آداب المجلس والمجالسة 03
أعرض المحتوى باللغة الأصلية
مقالة مترجمة إلى اللغة التايلندية مقتبسة من كتاب «الدروس اليومية من السنن والأحكام الشرعية» للشيخ راشد بن حسين العبد الكريم - حفظه الله -، ويذكر فيها أن من آداب المجلس الني سنها الرسول صلى الله عليه وسلم لمنع كل ما يمكن أن يسبب التباغض بين المسلمين ألا يتحدث اثنان شراً في مجلس دون الثالث، إذا لم يكن في المجلس إلا ثلاثة، كذلك نهى الرسول صلى الله عليه وسلم أن يجلس الرجل بين اثنين إلا أن يستأذنهما لأنه قد يكون بينهما أمر لا يريدان أحداً أن يطلع عليه، ومن الآداب التي يختم بها المجلس كفارة المجلس تكفر ما قد يكون فيه من صغائر الذنوب.
มารยาทในที่ชุมนุม และการนั่งรวมกัน (3)
] ไทย – Thai – تايلاندي [
ดร.รอชิด บิน หุเสน อัล-อับดุลกะรีม
แปลโดย : สะอัด วารีย์
ตรวจทานโดย : ฟัยซอล อับดุลฮาดี
ที่มา : หนังสือ อัด-ดุรูส อัล-เยามียะฮฺ มิน อัส-สุนัน วะ อัล-อะห์กาม อัช-ชัรอียะฮฺ, เว็บ al-islam.com
2014 - 1435
من آداب المجلس والمجالسة (3)
« باللغة التايلاندية »
د. راشد بن حسين العبد الكريم
ترجمة: سعد واري
مراجعة: فيصل عبدالهادي
المصدر: كتاب الدروس اليومية من السنن والأحكام الشرعية
موقع الإسلام www.al-islam.com
2014 - 1435
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ
มารยาทในที่ชุมนุม และการนั่งรวมกัน (3)
ท่านอิบนุ อุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา ได้เล่าว่า ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า
« إِذَا كَانَ ثَلَاثَةٌ، فَلَا يَتَنَاجَى اثْنَانِ دُونَ وَاحِدٍ » [أخرجه مسلم]
“เมื่ออยู่กันสามคน คนสองคนก็จงอย่ากระซิบกัน โดยไม่บอกคนที่สาม” บันทึกโดยมุสลิม
ท่านอับดุลลอฮฺ บินอัมรฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา ได้เล่าว่า ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า
« لَا يَحِلُّ لِلرَّجُلِ أَنْ يُفَرِّقَ بَيْنَ اثْنَيْنِ إِلَّا بِإِذْنِهِمَا » [أخرجه الترمذي]
“ไม่อนุญาตให้คนใดแทรกคนสองคน นอกจากได้รับอนุญาตจากคนทั้งสองเสียก่อน” บันทึกโดยอัตติรมิซียฺ
ท่านอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้เล่าว่า ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า
« مَنْ جَلَسَ فِي مَجْلِسٍ فَكَثُرَ فِيهِ لَغَطُهُ، فَقَالَ قَبْلَ أَنْ يَقُومَ مِنْ مَجْلِسِهِ ذَلِكَ: سُبْحَانَكَ اللَّهُمَّ وَبِحَمْدِكَ، أَشْهَدُ أَنْ لَا إِلَهَ إِلَّا أَنْتَ أَسْتَغْفِرُكَ وَأَتُوبُ إِلَيْكَ، إِلَّا غُفِرَ لَهُ مَا كَانَ فِي مَجْلِسِهِ ذَلِكَ » [أخرجه الترمذي]
“ผู้ใดนั่งในที่ชุมนุมแล้วได้ แล้วเขาก็พูดเอะอะโวยวายไว้มาก แล้วเขาก็ได้กล่าวก่อนที่จะลุกออกไปจากที่ชุมนุมของเขานั้นว่า
“สุบหานะกัลลอฮุมมะ วะบิหัมดิกะ อัชฮะดุอัลลาอิลาฮะอิลลาอันตะ อัสตัฆฟิรุกะ วะอะตูบะอิลัยกะ”
“มหาบริสุทธิ์แด่พระองค์ท่าน โอ้อัลลอฮฺ และด้วยการสรรเสริญพระองค์ ฉันปฏิญาณว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ท่าน ฉันขออภัยโทษต่อพระองค์ และขอสำนึกผิดกลับตัวไปสู่พระองค์”
นอกจากจะถูกอภัยให้เขาในสิ่งที่เกิดขึ้น ณ ที่ชุมนุนของเขานั้น” บันทึกโดยอัตติรมิซียฺ
คำอธิบาย
มารยาทในที่ชุมนุมประการหนึ่งที่ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะสัลลัม มีสุนนะฮฺไว้ เพื่อยับยั้งสิ่งต่างๆที่อาจเป็นสาเหตุให้เกิดความขุ่นข้องหมองใจกันในระหว่างมุสลิมด้วยกัน คือ ไม่ให้คนสองคนคุยกระซิบความลับกันโดยไม่บอกคนที่สามเมื่อในที่ชุมนุมมีเพียงสามคนเท่านั้น และเช่นกันท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะสัลลัม ได้ห้ามการที่คนๆหนึ่งจะเข้าไปนั่งแทรกคนสองคน นอกจากจะต้องขออนุญาตทั้งสองนั้นเสียก่อน เพราะบางทีทั้งสองอาจกำลังมีเรื่องที่ไม่ต้องการให้ผู้อื่นรับรู้ก็ได้ และมารยาทอีกประการหนึ่งคือให้จบการนั่งชุมนุมด้วยดุอาอ์กัฟฟาเราะฮฺ(สิ่งลบล้าง)การชุมนุม เพื่อที่จะลบล้างความผิดเล็กๆน้อยๆที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการชุมนุมได้
ประโยชน์ที่ได้รับ
· ห้ามคนสองคนคุยความลับกันโดยไม่บอกคนที่สาม(เมื่ออยู่กันสามคน)
· ห้ามนั่งแทรกคนสองคนที่นั่งกันอยู่ก่อนแล้ว นอกจากจะได้รับอนุญาตเสียก่อน
· สมควรปิดท้ายการชุมนุมด้วยดุอาอ์กัฟฟาเราะฮฺการชุมนุม