السنة في الأعمال الصباحية
أعرض المحتوى باللغة الأصلية
حث وترغيب لجميع المسلمين على إحياء السنة النبوية في الصباح من ذكر ودعاء وعبادة من بعد صلاة الفجر حتى طلوع الشمس كما كان عليه الرسول صلى الله عليه وسلم
ภารกิจยามเช้าตามซุนนะฮฺ
] ไทย – Thai – تايلاندي [
อิสมาอีล ลุตฟี จะปะกียา
ผู้ตรวจทาน : ซุฟอัม อุษมาน
2011 - 1432
﴿السنة في الأعمال الصباحية﴾
« باللغة التايلاندية »
الدكتور إسماعيل لطفي جافاكيا
مراجعة: صافي عثمان
2011 - 1432
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ
ภารกิจยามเช้าตามซุนนะฮฺ
อัลลอฮฺตรัสว่า :
﴿فَاصْبِرْ عَلَى مَا يَقُولُونَ وَسَبِّحْ بِحَمْدِ رَبِّكَ قَبْلَ طُلُوعِ الشَّمْسِ وَقَبْلَ غُرُوبِهَا وَمِنْ آنَاء اللَّيْلِ فَسَبِّحْ وَأَطْرَافَ النَّهَارِ لَعَلَّكَ تَرْضَى﴾ (طه : 130 )
ความว่า : “ดังนั้นเจ้าจงอดทนต่อสิ่งที่พวกเขากล่าวร้าย และจงแซ่ซ้องสดุดีด้วยการสรรเสริญพระเจ้าของเจ้า ก่อนตะวันขึ้นและก่อนตะวันลับลงไป และส่วนหนึ่งจากเวลากลางคืนก็จงแซ้ซ้องสดุดีและในปลายช่วงของเวลากลางวันด้วย เพื่อเจ้าจะได้พออกพอใจ” (สูเราะฮฺ ฏอฮา 130)
โองการของพระองค์อัลลอฮฺนั้นถูกน้อมรับด้วยความเต็มเปี่ยมโดยท่านศาสนทูมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ด้วยการเป็นแบบอย่างแก่ประชาชาติของท่าน ฉะนั้นเราในฐานะประชาติผู้หนึ่งของท่าน มาเถอะมาเราเรียนรู้บางบทของหะดีษ ว่าท่านศาสนทูตของเรานั้นได้กระทำอามัลอะไรบ้างในยามเช้าตรู่ และคำสั่งเสียของท่านนั้นจะได้ปฏิบัติตามกัน ตลอดจนได้รับความประเสริฐและคุณค่าในการปฏิบัติตามซุนนะฮฺดังกล่าว :
1 . عَنْ جَابِرٍ بِنْ سَمُرَةَ رَضِىَ اللهُ عَنْهُ قَالَ :كَانَ النَّبِيُّ صَلى اللهُ عليهِ وَسَلَّم إِذَا صَلَّى الفَجْرَ جَلَسَ في مُصَّلاَهُ حَتىَّ تَطْلُعَ الشَّمْسُ حَسَنًا. (حديث صحيح: رواه مسلم رقم/670)
ความว่า จากท่านญาบิร บุตร สะมุเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า : เมื่อท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เสร็จสิ้นจากการละหมาดศุบห์(ญะมาอะฮฺที่มัสยิดของท่าน) ท่านจะนั่งอยู่กับที่ที่ท่านได้ทำการละหมาดกระทั่งมีแสงตะวันขึ้นชัดเจน (บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข 670)
และในสายรายงานของอิบนุคุซัยมะฮฺในหนังสือศอเฮียะของท่าน 1/373 ท่านได้เล่าว่า ท่านเคยถามท่านญาบิรบุตร ซะมูเราะฮฺว่า : ท่านรอซูลได้ปฏิบัติอย่างไรหลังจากท่านได้ดำรงการละหมาดซุบฮีเสร็จ? ญาบิร กล่าวว่า: ท่านนบีจะนั่ง(ซิกรุลลอฮฺ)ในที่ที่ท่านได้ทำการละหมาดหลังจากที่ท่านได้(เสร็จสิ้น)นมาซซุบฮี จนตะวันขึ้น
2 . عَنْ أَبِيْ أُمَامَةَ رَضِيَ اللهُ عَنهُ أَنَّ رَسُوْلَ الله صَلَّى اللهُ عليه وَسلّم قاَلَ : «لأَنْ أَقْعُدَ أَذْكُرُ اللهُ ، وَأُكَبِّرُهُ ، وَأَحْمَدُهُ ، وَأُسَبِّحُهُ ، وَأُهَلِّلُهُ حَتّى تَطْلُعَ الشَّمْسُ أَحَبَّ إلَيَّ مِنْ أَنْ أَعْتَقَ رَقَبَتَيْنِ أَوْ أَكْثَرَ مِنْ وَلَدِ إِسْمَاعِيْل» (حديث حسن : رواه أحمد 5/255)
ความว่า : จากอบู อุมามะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ แท้จริงท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า “แน่แท้แล้ว ถ้าฉันได้นั่ง(ที่ละหมาด)และฉันได้ซิกิร ตักบีร ตะห์มีด ตัสบีห์ และตะฮฺลีลต่อพระองค์อัลลอฮฺ กระทั่งตะวันขึ้น ย่อมเป็นสิ่งที่ฉันรักยิ่งกว่าการปล่อยทาสสองคนหรือมากกว่านั้น จากทาสที่เป็นลูกหลานของนบีอิสมาอีล” (หะดีษ หะสัน บันทึกโดย อะห์มัด 5/255)
3. عَنْ أَنَسٍ رَضِيَ اللهُ عَنه قَالَ : قَالَ رَسُولُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّم : «مَنْ صَلَّى اْلفَجْرَ فِيْ جَمَاعَةٍ ثُمَّ قَعَدَ يَذْكُرُ اللهُ تَعالى حَتَّى تَطْلُعَ الشَّمْسُ، ثُمَّ صَلَّى رَكْعَتَيْنِ كَانَتْ كَأَجْرِ حَجَّةٍ وَعُمْرَةٍ تَامَّةً تَامَّةً تَامَّةً» (حسن : رواه الترمذي، رقم/586، وقال: حديث حسن غريب. وانظر : الترغيب والترهيب، رقم : 464)
ความว่า : จากอะนัส เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า : “ผู้ใดที่ละหมาดศุบห์พร้อมญะมาอะฮ จากนั้นเขาได้นั่งซิกรุลลอฮฺ (รำลึกถึงอัลลอฮฺ) กระทั่งตะวันขึ้น หลังจากนั้นเขาได้ทำการละหมาดสองร็อกอะฮฺเป็นสุนัต(ฎุหา) เขาจะได้รับผลบุญเหมือนไปประกอบพิธีหัจญ์และอุมเราะฮฺที่สมบูรณ์ สมบูรณ์ และสมบูรณ์” (หะดีษ หะสัน บันทึกโดย อัต-ติรมิซีย์ หมายเลข 586 ท่านกล่าวว่า เป็นหะดีษหะสัน เฆาะรีบ และดูใน อัต-ตัรฆีบ วะ อัต-ตัรฮีบ หมายเลข 464)
ส่วนหนึ่งจากบทซิกรุลลอฮฺในยามเช้าตรู่
1. อ่านวิริดหลังการละหมาด หมายถึงการอ่านอิสติฆฟารฺ (ขออภัยโทษ) การซิกรุลลอฮฺ การตักบีรฺ การสรรเสริญ การตสบีหฺ และการขอดุอาอ์ด้วยเนื้อหาและวิธีการที่มาจากท่านนบีหรือจากเศาะหาบะฮฺ ภายหลังจากการเสร็จสิ้นการละหมาดฟัรฎูแล้ว
2. ขอดุอาอ์ หมยถึงการขอดุอาอ์อื่นๆ ที่ครอบคลุม (ดุอาอ์ญามิอฺ) ที่มาจากท่านนบีหรือเศาะหาบะฮฺของท่านหรือดุอาอ์อื่นๆ ที่มีประโยชน์
3. อ่านอัซการ นะบะวียะฮฺ หรือบทซิกิรฺของท่านนบีในยามเช้า หมายถึงการอ่านบทซิกิรฺที่ท่านนบีได้อ่านและปฏิบัติเป็นประจำในยามเช้าตรู่ หรือบทซิกิรฺที่ท่านนบีได้สอนให้แก่เหล่าบรรดาเศาะหาบะฮฺของท่านไว้
4. อ่านกุรอาน ให้อ่านเป็นประจำทุกวัน ประมาณ 1 ญุซอ์ต่อวัน หรืออาจมากกว่านั้นก็ยิ่งดี หรือครึ่งญุซอ์ หรือน้อยกว่านั้น แต่อยากให้เป็นกิจวัตรประจำวันของเรา โดยเฉพาะในยามเช้าตูร่หรืออาจเป็นการท่องอัลกุรอานก็ได้ ทั้งนี้เนื่องจากว่าการซิกิรฺที่ดีสุดนั้นคือการอ่านอัลกุรอาน
5. ศึกษาเรียนรู้อัลกุรอานและซุนนะฮฺหรืออาจจะเป็นการท่องจำทั้งสองอย่างดังกล่าว
6. สอนหรือเรียนรู้วิชาแขนงต่างๆ โดยเฉพาะที่จะนำสู่การเข้าใจอัลกุรอานและซุนนะฮฺ หรือวิชาต่างๆ ที่เป็นเครื่องมือในการเข้าใจอัลกุรอานและซุนนะฮฺ
7. การตักเตือนนะศีหะฮฺ ด้วยเนื้อหาที่เป็นสัจธรรมและความเศาะบัร (อดทน) ที่สามารถนำมายกระดับชีวิตของมนุษย์ให้ยำเกรงต่ออัลอฮฺมากยิ่งขึ้น ตลอดจนสามารถปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองในฐานะที่เป็นมุสลิมคนหนึ่งที่จำต้องรักซุนนะฮฺของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ในทุกอิริยาบถ
คำเชิญชวน แด่...พี่น้องมุสลิมและมุสลิมะฮฺทุกท่าน
จงฉกฉวยโอกาสในเวลายามเช้าตรู่ที่มีคุณค่ามากสำหรับชีวิตของเราในแต่ละวัน ซึ่งมีอยู่ในมัสยิดอันเป็นสถานที่ที่ดีที่สุด เพราะอากาศยามเช้านั้นช่างดีเหลือเกินสำหรับเรา มันเต็มไปด้วยความบะเราะกะฮฺในทุกๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นทางด้านจิตใจ หรือทางด้านความจำของสมอง หรือการตอบสนองของสมองที่มีสภาพสดใสและแข็งแรง โดยเฉพาะบรรดานักศึกษาและคณาจารย์ทั้งหลาย และจงต่อสู้กับอารมณ์ใฝ่ต่ำในยามเช้าที่คอยสร้างปัญหาอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิตของเราในแต่ละวัน จนทำให้เราต้องสูญเสียเวลาอันมีค่านี้ไปอย่างไร้ประโยชน์
ขออัลลอฮฺทรงช่วยเหลือบ่าวพระองค์ด้วยเถิด
وصلى الله على نبينا محمد وعلى آله وصحبه وسلم ، سبحان ربك رب العزة عما يصفون ، وسلام على المرسلين ، والحمد لله رب العالمين.
..................
ที่มา ... มัสยิดอิบาดุรเราะหฺมาน ปัตตานี
28 ซุลเกาะอฺดะฮฺ 1423