translation ผู้เขียน : อะมีน บิน อับดุลลอฮฺ อัช-ชะกอวีย์
1

ความพึงพอใจ

239.3 KB PDF
2

ความพึงพอใจ

592 KB DOC

الكلام عن القناعة، معناه وحقيقته وأهميته وبعض النماذج من السلف الصالح في ذلك، وهي مقالة مختصرة مقتبسة من كتاب الدرر المنتقاة من الكلمات الملقاة للشيخ الدكتور أمين بن عبدالله الشقاوي

    ดวามพึงพอใจ

    ﴿القناعة﴾

    ] ไทย – Thai – تايلاندي [

    ดร.อะมีน บิน อับดุลลอฮฺ อัช-ชะกอวีย์

    แปลโดย : นะอีม วงศ์เสงี่ยม

    ผู้ตรวจทาน : ฟัยซอล อับดุลฮาดีย์

    ที่มา : หนังสือ อัด-ดุร็อรฺ อัล-มุนตะกอฮฺ มิน อัล-กะลีมาต อัล-มุลกอฮฺ

    2011 - 1432

    ﴿القناعة﴾

    « باللغة التايلاندية »

    د. أمين بن عبدالله الشقاوي

    ترجمة: نعيم وونج سغيام

    مراجعة: فيصل عبد الهادي

    المصدر: كتاب الدرر المنتقاة من الكلمات الملقاة

    2011 - 1432

    ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ

    ความพึงพอใจ

    มวลการสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ การขอพรและความสันติสุขจงมีแด่เราะสูลของอัลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ฉันขอปฏิญาณตนว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺเพียงองค์เดียวไม่มีภาคีใดๆ สำหรับพระองค์ และฉันขอปฏิญาณตนว่ามุฮัมมัดนั้นเป็นบ่าวและเราะสูลของพระองค์

    คุณลักษณะหนึ่งที่น่าสรรเสริญซึ่งอัลลอฮฺและเราะสูลของพระองค์ส่งเสริมให้มีคือ “ความพึงพอใจ”

    อัร-รอฆิบ กล่าวว่า : ความพึงพอใจคือการเพียงพอเพียงน้อยนิดจากบรรดาวัตถุหรือปัจจัยต่างๆ ที่มีความจำเป็น[1]

    อัลลอฮฺ ตะอาลา ตรัสว่า :

    ﭽ ﮟ ﮠ ﮡ ﮢ ﮣ ﮤ ﮥ ﮦ ﮧﮨ ﮩ ﮪ ﮫ ﮬﮭ ﮮ ﮯ ﮰ ﮱﯓ ﯔ ﯕ ﯖ ﯗﯘ ﯙ ﯚ ﯛ ﯜ ﯝ ﯞ ﯟ ﭼ

    ความว่า: และจงอย่าปรารถนาในสิ่งที่อัลลอฮฺได้ทรงให้แก่บางคนในหมู่พวกเจ้าเหนือกว่าอีกบางคน สำหรับผู้ชายนั้นมีส่วนได้รับจากสิ่งที่พวกเขาได้ขวนขวายไว้ และสำหรับหญิงนั้นก็มีส่วนได้รับจากสิ่งที่พวกนางได้ขวนขวายไว้ และพวกเจ้าจงขอต่ออัลลอฮฺเถิด จากความกรุณาของพระองค์แท้จริงอัลลอฮฺทรงรอบรู้ในทุกสิ่งทุกอย่าง”[2]

    อัลลอฮฺ ตะอาลา ตรัสอีกว่า :

    ﭽ ﮉ ﮊ ﮋ ﮌ ﮍ ﮎ ﮏ ﮐ ﮑ ﮒ ﮓ ﮔﮕ ﮖ ﮗ ﮘ ﮙ ﮚ ﮛ ﮜ ﭼ

    ความว่า: ผู้ใดปฏิบัติความดีไม่ว่าจะเป็นเพศชายหรือเพศหญิงก็ตาม โดยที่เขาเป็นผู้ศรัทธา ดังนั้นเราจะให้เขาดำรงชีวิตที่ดีและแน่นอนเราจะตอบแทนพวกเขาซึ่งรางวัลของพวกเขาที่ดียิ่งกว่าที่พวกเขาได้เคยกระทำไว้”[3]

    อะลี เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ กล่าวว่า : “ชีวิตที่ดีคือชีวิตที่มีความพึงพอใจ”[4]

    รายงานจากอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า :

    «لَيْسَ الْغِنَى عَنْ كَثْرَةِ الْعَرَضِ، وَلَكِنَّ الْغِنَى غِنَى النَّفْسِ»

    ความว่า: ความร่ำรวยไม่ใช่การมีทรัพย์สินอย่างมากมาย แต่ความร่ำรวยคือความพึงพอใจ[5]

    ทรัพย์สินคือวัตถุบนโลกบนดุนยา และความหมายของหะดีษคือ : ความร่ำรวยที่ถูกสรรเสริญคือความร่ำรวยทางจิตใจ ความอิ่มเอิบใจ มีความโลภน้อย ไม่ใช่การมีทรัพย์มากพร้อมกับความปรารถนาอยากได้เพิ่มเติม เพราะคนที่ต้องการเพิ่มเติมย่อมไม่พอใจกับสิ่งที่ตนมีอยู่ดังนั้นจึงไม่ใช่คนที่มีความร่ำรวย

    รายงานจากอับดุลลอฮฺ อิบนุ อัมรฺ อิบนุลอาศ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมกล่าวว่า :

    «قَدْ أَفْلَحَ مَنْ أَسْلَمَ، وَرُزِقَ كَفَافًا، وَقَنَّعَهُ اللهُ بِمَا آتَاهُ»

    ความว่า: ผู้ที่เข้ารับอิสลาม ผู้ได้รับปัจจัยยังชีพอย่างพอเพียง และผู้ที่อัลลอฮฺให้เขาพอใจต่อสิ่งที่พระองค์ประทานให้ย่อมได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน[6]

    รายงานจากอุบัยดุลลอฮฺ อิบนุ มุหฺซิน อัล-คอฏอมียฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมกล่าวว่า :

    «مَنْ أَصْبَحَ مِنْكُمْ آمِنًا فِي سِرْبِهِ، مُعَافًى فِي جَسَدِهِ، عِنْدَهُ قُوتُ يَوْمِهِ، فَكَأَنَّمَا حِيزَتْ لَهُ الدُّنْيَا»

    ความว่า: ใครในหมู่พวกท่านที่เช้าขึ้นมาเป็นผู้ศรัทธาในหมู่ชนของเขา มีร่างกายที่สมบูรณ์ มีอาหารกินของวันนี้ ดังกล่าวนั้นประหนึ่งว่าเขาได้ครอบครองโลกดุนยาแล้ว[7]

    ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม แนะนำผู้ศรัทธาให้มองดูบุคคลที่ต่ำกว่าตนจนกระทั่งรู้สึกถึงความโปรดปรานอันมากมายของอัลลอฮฺที่ประทานให้แก่เรา

    รายงานจากอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า :

    «انْظُرُوا إِلَى مَنْ أَسْفَلَ مِنْكُمْ، وَلاَ تَنْظُرُوا إِلَى مَنْ هُوَ فَوْقَكُمْ، فَهُوَ أَجْدَرُ أَنْ لاَ تَزْدَرُوا نِعْمَةَ اللهِ»

    ความว่า: พวกท่านจงมองดูบุคคลที่ต่ำกว่าพวกท่าน อย่าได้ดูผู้ที่อยู่เหนือกว่า มันเป็นสิ่งที่สมควรมากกว่า ในการที่พวกท่านจะไม่ดูถูกความโปรดปรานของอัลลอฮฺ[8]

    อิบนุ ญะรีรฺและคนอื่นๆ กล่าวว่า : นี่คือหะดีษที่รวมเอาความดีไว้ทุกประการเพราะมนุษย์เมื่อเห็นผู้ที่มีความประเสริฐเหนือกว่าตนในเรื่องของโลกนี้จิตใจย่อมปรารถนาต่อสิ่งนั้น โดยมองว่าความโปรดปรานของอัลลอฮฺที่ตนเองมีอยู่นั้นน้อย ต้องการได้เพิ่มเติมเพื่อบรรลุสู่สิ่งนั้นหรือได้รับสิ่งที่ใกล้เคียงกัน นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในหมู่ผู้คนทั่วไป แต่หากเขามองดูผู้ที่ต่ำกว่าตนในเรื่องของโลกนี้ ความโปรดปรานของอัลลอฮฺที่มีต่อเขาย่อมปรากฏชัดขึ้นทำให้เขาขอบคุณต่อความโปรดปรานนั้น นอบน้อมและทำความดีเพื่อพระองค์[9]

    ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม คือบุคคลที่มีความพึงพอใจและสมถะในเรื่องราวของโลกนี้มากที่สุด รายงานจากอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา นางเคยกล่าวแก่อุรวะฮฺ ลูกชายของพี่สาวนาง ว่า : “พวกเรามองดูจันทร์เสี้ยวกัน 3 ครั้งใน 2 เดือน ไม่มีไฟจุดขึ้นที่บ้านของท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมเลย ฉัน (อุรวะฮฺ) จึงถามว่า : ท่านนบีอยู่กับพวกท่านอย่างไร? นางกล่าวว่า : อัล-อัสวะดาน (อินทผลัมกับน้ำ) นอกจากท่านเราะสูลนั้นมีเพื่อนบ้านเป็นชาวอันซอรพวกเขามีอูฐที่ให้นม พวกเขาจะนำเอา(น้ำนมอูฐ) จากบ้านพวกเขามาให้กับท่านเราะสูล แล้วท่านเราะสูลก็ให้พวกเราดื่มมัน”[10]

    ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เคยขอต่ออัลลอฮฺให้พระองค์ทำให้ปัจจัยยังชีพของท่านเป็นที่พอเพียง กล่าวคือ เท่ากับปริมาณที่ต้องการ

    รายงานจากอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมเคยกล่าวว่า :

    «اللهم اجْعَلْ رِزْقَ آلِ مُحَمَّدٍ قُوتاً»

    ความว่า: โอ้อัลลอฮฺได้โปรดให้ปัจจัยยังชีพของครอบครัวมุฮัมมัดเป็นเพียงอาหารมื้อหลัก[11]

    เหล่าเศาะหาบะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุม ได้ยึดเอาแนวทางอันทรงเกียรตินี้ของท่านนบี รายงานจากอะนัส อิบนุมาลิก กล่าวว่า : ซัลมานได้แสดงอาการเจ็บปวดออกมา สะอฺดฺจึงไปเยี่ยมเขาเห็นเขากำลังร้องไห้ สะอัดจึงเอ่ยถามซัลมานว่า : ท่านร้องไห้ทำไม? ท่านไม่เคยอยู่ร่วมกับท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม อย่างนั้นหรือ? ท่านไม่เคย..? ท่านไม่เคย..หรือ?

    ซัลมานจึงกล่าวว่า : ฉันไม่เคยร้องไห้เพราะสองประการ ฉันไม่เคยร้องไห้เพราะรัก(การมีชีวิตอยู่บน)โลกนี้ และไม่เคยร้องไห้เพราะรังเกียจโลกหน้า ทว่าท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เคยสัญญาไว้กับพวกเราแต่ฉันเห็นว่าตัวเองเป็นคนที่ละเมิด(สัญญา)

    สะอัดกล่าวว่า : ท่านนบีเคยสัญญาอะไรไว้กับท่านหรือ?

    ซัลมานตอบว่า : ท่านนบีสัญญากับฉันว่าแท้จริงเพียงแค่เสบียงของผู้ขับขี่พาหนะคนเดียวก็เพียงพอแล้วสำหรับคนใดในหมู่พวกท่าน ษาบิตกล่าวว่า : พวกเขาได้นับมรดกที่ซัลมานทิ้งไว้ (หลังจากที่ซัลมานเสียชีวิต) ปรากฏว่ามีเพียงยี่สิบกว่าดิรฮัมเท่านั้น”[12]

    อุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ กล่าวว่า : “ความละโมบนั้นคือความยากจน การหมดหวังคือความร่ำรวย แท้จริงแล้วใครที่หมดหวังจากสิ่งที่อยู่ในกรรมสิทธิ์ของคนอื่นเขายอมเพียงพอ (ไม่ต้องการ) จากพวกเขา”[13]

    ความพึงพอใจคือคลังทรัพย์อันยิ่งใหญ่ เป็นสัญลักษณ์หนึ่งจากสัญลักษณ์แห่งความยำเกรง ดังเช่นคำกล่าวที่ว่า “ความพึงพอใจคือคลังที่ไม่มีวันเสียหาย”

    อะลี อิบนุ อบีฏอลิบ กล่าวว่า : “ความยำเกรง คือความเกรงกลัวต่อผู้ทรงสูงส่ง (อัลลอฮฺ) การปฏิบัติตามสิ่งที่ถูกประทานลงมา ความพึงพอใจต่อสิ่งที่มีน้อยนิด และการเตรียมความพร้อมเพื่อวันแห่งการกลับไป”

    ชาวบนี อุมัยยะฮฺบางคนได้เขียนจดหมายขอให้อบู ฮาชิมช่วยเหลือ ครั้นเมื่อเขาได้ช่วยจัดการความปรารถนาต่างๆ ให้พวกเขาแล้วจึงเขียนจดหมายตอบกลับมาว่า : ความจริงฉันเคยนำความปรารถนาต่างๆ ของฉันเสนอต่ออัลลอฮฺ ดังนั้น สิ่งใดที่พระองค์ประทานให้ฉันก็รับมันไว้ ส่วนสิ่งใดที่พระองค์ไม่ให้ฉันก็พึงพอใจเท่าที่มีอยู่แค่นั้น[14]

    มีคำถามถึงนักปราชญ์บางท่านทำนองว่า : อะไรคือความร่ำรวย? เขาตอบว่า : คือการที่ท่านหวังแต่น้อยและพอใจต่อสิ่งที่ให้ความพอเพียงแก่ท่าน

    นักกวีกล่าวว่า :

    ยึดดุนยาให้มั่น จงพอใจ มันไม่ให้สิ่งใดท่านเว้นสุขกาย

    ดูสิผู้ครองดุนยามีมากหลาย แต่ชีพวายไยกลับเพียงผ้าผืนเดียว

    อีกท่านหนึ่งกล่าวว่า :

    ชีวิตนี้จะพอใจหากยินดี แม้ท่านมีเพียงน้อยนิดพอใจหวัง

    อัล-เฆาะซาลียฺ เราะหิมะฮุลลอฮฺ กล่าวว่า : มุฮัมมัด อิบนุ วาสิอฺ ได้เอาน้ำใส่ขนมปังแห้งแล้วกิน และกล่าวว่า: ใครที่เพียงพอต่อสิ่งนี้เขาย่อมไม่ต้องการความช่วยเหลือจากผู้ใด

    มวลการสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺองค์อภิบาลแห่งสากลโลก ขออัลลอฮฺประทานพรและความสันติสุขแด่ท่านนบีมุฮัมมัดและเครือญาติของท่านตลอดจนเหล่าเศาะหาบะฮฺทั้งมวล

    [1] มุอฺญัม มุฟรอดาต อัลฟาซิลกุรอาน, หน้า 429

    [2] สูเราะฮฺ อัน-นิสาอ์, อายะฮฺที่ 32

    [3] สูเราะฮฺ อัน-นะหฺลุ, อายะฮฺที่ 97

    [4] ตัฟซีร อิบนิ กะษีร, เล่ม 2 หน้า 585

    [5] เศาะฮีหฺ อัล-บุคอรียฺ, (4/182) เลขที่ 6446, เศาะฮีหฺ มุสลิม (2/726) เลขที่ 1051

    [6] เศาะฮีหฺ มุสลิม (2/730) เลขที่ 1054

    [7] สุนัน อัต-ติรมีซียฺ (4/547) เลขที่ 2346

    [8] เศาะฮีหฺ อัล-บุคอรียฺ (4/189) เลขที่ 6490, เศาะฮีหฺ มุสลิม (4/2275) เลขที่ 2963

    [9] เศาะฮีหฺ มุสลิม ชัรหุนนะวะวียฺ (97/6)

    [10] เศาะฮีหฺ อัล-บุคอรียฺ (4/184) เลขที่ 6459, เศาะฮีหฺ มุสลิม (4/2283) เลขที่ 2972

    [11] สุนัน อิบนิ มาญะฮฺ (2/1410) เลขที่ 4217

    [12] มุสนัด อิหม่ามอะหมัด (5/438), และหิลยะตุลเอาลิยาอ์ ของอบี นุอัยมฺ (1/196 - 197)

    [13] อิหฺยาอ์ อุลูมิดดีน (3/239)

    [14] อิหฺยาอ์ อุลูมิดดีน (3/239)