الحج مدرسة عظيمة
أعرض المحتوى باللغة الأصلية
مقالة مترجمة إلى اللغة التايلاندية مقتبسة من كتاب: «دروس عقدية مستفادة من الحج» للشيخ عبدالرزاق بن عبد المحسن العباد البدر - حفظه الله - وهي مقدمة وبيان في عظمة الحج، حيث لا ریب أن الحج من أفضل الطاعات وأجلِّ القُرُبات التي یتقرَّب بھا المسلم إلى ربِّھم تعالى، بل ھو عبادةٌ من العبادات التي افترضھا الله وجعلھا إحدى الدعائم الخمس التي یرتكز علیھا الدینُ الإسلاميُّ الحنیف.
หัจญ์ คือโรงเรียนอันยิ่งใหญ่
] ไทย – Thai – تايلاندي [
อับดุรร็อซซาก บิน อับดุลมุหฺสิน อัล-บัดรฺ
แปลโดย : อันวา สะอุ
ตรวจทานโดย : อุษมาน อิดรีส
ที่มา : เว็บไซต์เชคอับดุลร็อซซาก อัลบัดรฺ http://www.al-badr.net
2013 - 1434
الحج مدرسة عظيمة
« باللغة التايلاندية »
عبدالرزاق بن عبدالمحسن البدر
ترجمة: أنور إسماعيل
مراجعة: عثمان إدريس
المصدر: موقع الشيخ عبد الرزاق البدر http://www.al-badr.net
2013 - 1434
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ
บทเรียนด้านหลักศรัทธาจากการทำหัจญ์
(ตอนที่ 1)
มวลการสรรเสริญเป็นเอกสิทธิ์ของอัลลอฮฺ ผู้อภิบาลแห่งสากลโลก และพรอันประเสริฐ ความศานติจงประสบแด่ นบีผู้ประเสริฐที่สุด และผู้นำบรรดาศาสนทูต นบีมูหัมหมัด ตลอดจนบรรดาวงศ์วานและมิตรสหายของท่าน
แท้จริง หัจญ์เป็นโรงเรียนขัดเกลาความศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ บรรดามุสลิมจะได้รับบทเรียนจากหัจญ์ ประโยชน์ และประสบการณ์ ในด้านต่างๆมากมายครอบคลุมทุกมิติของศาสนา ไม่ว่าจะเป็นด้านหลักศรัทธา การประกอบศาสนากิจ และความประพฤติ ฯลฯ แต่ละคนจะได้รับประโยชน์จากหัจญ์ที่แตกต่างกันไป ตามพลังความพยายามและการแสวงหาที่ดีของแต่ละคน ส่วนทางนำนั้นอยู่พระหัตถ์ของอัลลอฮฺแต่เพียงพระองค์เดียว
ดังนั้นข้าพเจ้าเห็นว่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งหากมีการรวบรวมบทเรียนอันยิ่งใหญ่ที่ได้รับจากการประกอบพิธีหัจญ์ โดยเฉพาะในด้านหลักศรัทธา เนื่องจากความศรัทธาคือฐานรากของการงานทุกอย่าง และทุกสิ่งที่เกี่ยวกับศาสนาถูกสร้างขึ้นมาบนฐานของความศรัทธา ซึ่งเป็นเพียงการชี้ให้เห็นถึงบทเรียนบางส่วนเท่านั้น เนื่องจากบทเรียนที่มุสลิมได้รับจริงจากหัจญ์นั้นมีมากมายจนนับไม่ถ้วน
ข้าพเจ้าได้รวบรวมบทเรียนจำนวนทั้งหมด 13 บท โดยคำนึงถึงความใกล้เคียงกันของขนาดข้อมูลแต่ละบท และแนวทางการนำเสนอ ข้าพเจ้าขอวิงวอนต่ออัลลอฮฺให้พระองค์ทำให้ความพยายามของข้าพเจ้าครั้งนี้เป็นประโยชน์ และขอพระองค์ทรงตอบรับการงานชิ้นนี้ของข้าพเจ้าด้วยเทอญ
บทเรียนที่ 1
หัจญ์ คือโรงเรียนขัดเกลาจิตใจที่ยิ่งใหญ่
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหัจญ์นั้นเป็นการภักดีต่ออัลลอฮประเภทหนึ่งที่ประเสริฐที่สุดที่มุสลิมจะได้ทำความใกล้ชิดกับพระผู้เป็นเจ้าของเขา เพราะหัจญ์เป็นหนึ่งในบรรดาอิบาดะฮฺที่อัลลอฮได้บัญชาให้ปฏิบัติ และกำหนดให้หัจญ์เป็นหนึ่งในบรรดาเสาหลักของศาสนาอิสลามที่มีทั้งหมดห้าประการ ซึ่งท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้อธิบายไว้ในหะดีษเศาะฮีหฺว่า
«بُنِيَ الإِسْلاَمُ عَلَى خَمْسٍ شَهَادَةِ أَنْ لاَ إِلَهَ إِلاَّ اللَّهُ وَأَنَّ مُحَمَّدًا رَسُول الله وَإِقَامِ الصَّلاَةِ وَإِيتَاءِ الزَّكَاةِ وَصَيامِ رَمَضَانَ وَحَجِّ الْبَيْتِ» [أخرجه البخاري رقم: ٨، ومسلم برقم: ١٦]
ความว่า "อิสลามนั้นตั้งอยู่บนหลักการห้าประการ คือการปฏิญาณตนว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่ควรเคารพนอกจากอัลลอฮฺ และมุหัมหมัดคือศาสนทูตของอัลลอฮฺ การดำรงไว้ซึ่งการละหมาด การจ่ายซะกาต การถือศีลอดในเดือนรอมฎอน และการทำหัจญ์ ณ บัยติลละฮฺ" (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ หมายเลขหะดีษ : 8 และมุสลิม หมายเลขหะดีษ : 16 )
มีหะดีษฺเศาะฮีหจำนวนมากที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้ส่งเสริมให้ประชาชาติของท่านประกอบพิธีหัจญ์ พร้อมกับชี้แจงให้พวกเขาทราบถึงสิ่งต่างๆที่พวกเขาสามารถจะกอบโกยในช่วงประกอบพิธีหัจญ์ ทั้งการตอบแทนอันยิ่งใหญ่ ผลบุญอันมากมาย และการอภัยโทษจากปวงบาป
อิมามมุสลิมได้บันทึกหะดีษบทหนึ่งในตำราหะดีษเศาะฮีหฺของท่าน ว่าท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวแก่อัมรฺ เบ็น อัล-อาศ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ เมื่อตอนที่เขาจะเข้ารับอิสลาม ว่า
«أَمَا عَلِمْتَ أَنَّ الْإِسْلَامَ يَهْدِمُ مَا كَانَ قَبْلَهُ وَأَنَّ الْهِجْرَةَ تَهْدِمُ مَا كَانَ قَبْلَهَا وَأَنَّ الْحَجَّ يَهْدِمُ مَا كَانَ قَبْلَه» [ صحيح مسلم برقم: ١٢١]
ความว่า “ท่านไม่ทราบดอกหรือ (โอ้ อัมรฺ) ว่าอิสลามจะขจัดความผิดและบาปต่างๆที่ได้กระทำไว้ก่อนหน้านั้น การอพยพจะขจัดความผิดและบาปต่างๆที่ได้กระทำไว้ก่อนหน้านั้น และการทำหัจญ์ก็จะขจัดความผิดและบาปต่างๆที่ได้กระทำไว้ก่อนหน้านั้น” (บันทึกโดยมุสลิม หมายเลขหะดีษ : 121 )
และอัล-บุคอรีย์ และมุสลิม ได้บันทึก หะดีษที่รายงานโดย อบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลลอฮุอันฮฺ ว่า ท่านศาสนทูตของอัลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า
«مَنْ حَجَّ ، فَلَـمْ يَرْفُثْ وَلَـمْ يَفْسُقْ، رَجَعَ كَيَومِ وَلَدَتْـهُ أُمُّهُ» [صحيح البخاري رقم: ١٥٢١، ومسلم رقم: ١٣٥٠]
ความว่า “ผู้ใดประกอบพิธีหัจญ์ โดยที่เขาไม่พูดจาหยาบโลน (หรือมีเพศสัมพันธ์) และไม่กระทำบาปความผิดใดๆ เขาจะกลับ (จากการทำหัจญ์ในสภาพที่ปราศจากบาป) ประดุจวันที่มารดาของเขาคลอดเขาออกมา” (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ หมายเลขหะดีษ : 1521 และมุสลิม หมายเลขหะดีษ : 1350 )
และมุสลิม ได้บันทึก หะดีษที่รายงานโดย อบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลลอฮุอันฮฺ ว่า ท่านศาสนทูตของอัลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า
«العُمْرةُ إلى العُمْرةِ كفَّارةٌ لِما بَيْنَهُمَا والحجُّ المبْرورُ ليسَ لَهُ جَزَاءٌ إلا الجنَّة» [صحيح مسلم رقم: ١٣٤٩]
ความว่า “การไปทำพิธีอุมเราะฮฺจากครั้งหนึ่งไปยังอีกครั้งหนึ่งเป็นการชำระบาปที่ได้กระทำผิดในช่วงระหว่างทั้งสองนั้นและหัจญ์ที่มับรูรนั้นไม่มีการตอบแทนใดๆ นอกจากสวนสวรรค์เท่านั้น” (บันทึกโดยมุสลิม หมายเลขหะดีษ : 1349 )
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้ประกอบพิธีหัจญ์พร้อมกับบรรดาผู้คนในปีฮิจญ์เราะฮฺศักราชที่ 10 ซึ่งเป็นหัจญ์ที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้วางรูปแบบและวิธีการประกอบพิธีหัจญ์ด้วยการปฏิบัติจริงสำหรับประชาชาติของท่านเรียบร้อยครบถ้วนแล้ว และท่านยังได้เรียร้องให้ประชาชาติของท่านทำการศึกษาศึกษาถึงรูปแบบและวิธีการต่างๆในการทำหัจญ์ตามที่ท่านได้ทำไว้เป็นแบบอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการกระทำหรือคำกล่าวต่างๆ ดังที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า
«خُذُوْا عَنِّي مَنَاسِكَكُمْ فَلَعَلِّي لَا أَلْقَاكُمْ بَعْدَ عَامِيْ هَذَا» [صحيح مسلم رقم: ١٢٩٧]
ความว่า "พวกท่านจงยึดเอาแบบอย่างการบำเพ็ญหัจญ์ของพวกท่านจากฉัน เพราะฉันเกรงว่าจะไม่มีโอกาสได้มาพบกับพวกท่านอีกหลังจากปีนี้" (บันทึกโดยมุสลิม หมายเลขหะดีษ : 1297)
ดังนั้นการประกอบพิธีหัจญ์ของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ในครั้งนั้นจึงถูกเรียกว่า “ฮัจญะฮฺ อัล-วะดาอ์” (หัจญ์แห่งการอำลา) ในพิธีหัจญ์ครั้งนั้น อัลลอฮฺได้ประทานโองการหนึ่ง พระองค์ตรัสว่า
﴿ٱلۡيَوۡمَ أَكۡمَلۡتُ لَكُمۡ دِينَكُمۡ وَأَتۡمَمۡتُ عَلَيۡكُمۡ نِعۡمَتِي وَرَضِيتُ لَكُمُ ٱلۡإِسۡلَٰمَ دِينٗاۚ﴾ [المائدة: ٣]
ความว่า “วันนี้ข้าได้ให้ศาสนาของพวกเจ้าสมบูรณ์แล้วแก่พวกเจ้า และข้าได้ให้ความกรุณาเมตตาของข้าแก่พวกเจ้าอย่างครบถ้วนแล้ว และข้าได้พอใจให้อิสลามเป็นศาสนาของพวกเจ้า” (อัล-มาอิดะฮฺ : 3 )
มุสลิมทุกคนที่เดินทางไปประกอบพิธีหัจญ์จำเป็นต้องพยายามอย่างสุดความสามารถในการทำความเข้าใจกับรูปแบบและวิธีการประกอบพิธีหัจญ์ดังที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้ปฏิบัติไว้เป็นแบบฉบับ เพื่อให้สามารถดำเนินการตามแบบอย่างของท่าน แล้วเราจะได้ประกอบพิธีหัจญ์อย่างถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ เพราะการงานทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการประกอบศาสนกิจจะถือว่าไม่สมบูรณ์ ยกเว้นเมื่อการงานนั้นได้ปฏิบัติถูกต้องตรงกับแบบฉบับของท่านศาสนทูตของอัลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม
ไม่เป็นที่สงสัยเลยว่าในช่วงเวลาอันจำเริญนี้จิตใจของชาวมุสลิมทุกคนในโลกใบนี้จะเคลื่อนไหว ด้วยความถวิลหาที่จะปฏิบัติการภักดีอันยิ่งใหญ่นี้ มุ่งมั่นที่จะให้ได้รับหัจญ์ที่ประเสริฐ และปรารถนาที่จะได้เชยชมบัยตุลลอฮฺ(บ้านของอัลลอฮฺ) เนื่องเพราะชาวมุสลิมทุกคนต่างมีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับบัยตุลลอฮฺ ณ แผ่นดินอัล-หะรอม ความรู้สึกดังกล่าวมีมาตั้งแต่ที่มุสลิมเข้ารับนับถือศาสนาอิสลาม และความรู้สึกนี้จะคงฝังอยู่ในจิตวิญญาณของมุสลิมทุกคนตราบใดที่เขายังมีลมหายใจอยู่ ดังนั้นข้อบังคับอิสลามลำดับแรกที่จะถูกกรอกหูเด็กที่เกิดในอิสลามคือหลักการอิสลามห้าประการ ซึ่งหนึ่งในห้าหลักการนั้นคือการประกอบพิธีหัจญ์ ณ บัยติลละฮฺ รวมอยู่ด้วย ส่วนผู้ปฏิเสธศรัทธาเมื่อเข้ารับอิสลาม และได้กล่าวปฏิญาณตนว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่ควรเคารพนอกจากอัลลอฮฺและมุหัมหมัดคือศาสนทูตของพระองค์แล้ว ข้อบังคับอิสลามประการแรกที่เขาต้องปฏิบัติคือหลักการอิสลามที่เหลือหลังจากกล่าวคำปฏิญาณตน นั่นคือ การดำรงละหมาด การจ่ายซะกาต การถือศีลอดในเดือนรอมฎอน และการประกอบพิธีหัจญ์ ณ บัยติลละฮฺ อัล-หะรอม
และหลักการอิสลามข้อแรกหลังจากการกล่าวปฏิญาณตน คือการดำรงละหมาดห้าเวลา ซึ่งอัลลลอฮฺได้บัญญัติไว้ในทุกวันคืน และพระองค์ได้กำหนดให้การผินหน้าไปยังทิศกิบละฮฺ (บัยติลละฮฺ) เป็นเงื่อนไขหนึ่งของการละหมาด พระองค์ตรัสว่า
﴿ قَدۡ نَرَىٰ تَقَلُّبَ وَجۡهِكَ فِي ٱلسَّمَآءِۖ فَلَنُوَلِّيَنَّكَ قِبۡلَةٗ تَرۡضَىٰهَاۚ فَوَلِّ وَجۡهَكَ شَطۡرَ ٱلۡمَسۡجِدِ ٱلۡحَرَامِۚ وَحَيۡثُ مَا كُنتُمۡ فَوَلُّواْ وُجُوهَكُمۡ شَطۡرَهُۥۗ﴾ [البقرة: ١٤٤]
ความว่า “แท้จริงเราเห็นใบหน้าของเจ้าแหงนไปในฟากฟ้าบ่อยครั้ง แน่นอนเราจะให้เจ้าผินไปยังทิศที่เจ้าพึงใจ ดังนั้นเจ้าจงผินใบหน้าของเจ้าไปทางมัสยิดอัล-หะรอมเถิด และที่ใดก็ตามที่พวกเจ้าปรากฏอยู่ ก็จงผินใบหน้าของพวกเจ้าไปทางทิศนั้น” (อัล-บะเกาะเราะฮฺ : 144 )
ดังนั้นความสัมพันธ์ของมุสลิมกับบัยติลละฮฺนั้นจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกวันและคืน ซึ่งเขาต้องผินหน้าไปยังบัยติลละฮฺในทุกเวลาที่เขาดำรงละหมาดตราบใดที่เขายังมีความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นละหมาดฟัรฎูหรือสุนัต เช่นเดียวกับเวลาที่เขาขอดุอาอ์ (วิงวอนต่ออัลลอฮฺ) ก็จะผินหน้าสู่กิบละฮฺเช่นกัน (โปรดดูหนังสือ เกาะบัส มิน ฮัดยิ อัล-อิสลาม หน้า : 128-133 หัวข้อ ประโยชน์ของหัจญ์ โดยบิดาของผู้แต่งเอง-ชัยคฺอับดุลมุหฺสิน อัล-อับบาด)
ดังนั้นความสัมพันธ์อันแนบแน่นที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องระหว่างหัวใจของมุสลิมและบ้านของพระผู้เป็นเจ้า จะผลักดัน –อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้- ให้มุสลิมเกิดความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเดินทางไปยังบัยติลละฮฺ (แม้สักครั้งหนึ่งในชีวิต) เพื่อที่ได้สัมผัสและเชยชมบ้านของอัลลอฮฺด้วยสายตาของตนเอง และเพื่อประกอบพิธีหัจญ์ตามคำสั่งของอัลลอฮฺเมื่อมีความสามารถที่จะเดินทางไปถึง ดังนั้นเมื่อใดที่มุสลิมคนใดมีความสารถที่จะเดินทางไประกอบพิธีหัจญ์ เขาก็จะรีบเดินทางไปยังบัยติลละฮฺ เพื่อประกอบพิธีหัจญ์ และเชยชมบัยติลละฮฺทเขาจะผินหน้าไปหามันในทุกเวลาละหมาดของเขา
﴿ فِيهِ ءَايَٰتُۢ بَيِّنَٰتٞ مَّقَامُ إِبۡرَٰهِيمَۖ ﴾ [آل عمران: ٩٧]
ความว่า “ในบ้านนั้น (บัยติลละฮฺ) มีหลายสัญญาณที่ชัดแจ้ง (ส่วนหนึ่งนั้น) คือมะกอมอิบรอฮีม” (อาล อิมรอน :97)
ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของท่าน โอ้พี่น้องผูประกอบพิธีหัจญ์ที่จะต้องกล่าวสรรเสริญอัลลอฮฺให้มากในความโปรดปรานอันยิ่งใหญ่ที่พระองค์ได้มอบให้กับท่าน ด้วยการอนุมัติให้ท่านได้ประกอบการภักดีประเภทในครั้งนี้ (ประกอบพิธีหัจญ์) และเดินทางไปปฎิบัติอิบาดะฮฺดังกล่าว และได้รับเกียรติด้วยการเชยชมบัยติลละฮฺ ทิศกิบละฮฺของบรรดามุสลิมทั่วโลก และท่านต้องทุ่มเทความพยายามอย่างเต็มทีเพื่อให้การประกอบพิธีหัจญ์ของท่านเสร็จสิ้นในรูปแบบที่สวยงาม ถูกต้องและสมบูรณ์ที่สุด ไม่มีขาดตก หรือบกพร่องใดๆ ไม่เคร่งครัดจนเกินขอบเขตและไม่หย่อนยานจนละเลยไป แต่การประกอบพิธีหัจญ์ของท่านต้องดำเนินอยู่บนทางนำอันเรียบง่าย และเส้นทางอันเที่ยงตรง ปฏิบัติตาม(แบบอย่างการประกอบพิธีหัจญ์) ที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้ปฏิบัติไว้เป็นแบบอย่าง โดยท่าน (ต้องตั้งเจตนาในการประกอบพิธีหัจญ์ของท่าน) เพื่อคาดหวังในความพอพระทัยของอัลลอฮฺ เพื่อให้ได้รับผลบุญ และการอภัยโทษจากพระองค์ เพื่อที่ท่านจะได้เดินทางกลับไปยังภูมิลำเนาของท่านหลังจากการเดินทางอันเป็นมงคลนี้ในสภาพที่ปลอดจากปวงบาป การแสวงหาที่ได้รับการขอบคุณ และอะมัลศอลิหฺที่ถูกตอบรับและได้รับหัจญ์มับรูรฺ และเดินทางกลับพร้อมกับชีวิตใหม่ที่ศอลิหฺ เต็มเปี่ยมด้วยศรัทธาและความยำเกรง อุดมด้วยความดีงาม และดำรงอยู่บนแนวทางอันเที่ยงตรง เพียบพร้อมด้วยความมุ่งมั่น และเพียรมานะในการภักดีต่ออัลลลอฮอย่างสม่ำเสมอ
หัจญ์เป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่สำหรับเก็บตุนเสบียงสำหรับวันอาคิเราะฮฺ ด้วยการเตาบะฮฺ (ขออภัยโทษ ต่ออัลลอฮฺ กลับตัวสู่พระองค์ หมั่นทำการ ภักดีต่อพระองค์ และแสวงหาความพอพระทัยจากพระองค์
ในช่วงระหว่างการประกอบพิธีหัจญ์ผู้ประกอบพิธีหัจญ์จะมีโอกาสมากมายที่จะได้รับบทเรียนอันเป็นประโยชน์ ทั้งในเรื่องหลักศรัทธาและการประกอบศาสนกิจและมารยาท เริ่มจากการงานแรกที่ผู้ประกอบพิธีหัจญ์ต้องปฏิบัติ ณ มีกอต (สถานที่เริ่มต้นตั้งเจตนาและครองผ้าอิหฺรอม) จนกระทั้งการงานสุดท้ายของหัจญ์คือการเวียนรอบกะอฺบะฮฺเจ็ดเที่ยวเพื่อเป็นการอำลา (เฏาะวาฟ วะดาอ์) บัยติลละฮฺ
หัจญ์คือโรงเรียนสำหรับขัดเกลาความศรัทธาที่แท้จริง ซึ่งได้ผลิตบรรดาผู้ศรัทธาที่มีความยำเกรง ดังนั้นพวกเขาจึงได้พบเห็นผลประโยชน์อันยิ่งใหญ่ บทเรียนที่หลากหลาย และคำตักเตือนที่ฝังใจตลอดช่วงการประกอบพิธีหัจญ์ทำให้จิตวิญญาณของเขากลับมีชีวิตชีวาขึ้นมาใหม่ และเพิ่มความเข้มแข็งให้กับการศรัทธา พระองค์ตรัสว่า
﴿ وَأَذِّن فِي ٱلنَّاسِ بِٱلۡحَجِّ يَأۡتُوكَ رِجَالٗا وَعَلَىٰ كُلِّ ضَامِرٖ يَأۡتِينَ مِن كُلِّ فَجٍّ عَمِيقٖ ٢٧ لِّيَشۡهَدُواْ مَنَٰفِعَ لَهُمۡ﴾ [الحج: ٢٧- ٢٨]
ความว่า “และจงประกาศแก่มนุษย์ทั่วไปเพื่อการทำหัจญ์ แล้วพวกเขาจะเดินทางไปหาเจ้าโดยทางเท้า และโดยทางอูฐเพรียวทุกตัว จะมาจากทางไกลทุกทิศทาง เพื่อพวกเขาจะได้มาร่วมเป็นพยานในผลประโยชน์ของพวกเขา” (อัล-หัจญ์ : 27-28)
ประโยชน์ของหัจญ์นั้นมีมากมายนับไม่ถ้วน บทเรียนที่เป็นประโยชน์มีมากมายไร้ขีดจำกัด ซึ่งต่อไปนี้ข้าพเจ้าจะได้บรรยายผ่านหนังสือเล่มเล็กฉบับนี้ ถึงคุณประโยชน์ต่างๆที่จะได้รับในการประกอบพิธีหัจญ์ ณ บัยติลละฮฺ แผ่นดินอัล-หะรอม ด้วยความอนุมัติและพระประสงค์ของอัลลอฮฺ และอัลลอฮฺเท่านั้นผู้ทรงประทานทางนำ
จากหนังสือ