โทษต่างๆ ของยาเสพติดและสิ่งมึนเมา
หมวดหมู่
Full Description
โทษต่างๆ ของยาเสพติดและสิ่งมึนเมา
] ไทย – Thai – تايلاندي [
ดร.อะมีน บิน อับดุลลอฮฺ อัช-ชะกอวีย์
แปลโดย : อัฟนาน เพ็ชรทองคำ
ตรวจทานโดย : อัสรัน นิยมเดชา
ที่มา : หนังสือ อัด-ดุร็อรฺ อัล-มุนตะกอฮฺ มิน อัล-กะลีมาต
อัล-มุลกอฮฺ
2013 - 1434
أضرار المخدرات والمسكرات
« باللغة التايلاندية »
د. أمين بن عبدالله الشقاوي
ترجمة: أفنان بيتونكام
مراجعة: عصران نيومديشا
المصدر: كتاب الدرر المنتقاة من الكلمات الملقاة
2013 - 1434
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ
โทษต่างๆ ของยาเสพติดและสิ่งมึนเมา
มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮฺ ขอความสุขความจำเริญและศานติจงประสบแด่ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ฉันขอปฏิญาณว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺเพียงองค์เดียว ไม่มีภาคีใดๆสำหรับพระองค์ และฉันขอปฏิญาณว่ามุหัมมัดเป็นบ่าวของอัลลอฮฺและเป็นศาสนทูตของพระองค์
อัลลอฮฺตะอาลาตรัสว่า
﴿ يَٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوٓاْ إِنَّمَا ٱلۡخَمۡرُ وَٱلۡمَيۡسِرُ وَٱلۡأَنصَابُ وَٱلۡأَزۡلَٰمُ رِجۡسٞ مِّنۡ عَمَلِ ٱلشَّيۡطَٰنِ فَٱجۡتَنِبُوهُ لَعَلَّكُمۡ تُفۡلِحُونَ ٩٠ ﴾ [المائدة: ٩٠]
ความว่า “โอ้บรรดาผู้ศรัทธา แท้จริงสุราและการพนันและแท่นหินสำหรับเชือดสัตว์บูชายัญและการเสี่ยงติ้วนั้นเป็นสิ่งโสมมอันเกิดจากการกระทำของชัยฏอน ดังนั้นพวกเจ้าจงห่างไกลจากมันเสีย เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับความสำเร็จ” (อัล-มาอิดะฮฺ: 90)
จากอายะฮฺอันมีเกียรตินี้อัลลอฮฺทรงตำหนิสิ่งที่น่ารังเกียจต่างๆ ดังที่กล่าวมา และบอกว่าสิ่งเหล่านี้เป็นงานของชัยฏอนและสกปรก
ซึ่ง ‘อัล-ค็อมรฺ’ (สุรา) นั้นหมายรวมถึงทุกๆ สิ่งที่ครอบงำสติปัญญาโดยทำให้เกิดความมึนเมา
อบูมัยสะเราะฮฺ เล่าว่า ท่านอุมัร บิน อัล-ค็อฏฏอบ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ เล่าว่า เมื่ออายะฮฺเรื่องการห้ามสุราเริ่มถูกประทานลงมาท่านกล่าวว่า “โอ้อัลลอฮฺ ขอพระองค์โปรดชี้แจงข้อบัญญัติเกี่ยวกับสุราให้เป็นที่ประจักษ์ชัดเจนแก่พวกเราด้วยเถิด” จากนั้นอายะฮฺต่อไปนี้ซึ่งอยู่ในสูเราะฮฺอัล-บะเกาะเราะฮฺก็ถูกประทานลงมา
﴿ ۞يَسَۡٔلُونَكَ عَنِ ٱلۡخَمۡرِ وَٱلۡمَيۡسِرِۖ قُلۡ فِيهِمَآ إِثۡمٞ كَبِيرٞ ﴾ [البقرة: ٢١٩]
ความว่า "พวกเขาจะถามเจ้าเกี่ยวกับน้ำเมาและการพนัน จงกล่าวเถิดว่าในทั้งสองนั้นมีโทษมาก” (อัล-บะเกาะเราะฮฺ: 219)
ผู้รายงานกล่าวว่า: ท่านอุมัรจึงถูกเรียกมา และมีผู้อ่านอายะฮฺนี้ให้ท่านฟัง ท่านก็กล่าวว่า “โอ้อัลลอฮฺ ขอพระองค์โปรดชี้แจงข้อบัญญัติเกี่ยวกับสุราให้เป็นที่ประจักษ์ชัดเจนแก่พวกเราด้วยเถิด” ดังนั้นอายะฮฺในสูเราะฮฺอันนิสาอ์จึงถูกประทานลงมา อัลลอฮฺตรัสว่า
﴿ يَٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُواْ لَا تَقۡرَبُواْ ٱلصَّلَوٰةَ وَأَنتُمۡ سُكَٰرَىٰ ﴾ [النساء : ٤٣]
ความว่า "โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงอย่าเข้าใกล้การละหมาดขณะที่พวกเจ้ามึนเมาอยู่” (อัน-นิสาอ์: 43)
เมื่อถึงเวลาละหมาดผู้ประกาศของท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ก็จะกล่าวประกาศว่า “ผู้ที่เมาจงอย่าเข้าใกล้การละหมาดเด็ดขาด” ท่านอุมัรจึงถูกเรียกมา และมีผู้อ่านอายะฮฺนี้ให้ท่านฟัง ท่านกล่าวว่า “โอ้อัลลอฮฺ ขอพระองค์โปรดชี้แจงข้อบัญญัติเกี่ยวกับสุราให้เป็นที่ประจักษ์ชัดเจนแก่พวกเราด้วยเถิด” หลังจากนั้นอายะฮฺในสูเราะฮฺ อัล-มาอิดะฮฺ จึงถูกประทานลงมา ท่านอุมัรถูกเรียกมา และมีผู้อ่านอายะฮฺนี้ให้ท่านฟัง กระทั่งถึงคำดำรัสที่ว่า
﴿فَهَلۡ أَنتُم مُّنتَهُونَ ٩١ ﴾ [المائدة: ٩١]
ความว่า “แล้วพวกเจ้าจะยุติไหม” (อัล-มาอิดะฮฺ: 91)
ท่านอุมัรจึงกล่าวว่า "เรายุติแล้ว เรายุติแล้ว” (บันทึกโดยอะหมัด หมายเลขหะดีษ 378)
แน่นอนว่าทุกคนทราบดีว่าสุรา สิ่งเสพติด และสิ่งมึนเมาทั้งหลายล้วนเป็นสิ่งต้องห้าม แต่ที่ต้องพูดเกี่ยวกับหัวข้อนี้ ก็เนื่องจากข้าพเจ้าพบว่ามีรายงานหะดีษจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
« لَيَكُونَنَّ مِنْ أُمَّتِي أَقْوَامٌ يَسْتَحِلّونَ الْحِرَ والْحَرِيْرَ وَالْخَمْرَ وَالْمَعَازِفَ » [رواه البخاري برقم 5590]
ความว่า “จะมีชนบางกลุ่มจากประชาชาติของฉัน ที่จะอนุมัติการผิดประเวณี ผ้าไหม สุรา และเครื่องดนตรี” (บันทึกโดย อัล-บุคอรีย์ หมายเลขหะดีษ 5590)
คำว่า “จะอนุมัติ” ชี้ให้เห็นว่าจะมีคนบางกลุ่มไม่สนใจในสิ่งที่อัลลอฮฺทรงห้าม แต่จะทำให้สิ่งเหล่านั้นเป็นที่อนุมัติเหมือนกับการอนุมัติสิ่งที่ดีๆ
ตัวอย่างหนึ่งของการขู่สำทับอย่างรุนแรงสำหรับผู้ที่ดื่มเหล้า คือรายงานจากท่านญาบิร เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ เล่าว่ามีชายคนหนึ่งเดินทางมาจากญัยชาน (ญัยชานเป็นส่วนหนึ่งของเยเมน) แล้วถามท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ถึงเครื่องดื่มชนิดหนึ่งทำจากข้าวโพดซึ่งผู้คนในบ้านเมืองของเขานิยมดื่มกัน มีชื่อเรียกว่า ‘มิซร์’ ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จึงถามชายผู้นั้นว่า “มันเป็นสิ่งที่ทำให้มึนเมาหรือไม่?” เขากล่าวว่า “ครับ” ท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จึงกล่าวว่า
« كُلُّ مُسْكِرٍ حَرَامٌ ، إنَّ عَلى اللَّهِ عزّ وجلّ عَهْدًا لِمَنْ يَشْرَبُ الْمُسْكِرَ أَنْ يَسْقِيَهُ مِنْ طِيْنَةِ الْخَبَالِ »
ความว่า “ทุกสิ่งที่ทำให้มึนเมาเป็นสิ่งที่ต้องห้าม แท้จริงอัลลอฮฺทรงมีสัญญากับผู้ที่ดื่มสิ่งที่ทำให้มึนเมาว่าพระองค์จะให้เขาได้ดื่มฏีนะตุลเคาะบาล”
พวกเขากล่าวว่า "โอ้ ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ‘ฏีนะตุลเคาะบาล’ ที่ว่านี้คืออะไรหรือครับ?” ท่านตอบว่า
« عَرَقُ أَهْلِ النّارِ، أو عُصَارَةُ أَهْلِ النّارِ » [رواه البخاري برقم 2003]
“คือน้ำเหงื่อของชาวนรก หรือสิ่งสกปรกที่มาจากชาวนรก” (บันทึกโดย อัล-บุคอรีย์ หมายเลขหะดีษ 2003)
ท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ เล่าว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
« لاَ يَزْنِي الزَانِيْ حِيْنَ يَزْنِي وَهُوَ مُؤْمِنٌ، وَلاَ يَسْرِقُ الْسَارِقُ حِيْنَ يَسْرِقُ وَهُوَ مُؤْمِنٌ، وَلَايَشْرَبُ الْخَمْرَ حِيْنَ يَشْرَبُهَا وَهُوَ مُؤْمِنٌ » [رواه البخاري برقم 2475 ومسلم برقم 57]
ความว่า “ผู้ที่ผิดประเวณีนั้น จะไม่ผิดประเวณีในสภาพที่เขามีศรัทธา (ที่สมบูรณ์) ผู้ที่ลักขโมย จะไม่ขโมยในขณะที่เขาเป็นผู้ศรัทธา (ที่สมบูรณ์) และผู้ที่ดื่มเหล้า จะไม่ดื่มเหล้าในขณะที่เขาเป็นผู้ศรัทธา (ที่สมบูรณ์)” (บันทึกโดย อัล-บุคอรีย์ หมายเลขหะดีษ 2475 และมุสลิม หมายเลขหะดีษ 57 โดยสำนวนนี้ลเป็นของมุสลิม)
และมีรายงานจากท่าน อิบนุอุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺเล่าว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
« ثَلاثةٌ قَد حَرّمَ اللَّهُ عَلَيْهِمُ الْجَنَّةَ: مُدْمِنُ خَمْرٍ، وَالْعَاقُّ، وَالدَّيُّوثُ الَّذِي يُقِرُّ فِي أَهْلِهِ الْخَبَثَ » [رواه النسائي برقم 6113]
ความว่า "สามจำพวกที่อัลลอฮฺจะทรงให้สวรรค์เป็นที่ต้องห้ามสำหรับพวกเขา คือผู้ที่ติดเหล้า ผู้เนรคุณบิดามารดา และชายที่กลัวภรรยาจนปล่อยให้นางลุ่มหลงอยู่กับบาปความผิดและสิ่งต้องห้าม” (บันทึกโดย อัน-นะสาอีย์ หมายเลขหะดีษ 6113)
และผู้ที่ดื่มสุรานั้นจะถูกสาปแช่ง ดังมีรายงานจากอิบนุ อุมัร เล่าว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
« لَعَنَ اللَّهُ الْخَمْرَ: وَشَارِبَهَا وَسَاقِيَهَا وَبَائِعَهَا وَمُبْتَاعَهَا وَعَاصِرَهَا وَمُعْتَصِرَهَا وَحَامِلَهَا وَالْمَحْمُولَةَ إِلَيْهِ » [رواه أبو داود برقم 3674]
ความว่า "อัลลอฮฺทรงสาปแช่งสุรา รวมถึงผู้ดื่ม ผู้ริน ผู้ขาย ผู้ซื้อ ผู้หมัก ผู้ขอให้ผู้อื่นหมักให้ และผู้ที่ขอให้ผู้อื่นนำสุราไปให้” (บันทึกโดย อบูดาวูด หมายเลขหะดีษ 3674)
อัล-ค็อมรฺ หรือสุรานั้นถือเป็นตัวการสำคัญของความชั่วร้ายทั้งปวง เป็นกุญแจสู่ความเสียหายและความเสื่อมเสียทั้งนี้ อัล-ค็อมรฺ ยังมีความหมายรวมไปถึงสิ่งเสพติดทุกชนิดไม่ว่าจะเป็น กัญชา โคเคน ฝิ่น เฮโรอีน หรือยาเม็ดต่างๆ ที่ทำลายหนุ่มสาวมุสลิมในปัจจุบันนี้ โดยศัตรูได้ใช้สิ่งนี้เป็นเครื่องมือบั่นทอนกำลังของมุสลิม เพื่อให้พวกเขาห่างไกลจากศาสนา ทั้งนี้แม้กระทั่งในสังคมที่ไม่ใช่มุสลิมยาเสพติดเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่ต้องห้าม และหากใช้อย่างต่อเนื่องก็อาจะทำให้เสียสติได้ดังที่มีตัวอย่างให้เห็นมากมาย
ชัยคุลอิสลาม อิบนุตัยมิยะฮฺ กล่าวว่า “กัญชาเป็นสิ่งต้องห้าม โดยมีบทลงโทษเช่นเดียวกับบทลงโทษของผู้ที่ดื่มเหล้า เป็นสิ่งที่ชั่วร้ายยิ่งกว่าเหล้าในแง่ที่มันทำลายระบบสมองและอารมณ์ความรู้สึก จนทำให้มีอาการเฉื่อยชา สูญเสียความละอาย และก่อความเสียหายอื่นๆ อีกมากมาย”
ท่านกล่าวในบทอื่นอีกว่า "กัญชาเป็นสิ่งที่ถูกสาปแช่ง ผู้ที่เสพและผู้ที่ทำให้มันเป็นสิ่งที่อนุญาตจะต้องเผชิญกับความโกรธกริ้วจากอัลลอฮฺเราะสูล และบรรดาบ่าวผู้ศรัทธา ทั้งยังนำไปสู่การลงโทษของอัลลอฮฺ มันสร้างความเสียหายต่อศาสนา สติปัญญามารยาท และอุปนิสัยพื้นฐานของผู้เสพ ทำลายความรู้สึกผิดชอบชั่วดีจนหลายคนกลายเป็นคนบ้าเสียสติ กัญชายังทำให้ผู้เสพตกอยู่ในสภาพที่ตกต่ำไร้เกียรติ ตลอดจนผลเสียอื่นๆ ซึ่งถือว่าร้ายแรงยิ่งกว่าเหล้าเสียด้วยซ้ำ เพราะผลเสียจากกัญชานั้นมีมากกว่าผลเสียจากเหล้า จึงสมควรที่จะเข้าข่ายสิ่งต้องห้าม (หะรอม) อย่างไม่ต้องสงสัย บรรดามุสลิมเห็นพ้องต้องกันว่าสิ่งมึนเมานั้นเป็นสิ่งต้องห้าม และผู้ใดที่อนุมัติสิ่งดังกล่าว และกล่าวอ้างว่ามันเป็นที่อนุมัติ จำเป็นจะต้องขอให้เขากลับเนื้อกลับตัว ถ้าเขากลับตัวก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าไม่ก็จะต้องถูกประหารชีวิตในโทษฐานที่ออกนอกศาสนาทั้งนี้ไม่ต้องละหมาดให้แก่เขา ไม่ฝังในสุสานที่ฝังศพของมุสลิม นอกจากนี้ยังเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ว่าเหล้าแม้ปริมาณเล็กน้อยก็ถือเป็นสิ่งที่ต้องห้ามเช่นเดียวกัน ดังปรากฏหลักฐานจากตัวบทต่างๆ ที่ชี้ชัดถึงการห้ามสุรา และทุกๆ สิ่งที่ทำให้มึนเมา” (หนังสืออัล-ฟะตาวา เล่ม 34 หน้า 213 โดยย่อ)
นักกวีท่านหนึ่งกล่าวว่า:
“จงบอกแด่ผู้เสพกัญชาอย่างโง่เขลา ท่านใช้ชีวิตมัวเมาเสพมันและโสมม
ค่าของคนนั้นดั่งพลอยแต่ทำไม
ถึงขายไปด้วยเศษหญ้า โอ้สหายเอ๋ย!”
ก็อยสฺ บิน อาศิม กล่าวว่า:
“ฉันมองเห็นประโยชน์ของสุรา
แต่เห็นว่ามีข้อเสียต่อผู้ที่เคยสุขุม
ดังนั้นขอสาบานว่าฉันจะไม่ดื่มยามปกติ
และไม่ริใช้เป็นยายามเจ็บป่วย
ฉันไม่ยอมเอาชีวิตไปแลกกับสิ่งนี้
และจะไม่เรียกหามันยามเศร้าใจ
แท้จริงสุราสร้างความอับอายแก่ผู้ดื่ม
และนำมาซึ่งความเดือดร้อนมากมาย”
ส่วนโทษภัย โศกนาฏกรรม และเรื่องเศร้าที่เกิดขึ้นเพราะสิ่งเสพติดและสิ่งมึนเมานั้นก็เป็นที่ทราบกันดีแล้ว อีกทั้งท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ยังห้ามการรักษาด้วยสุราและสิ่งที่เสพติดสิ่งมึนเมาทั้งหลาย เพราะอัลลอฮฺไม่ทรงทำให้สิ่งที่รักษาเรามาจากสิ่งที่พระองค์ทรงห้ามแก่เรา
มีรายงานจากฏอริก บิน สุวัยดฺ ว่าเขาได้ถามท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เกี่ยวกับสุรา แล้วท่านห้ามเขาหรือไม่ชอบที่จะให้เขาผลิตมัน เขาจึงกล่าวว่า “แต่ฉันผลิตมันเพื่อการรักษา” ท่านนบีกล่าวตอบว่า
« إِنَّهُ لَيْسَ بِدَوَاءٍ ، وَلَكِنَّهُ دَاءٌ » [رواه مسلم برقم 1984]
ความว่า “มันไม่ใช่สิ่งรักษาโรคแต่มันเป็นโรคต่างหาก” (บันทึกโดย มุสลิม หมายเลขหะดีษ 1984)
อับดุล อะซีซ บิน อบี เราะวาด เล่าว่า “ฉันไปหาชายคนหนึ่งขณะที่เขาใกล้จะสิ้นลม มีผู้พยายามให้เขากล่าวชะฮาดะฮฺแต่เขาก็ไม่ยอมกล่าวแต่กลับกล่าวว่าเขาปฏิเสธต่อคำชะฮาดะฮฺนั้น ฉันจึงถามข้อมูลเกี่ยวกับเขา และพบว่าเขาเป็นคนที่ติดสุรา”
ข้าพเจ้าขอจบด้วยการเตือนถึงอมานะฮฺ และความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ที่ส่งตรงถึงบิดามารดาและผู้มีความรับผิดชอบทั้งหลาย แท้จริงฟิตนะฮฺนี้เกิดขึ้นมากมายและแพร่หลายแม้กระทั่งในประเทศมุสลิมเอง กระทั่งรัฐบาลและประเทศต่างๆ ต้องจัดให้มีคลินิกและโรงพยาบาลเพื่อกรณีนี้เป็นการเฉพาะ
ทั้งนี้เป็นที่ชัดเจนว่าสาเหตุสำคัญของการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและสิ่งมึนเมาทั้งหลาย เกิดจากการละเลยของผู้ปกครองไม่ว่าจะเป็นบิดาหรือมารดา ในการดูแลบุตรหลาน การอบรมเลี้ยงดูที่ขาดการเอาใจใส่ และปล่อยโอกาสให้เขาได้มีเพื่อนที่ไม่ดีซึ่งคอยชักชวนในทางที่ชั่วช้า ดังนั้นจึงพึงระวังเรื่องดังกล่าว และจงทำสิ่งที่เป็นสาเหตุสู่การรอดพ้น
والحمد لله رب العالمين،
وصلى الله وسلم على نبينا محمد، وعلى آله وصحبه أجمعين.