่ทำให้ผลบุญบกพร่อง มันเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและเป็นที่รักของอัลลอฮฺมากที่สุด เพราะในนั้นมีการแสดงความเป็นบ่าวของมนุษย์ต่ออัลลอฮฺในหลากหลายรูปแบบ อัลลอฮฺทรงสัญญาว่าจะตอบแทนรางวัลอย่างใหญ่หลวง และจะทรงให้อภัยต่อบาปต่างๆ จนกระทั่ง มุสลิมผู้ทำหัจญ์กลับภูมิลำเนาไปในสภาพขาวสะอาดปราศจากบาปเหมือนกับตอนที่แม่เขาเพิ่งจะคลอดเขาออกมา เป็นบทความจากหนังสืออัด-ดุรูส อัล-เยามียะฮฺ มิน อัส-สุนัน วะ อัล-อะห์กาม อัช-ชัรอียะฮฺ ของ ดร.รอชิด อัล-อับดุลกะรีม ต้นฉบับเดิมจาก http://IslamHouse.com/78415