น้ำตาและเสียงร้องไห้
หมวดหมู่
Full Description
น้ำตาและเสียงร้องไห้
] ไทย – Thai – تايلاندي [
มัสลัน มาหะมะ
ตรวจทานโดย : ซุฟอัม อุษมาน
ที่มา : www.iqraforum.com
2012 - 1433
الدمع والبكاء
« باللغة التايلاندية »
مزلان محمد
مراجعة: صافي عثمان
المصدر: www.iqraforum.com
2012 - 1433
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ
น้ำตาและเสียงร้องไห้
บทความนี้เป็นบทวิเคราะห์ของอิบนุล ก็อยยิม
เราะหิมะฮุลลอฮฺ ที่มีความลุ่มลึกและละเอียดอ่อนที่ได้รับกลั่นกรองจากรัศมีแห่งอีมานและทางนำแห่งความรู้ ของ
อุละมาอ์นามอุโฆษยุคฮิจญ์เราะฮฺศตวรรษที่ 8 ผู้นี้ อยากให้ทุกท่านดื่มด่ำกับบรรยากาศแห่งความรู้ เพื่อเติมเต็มอีมานที่กำลังร่อยหรอลงไปทุกวัน ให้กลับมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
อิบนุล ก็อยยิม เราะหิมะฮุลลอฮฺ ได้กล่าวว่า การร้องไห้ของมนุษย์เรา น่าจะมาจากสาเหตุหลัก 10ประการ ได้แก่
1. ร้องไห้เพราะรู้สึกสงสารคนอื่น
2. ร้องไห้เพราะหวาดกลัวและวิตกกังวล
3. ร้องไห้เพราะเสียใจ
4. ร้องไห้เพราะรักและห่วงใย
5. ร้องไห้เพราะดีใจ
6. ร้องไห้เพราะได้รับความเจ็บปวด
7. ร้องไห้เพราะท้อแท้ สิ้นหวังหรือหมดกาลังใจ
8. ร้องไห้เพราะเสแสร้งหรือแกล้งร้อง หากแกล้งร้องที่มาจากหัวใจที่อ่อนโยนและมีความเกรงกลัวอัลลอฮฺแล้ว ถือเป็นการร้องไห้ที่น่ายกย่อง แต่หากแสร้งร้องเพื่อต้องการโอ้อวดหรือเอาใจมนุษย์ด้วยกันก็ถือเป็นการร้องไห้ที่น่าตำหนิ
9. ร้องไห้เพราะถูกจ้างให้ร้อง
10. ร้องไห้เพราะคล้อยตามคนที่ร้องไห้อยู่แล้ว
ความแตกต่างระหว่างการร้องไห้เนื่องจากเสียใจกับการร้องไห้เพราะหวาดกลัวและวิตกกังวลนั้น การร้องไห้เนื่องจากเสียใจ จะเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์อันเลวร้ายได้ผ่านไปแล้ว แต่การร้องไห้เนื่องจากความวิตกกังวลจะเกิดขึ้นด้วยการคาดการณ์ว่าสิ่งนั้นอาจเกิดขึ้นในอนาคต
ส่วนความแตกต่างระหว่างการร้องไห้เพราะดีใจกับการร้องไห้เพราะเสียใจนั้น น้ำตาแห่งความดีใจจะเย็นฉ่ำและหัวใจมีความสุขเบิกบาน แต่น้ำตาแห่งความเสียใจจะอุ่นร้อนในขณะที่หัวใจทุกข์ระทม
﴿ وَأَنَّهُۥ هُوَ أَضۡحَكَ وَأَبۡكَىٰ ٤٣ ﴾ [النجم: ٤٣]
“และแท้จริงพระองค์ทรงทำให้หัวเราะและทรงทำให้ร้องไห้” (อัน-นัจญ์มุ 43)
อัลลอฮฺเป็นผู้ทรงทำให้ผู้คนหัวเราะและร้องไห้ พร้อมทรงบันดาลเหตุปัจจัยที่ทาให้บุคคลได้หัวเราะและร้องไห้เช่นเดียวกัน หยาดน้ำตาอันมากมายที่ไหลรินอยู่บนโลกนี้และไหลอาบแก้มผู้คนอย่างต่อเนื่อง ต้องมีสาเหตุและเบื้องหลังอย่างแน่นอน ถึงแม้นัยน์ตาจะมีขนาดเล็ก แต่ก็สามารถผลิตน้าตาที่ไม่เคยแห้งเหือด มันจะไหลพรั่งพรูออกมาทุกวันอย่างไม่ขาดสาย เสมือนแม่น้ำที่ไหลสู่มหาสมุทรอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีวันหมด หากมีการเก็บกักน้ำตาแล้วไซร้ คงจะเกิดน้ำตาท่วมโลกอย่างมิต้องสงสัย
การร้องไห้ในบางกรณีก็สมควรแก่การชื่นชมสนับสนุน เช่นร้องไห้เพราะเสียใจต่อความผิดพลาดในอดีตหรือเกรงกลัวการทรมานของอัลลอฮฺ แต่ในบางกรณีก็น่าตำหนิและไม่เป็นที่สนับสนุน เช่น การร้องห่มร้องไห้เนื่องจากสูญเสียคนรักในลักษณะราพึงรำพัน ถึงขนาดตบตีใบหน้า ทำร้ายร่างกายหรือฉีกเสื้อผ้า การร้องไห้ในลักษณะนี้ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของชนยุคอวิชชา ดังนั้น
- เจ้าอย่าร้องไห้เนื่องจากผิดหวังในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เพราะทุกอย่างพระองค์ได้กำหนดเป็นที่แน่นอนแล้ว
- เจ้าอย่าร้องไห้เนื่องจากถูกปฏิเสธความรักจากคนพิเศษ เพราะเขาหรือเธออาจไม่ใช่เนื้อคู่ที่แท้จริงก็เป็นได้
- เจ้าอย่าร้องไห้เนื่องจากคะแนนข้อสอบไม่ได้ดั่งใจหวัง บางทีเจ้ายังใช้ความพยายามอุตสาหะที่ไม่ดีพอ
- เจ้าอย่าร้องไห้เพราะไม่มีใครคบค้าสมาคมด้วย เพราะบางทีเจ้าไม่ค่อยมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีพอกับคนเหล่านั้น
- เจ้าอย่าร้องไห้เนื่องจากทรัพย์สินเงินทองสูญหายหรือถูกขโมย บางทีเจ้าอาจไม่ค่อยชอบบริจาคทานก็ได้
- เจ้าอย่าร้องไห้เนื่องจากต้องทนทุกข์ทรมานกับโรคร้ายที่รุมเร้า บางทีมันเป็นสาเหตุให้เรากลับเนื้อกลับตัวหรือเพิ่มพูนผลบุญก็ได้
- เจ้าอย่าร้องไห้อย่างบ้าคลั่งกับชัยชนะที่ได้รับ บางทีมันเป็นแค่การทดสอบของอัลลอฮฺว่าเจ้าจะรู้จักขอบคุณพระองค์มากน้อยเพียงใด
- เจ้าอย่าร้องไห้เพื่ออื่นใดเว้นแต่เกรงกลัวอัลลอฮฺ เสียใจต่อความผิดพลาดในอดีต หวาดกลัวการโทษทัณฑ์ของพระองค์และความวุ่นวายของวันกิยามะฮฺ เพราะน้ำตาของเจ้ามีคุณค่าเกินกว่าที่จะมัวหลั่งรินกับสิ่งไร้สาระและไม่จีรัง
การร้องไห้ของนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ก็มีลักษณะที่คล้ายคลึงกับการหัวเราะของท่าน กล่าวคือท่านจะกลั้นเสียงร้องไห้เสมือนที่ท่านกลั้นเสียงหัวเราะ ท่านร้องสะอื้นด้วยน้ำตาที่อาบแก้ม จนกระทั่งผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับท่านได้ยินเสียงสั่นเครือที่ดังขึ้นจากทรวงอกของท่านเสมือนเสียงน้ำที่กำลังเดือดบนเตาไฟ
ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ระบุ คนเจ็ดประเภทที่สามารถพึ่งพิงร่มเงาใต้ อะรัช(บัลลังก์ของอัลลอฮฺ)ในวันกิยามะฮฺ หนึ่งในนั้นคือผู้ที่ราลึกอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา เพียงคนเดียวและน้ำตาของเขาไหลอาบแก้มเนื่องจากเกรงกลัวอัลลอฮฺและเสียใจต่อความผิดพลาดของตนในอดีต
อัล-กินดีย์ เราะหิมะฮุลลอฮฺ ได้กล่าวว่า น้ำตาที่หลั่งออกมาเนื่องจากเกรงกลัวอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา สามารถดับทะเลไฟนรกได้
ท่านอิบนุอับบาส เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา ได้รายงานจาก นบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมว่า นัยน์ตาสองประเภทที่จะไม่ถูกไฟนรกเผาผลาญ คือ 1) นัยน์ตาที่ร้องไห้ช่วงหลังเที่ยงคืนเนื่องจากเกรงกลัวอัลลอฮฺ และ 2) นัยน์ตาที่อดนอนเพราะเป็นยามรักษากิจการในหนทางของอัลลอฮฺ
อบู ซัลมาน อัด-ดารอนีย์ รอฮิมะฮุลลอฮฺ กล่าวว่า หัวใจที่ปราศจากความยำเกรงอัลลอฮฺคือหัวใจที่พังพินาศ เพราะอัลลอฮฺได้กล่าวว่า
﴿ أَفَأَمِنُواْ مَكۡرَ ٱللَّهِۚ فَلَا يَأۡمَنُ مَكۡرَ ٱللَّهِ إِلَّا ٱلۡقَوۡمُ ٱلۡخَٰسِرُونَ ٩٩ ﴾ [الأعراف: ٩٩]
ความว่า “แล้วพวกเขารู้สึกปลอดภัยจากอุบายของอัลลอฮฺกระนั้นหรือ ไม่มีผู้ใดที่มั่นใจว่าจะปลอดภัยจากอุบายของอัลลอฮฺ นอกจากกลุ่มชนที่ขาดทุนเท่านั้น” (อัล-อะอฺรอฟ 99)
ดังนั้น เจ้าจงรักษาและทะนุถนอมน้ำตาเหล่านี้ไว้ให้ดี อย่าให้น้าตาของเจ้าไหลรินออกมาเพียงเพื่อตอบสนองความจอมปลอมทั้งหลาย จงหลั่งน้ำตาให้อาบแก้ม ขณะที่เจ้าก้มสุญูดยามหลังเที่ยงคืนอันเงียบสงัด มีความสานึกผิดและเสียใจต่อความผิดพลาดที่ได้กระทำลงไป โศกาอาดูรกับบาปที่สร้างรอยด่างในชีวิต เศร้าโศกกับความบกพร่องที่เป็นเหตุให้เกิดจุดดำในหัวใจ ยามนั้น ขอให้เจ้าจงขอลุแก่โทษด้วยหัวใจที่นอบน้อม สำรวม เพื่อก้าวสู่อาทิตย์อุทัยแห่งทางนำของอัลลอฮฺ สุบฮานะฮูวะตะอาลา
จงเรียกน้ำตาที่ถูกกักไว้ในคลังนัยน์ตาของเจ้า ให้ไหลรินอาบแก้มตลอดเวลา เพื่อทำหน้าที่ชโลมจิตและชำระหัวใจให้สะอาดหมดจด เพื่อทลายบาปที่สุมเป็นกองพะเนิน เผื่อว่าเจ้าจะได้รับความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ ผู้ทรงยิ่งในความเมตตา
ข้าแต่พระองค์ ได้โปรดประทานให้หัวใจของฉันมีความมั่นคงในศาสนาของพระองค์ และได้โปรดให้ฉันหลั่งน้ำตาเนื่องจากรู้สึกยำเกรงพระองค์ด้วยเถิด
http://www.iqraforum.com/forum/index.php/topic,4050.0.html